18มิ.ย.'ทักษิณ'ไม่เบี้ยว? รัวหมัดดิสเครดิตคดี112

ทักษิณ ชินวัตร ยืนยันไว้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สัปดาห์หน้า อังคารที่ 18 มิ.ย. จะเดินทางไปพบพนักงานอัยการตามนัด ที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้อัยการพาตัวไปส่งฟ้องต่อศาลอาญา ในคดีที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องทักษิณมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

 ซึ่งเมื่ออัยการนำตัวทักษิณไปส่งฟ้องต่อศาลอาญา ก็จะทำให้ ทักษิณมีสถานะเป็น "จำเลย” ในคดีดังกล่าวต่อศาลอาญาทันที หลังจากนั้นก็รอลุ้นต่อไปว่าศาลอาญาจะให้ประกันตัวทักษิณหรือไม่?

อย่างไรก็ตาม หลายคนยังเชื่อว่าศาลอาญาน่าจะให้ทักษิณได้ประกันตัว เพราะคดีดังกล่าวเป็นแค่ขั้นตอนการยื่นฟ้อง กระบวนการสู้คดียังอีกยาวไกลหลายปี เอาแค่จบในชั้นศาลชั้นต้นก็น่าจะเกือบสองปี อันนี้ไม่นับรวมอีกสองศาลคือ ศาลอุทธรณ์กับศาลฎีกา กรณีหากฝ่ายโจทก์คืออัยการและจำเลยคือทักษิณ ไม่พอใจคำตัดสินของศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ จนมีการสู้คดีกันถึงสามศาล

ดังนั้น การให้สิทธิจำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อสู้คดี จึงเป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าศาลอาญาก็ต้องให้สิทธิดังกล่าวกับทักษิณ

ขณะที่ก็ยังมีอีกฝ่ายมองว่า ก็ไม่แน่ ศาลอาจไม่ให้ประกันตัวก็ได้ เพราะทักษิณเคยมีประวัติหนีคดีมาแล้วในคดีที่ดินรัชดาฯ ที่ตอนช่วงใกล้ตัดสินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ทักษิณขอศาลฎีกาเดินทางออกนอกประเทศ แล้วก็หนีไปเลยร่วม 17 ปี จนกลับมาปี 2566

 จุดนี้เลยทำให้ฝ่ายที่เชื่อว่าศาลอาญาก็อาจไม่ใช่ว่าจะพิจารณาให้ประกันตัวกับทักษิณง่ายๆ เสมอไป คืออาจให้ประกันก็ได้ แต่มีเงื่อนไขอะไรที่พิเศษแตกต่างจากจำเลยคดี 112 คนอื่นๆ  

วันที่ 18 มิ.ย.นี้ ฉากแรกที่ต้องรอดูก่อนก็คือ ทักษิณจะไปพบอัยการตามนัดหรือไม่ โดยหากทักษิณไปตามนัด ก็ค่อยมาลุ้นว่าศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ เป็นฉากต่อไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี-หนึ่งในนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามทักษิณและพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีทักษิณไว้น่าสนใจ โดยระบุตอนหนึ่งว่า

“คดีความผิดตามมาตรา 112 ก็ไปอ้างผลไม้พิษจากการรัฐประหาร ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นผู้ไปให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศที่เกาหลี ให้ร้ายสถาบันเบื้องสูงเอง เท่ากับว่าคุณกำลังกล่าวหาเบื้องสูง แต่ที่ย้อนแย้งมากก็คือการที่บอกจะทำประโยชน์ ตอบแทนประชาชน และยังกล้าที่บอกว่าจะตอบแทนพระเจ้าอยู่หัว ทั้งๆ ที่สิ่งที่ตนเองทำนั้น ทำตัวเหนือกฎหมาย สร้างความวุ่นวายให้ประเทศ

ไม่รู้จะเรียกคนแบบนี้ คนที่พูดไปเรื่อย พูดแบบไม่รับผิดชอบว่าอะไรดี แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้มีขบวนการวิ่งเต้นผ่านอดีตประธานศาลฎีกาสองคน และอดีตอัยการสูงสุด 1 คน เพื่อให้เขาได้ประกันตัวในชั้นศาล ในความผิดตามมาตรา 112 ที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ลองคิดดูละกันว่า คนที่เคยหนีประกันมาแล้ว สมควรยังได้ประกันตัวอีกหรือไม่ ดูซิว่าพลังถุงขนม ที่ใช้วิ่งเต้นจะทำงานได้หรือไม่ แต่โดยส่วนตัวผม ยังเชื่อมั่นในระบบของตุลาการ ถ้าให้ประกันตัว นักโทษที่เคยหนีประกัน อธิบายสังคมยากครับ”

การอ้างข้อมูลเรื่อง ขบวนการวิ่งเต้น ดังกล่าว แกะรอยที่มาที่ไป พบว่าเริ่มมีการพูดถึงมาหลายวันแล้ว แต่ยังไม่ถูกขยายผลทางการเมืองมากนัก ต้องรอดูวันที่ 18 มิ.ย.นี้อีกที ว่าทักษิณจะได้การประกันตัวหรือไม่ ถึงตอนนั้น ไม่แน่ 3 ตัวละครลับ ที่หมอวรงค์เอ่ยอ้าง อาจถูกขยายผลมากขึ้นก็ได้

กระนั้นก็จะพบว่า แม้อัยการสูงสุดจะมีความเห็นสั่งฟ้องทักษิณไปแล้ว แต่ฝ่าย ทักษิณ-ทีมทนายความ แม้จะอยู่ในช่วงเตรียมตัวไปพบอัยการตามนัด 18 มิ.ย. แต่ขณะเดียวกันก็ยังใช้วิธีการ ดิสเครดิตการทำคดี ของฝ่ายตำรวจและอัยการ ที่สั่งฟ้องทักษิณในคดี 112 ดังกล่าวอยู่ตลอดเวลา

อย่างเช่น การให้สัมภาษณ์ของทักษิณเมื่อ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ซัดเต็มข้อทำนองว่า ที่โดนคดีดังกล่าวเป็นเรื่องทางการเมือง ที่ตามมาหลัง คสช.ทำรัฐประหารรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

“ไม่เห็นมีอะไรเลยคดีนี้ และคดีนี้จะเป็นตัวอย่างให้คนเห็นว่าตอนปฏิวัติยัดข้อหาอย่างไร คดีนี้เป็นคดีที่ไม่มีมูลเลยแม้แต่นิดเดียว และพยายามที่จะนำไปตีความเพื่อให้มันมีมูล และเมื่อคนหนึ่งสั่งฟ้อง คนอื่นก็ไม่กล้าที่จะสั่งไม่ฟ้อง เลยสั่งฟ้อง ซึ่งไม่ใช่หลักกฎหมาย จริงๆ แล้วไม่มีอะไร

คดีแทบจะไม่มีมูล แบบนี้เขาเรียกว่าเป็นผลไม้ของต้นไม้ที่เป็นพิษ คือการทำคดีแต่ละข้อกล่าวหาตั้งแต่ต้นที่มีการข่มขู่ ตั้งแต่ในชั้นพนักงานสอบสวนโดยผู้บังคับบัญชา คดีไม่ควรเป็นคดี” (ทักษิณ ชินวัตร 8 มิ.ย. ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนต่อกรณีคดี 112 ที่ถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้อง)

และต่อมาเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. สื่อมวลชนก็เสนอข่าวว่า ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมกฎหมายของนายทักษิณยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมถึงนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ที่เป็นผู้ลงนามสั่งฟ้องทักษิณ โดยมีรายงานว่าคำร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว ระบุว่า

“คณะกรรมการสอบสวนขณะนั้นถูกข่มขู่จากรัฐบาล คสช. จนขาดความเป็นอิสระในการรวบรวมพยานหลักฐานทางคดี ทำให้นายทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรมการพิจารณาสั่งคดีจากอัยการสูงสุด จึงขอให้อัยการสูงสุดทบทวนการสั่งฟ้องนายทักษิณ ตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ใหม่อีกครั้ง เพื่อความยุติธรรมด้วย”

อย่างไรก็ตาม การร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว ยังไงก็ไม่มีผลทำให้คดีพลิกไปจากนี้ได้อีก เพราะอัยการสูงสุดมีความเห็นทางคดี มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่ประชาชนทั้งประเทศรู้แล้วว่าอัยการสูงสุดสั่งคดีอย่างไร

ในความเป็นจริง จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ อสส.จะมาเขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า มาพลิกการสั่งคดีเพียงเพราะทีมทนายทักษิณมายื่นเรื่องขอความเป็นธรรมหลังสั่งคดีไปแล้ว เพราะถ้าอัยการมีความเห็นกลับไปกลับมา ความน่าเชื่อถือขององค์กรอัยการก็พังย่อยยับ จะถูกข้อครหาต่างๆ จากสังคมมากมาย ที่ก็เชื่อว่าฝ่ายทักษิณ-ทนายความ ก็รู้เรื่องนี้ดี แต่เหตุที่เคลื่อนไหวดังกล่าวก็เพื่อหวังเป็นข่าว จะได้ดิสเครดิตทำลายน้ำหนักคดีนั่นเอง

แต่เรื่องนี้ก็ทำให้อดีตคนที่เคยเกี่ยวข้อง เช่น ตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า “ขอยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่า ในฐานะเป็น อสส.ในขณะนั้น ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีอาญานอกราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 ไม่เคยมีใครข่มขู่ โน้มน้าว ชักจูง ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการสอบสวนครับ”

มองดูแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้ก็คือ เมื่อทักษิณมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง คิดว่าตัวเองสู้คดีได้ แต่ที่โดนสั่งฟ้องเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม มีการยัดข้อหาให้ตัวทักษิณ ก็เดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อสู้คดีจนถึงที่สุด ให้ทั้งสามศาลได้ตัดสิน เส้นทางนี้คือทางที่ดีที่สุด สง่างามที่สุดแล้ว และที่สำคัญต้องไม่หนีคดีอีกเป็นอันขาด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปักหมุด‘ครม.สัญจร’เชียงใหม่ กู้ศก.-ฟื้นท่องเที่ยวหลังภัยพิบัติ

ประเดิมนัดแรก “ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่” หรือ “ครม.สัญจร” ของรัฐบาล “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จังหวัดเชียงใหม่ บ้านเกิดตระกูลชินวัตร

ตั้งแท่นงบฯเรือฟริเกตทร. จับตาเกมเตะถ่วง"เรือดำน้ำ"

แม้กระแสข่าวเล็กๆ ที่สร้างความชุ่มชื่นหัวใจให้กับกองทัพเรือ (ทร.) ว่ารัฐบาลอาจจะไฟเขียวเดินหน้า “เรือดำน้ำจีน” ต่อไป หลังจาก “อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม

ติดสลักกม.ประชามติ รธน.ใหม่ส่อลากยาว

สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ได้ข้อสรุปหลักเกณฑ์ที่จะใช้สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรียบร้อย โดยให้ยึดเสียงข้างมาก 2 ชั้น กล่าวคือ 1.ต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด และ 2.ต้องได้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ์

'ภูมิธรรม' สดุดี 'ทักษิณ' ครองใจคนอุดรฯ พา พท. ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.

'ภูมิธรรม' ฟุ้งอุดรธานีหัวใจคนเพื่อไทยโดยแท้ ชนะเป็นเรื่องธรรมดา ยํ้า ปชช. ยังรัก 'ทักษิณ' ชอบผลงานที่ทำมา อุบ 'อิ๊งค์' ลงพื้นที่ขอบคุณ