ควันหลงเลือกสว.ชั้นอำเภอ ลุ้นระดับจังหวัด-ประเทศ

ผ่านไปแล้วสำหรับการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.)  ในระดับอำเภอ จำนวน 928 แห่งทั่วประเทศ   ได้ผู้เข้ารอบเพื่อไปคัดเลือกต่อในระดับจังหวัดจำนวน 23,645 คน จากผู้สมัครทั้งหมด 46,206 ใน 20 กลุ่มอาชีพที่มีผู้ผ่านเข้ารอบมากที่สุดคือ กลุ่มผู้สูงอายุคนพิการฯ จำนวน 1,984 คน

โดยบุคคลที่มีชื่อเสียงก็ผ่านเข้ารอบเกือบครบตามคาด เช่น สมชัย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี , สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. , หมอเหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ , วีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง, พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , สัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ พี่ชาย แรมโบ้อีสาน , แทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ , นารากร ติยายน อดีตผู้ประกาศข่าวช่องดัง ,วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง

ส่วนคนทีไม่ผ่านการคัดเลือกระดับอำเภอ อาทิ อุษณีย์ ชิดชอบ พี่สาวของ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด , นิยม นพรัตน์ (เค สามถุยส์) ,ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต , สุชาติ ชมกุล อดีตประธานสภาทนายความ เป็นต้น

หลังจากนี้ผู้ผ่านเข้ารอบในระดับอำเภอ อำนวยการเลือกระดับอำเภอ จะส่งรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในระดับอำเภอ ให้ผู้อำนวยการในระดับจังหวัด พร้อมเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์คณะกรรมกรรการเลือกตั้ง (กกต.) และแอปพลิเคชันสมาร์ทโหวต เพื่อให้สาธารณชนรับทราบต่อไป และจะมีการทำเอกสารแนะนำตัวให้ผู้สมัครในระดับจังหวัดได้รู้จักกัน และคัดเลือกในระดับจังหวัดต่อไปในวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.นี้ โดยจะใช้วิธีการคัดเลือกในลักษณะเดียวกันคือ เลือกกันเองในกลุ่ม หลังจากนั้นค่อยแบ่งสายเพื่อเลือกไขว้ต่อ

ทั้งนี้เมื่อจบการคัดเลือกระดับอำเภอมี "ควันหลง" ข้อผิดพลาดของผู้สมัครที่น่าเสียดายแทน ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้สมัครจำนวนหนึ่งมารายงานไม่ทันตามกำหนดเวลา 09.00 น. และมีกรณีที่ จ.นนทบุรี ผู้สมัครนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่นหูฟังเข้าไปในที่เลือก โดยตั้งแต่ข้อสงสัยว่าลืมถอด หรือ ตั้งใจนำเข้าไปในสถานที่เลือก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเจอและเก็บเพื่อนำไปร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัครที่ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เจ็บป่วยกะทันหัน จึงเสียสิทธิในการเลือกและการลงคะแนน

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่มีการคัดเลือกสว.มีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย และในช่วงระหว่างการคัดเลือกก็เริ่มมี "กลิ่นแปลกๆ"ที่อาจทำให้การคัดเลือกไม่โปร่งใส โดย นายสมชาย แสวงการ  ส.ว. ได้ออกมาแง้มในเรื่องนี้ว่า "ในพื้นที่ต่างจังหวัด หลายอำเภอได้มีการจัดตั้ง ขนคนมาโหวต และขนคนกลับ โดยมีผู้หวังดีส่งภาพการซักซ้อม การกาบัตร กาเบอร์ 3 กาเบอร์6 ในเซฟเฮาส์ โดยเป็นไปตามที่คาดไว้ และเชื่อว่าจะได้สว.ที่มาจากการจัดการ ได้สภาฮั้ว มาแทนสภาผัวเมีย แทนสภาปลาสองน้ำ แทนสภา คสช.ตั้ง ดังนั้นกกต. ที่มีฝ่ายสืบสวนขอให้ติดตามเรื่องดังกล่าว"

ในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ที่มีผู้เข้าไปสมัครแล้วยอมรับว่า ได้รับการว่าจ้างมาจริงๆเพื่อเข้าไปเลือกบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือแม้กระทั่งการคัดเลือกในพื้นที่เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการลงคะแนนเลือกกันเองโดยไม่ใส่คะแนนให้ตนเอง และเลือกให้คนอื่นแบบเป็นกลุ่มก้อน

สาเหตุที่ต่างจังหวัดเกิดเหตุในลักษณะนี้มากกว่าในกรุงเทพมหานคร เพราะมีระบบการเมืองท้องถิ่นที่ "ฝั่งลึก" ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร หรืออาชีพท้องถิ่นที่มีรายได้น้อย การดึงตัวชักชวนชาวบ้านเพื่อเตี๊ยมกันเลือกคนใดคนหนึ่ง โดยเอาเงินมาล้อ จึงทำได้ง่าย ซึ่งการทุจริตดังกล่าวเกิดขึ้นการเลือกตั้งทุกระดับ จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ผู้สมัครที่ตั้งใจอยากจะเป็นสว.จริงๆมีโอกาสน้อยที่จะเข้ารอบ ส่วนกรุงเทพมหานครมีความเป็นอิสระสูงกว่าพื้นที่อื่น ๆ ทำให้อยากต่อการจัดตั้ง

แต่กลับกันเมื่อเข้าสู่การคัดเลือกในระดับประเทศ โอกาสที่จะฮั้วกันจะน้อยลง การเมืองท้องถิ่นจะดำเนินการแทรกแทรงได้ยาก นั่นเป็นเพราะผู้สมัครมาทั่วทุกสารทิศ การที่บ้านใหญ่จะเข้าไปขยายอิทธิพลข้ามจังหวัด ข้ามภูมิภาคจึงแทบเป็นไปไม่ได้ รวมถึงต่างฝ่ายต่างไม่ยอมเสียคะแนนให้กับใครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ยังมีข้อท้วงติงภายในเขตพื้นที่หน่วยคัดเลือก โดยส่วนใหญ่ระบุว่า ควรจัดพื้นที่สังเกตการณ์ด้านในที่เอื้อให้ประชาชนสามารถสังเกตการณ์ได้ใกล้ชิดกว่านี้ เพราะแม้จะดูภาพได้จากกล้องซีซีทีวีอยู่ก็จริง แต่ไม่ได้ครอบคลุมทุกมุม และเผยแพร่แค่ภาพ ไม่ได้เผยแพร่เสียง แต่ในบางอำเภออนุญาตให้ประชาชนเข้าไปรับชมแม้กระทั่งในขั้นตอนการนับคะแนน ดังนั้นกกต. ควรปรับปรุงเรื่องนี้ในการเลือกตั้ง สว. ระดับจังหวัด ให้เป็นไปไหนมาตรฐานระดับเดียวกัน

แม้ว่าข่าวเรื่อง การฮั้ว หรือการจัดตั้งกลุ่มจะเกิดขึ้นหนาหูตั้งแต่ก่อนการเปิดรับสมัคร กรณีนี้กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ จัดทีมเฝ้าระวังไม่ว่าจะเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่รัฐระดับท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามความเคลื่อนไหว และสั่งให้กกต.ประจำจังหวัดต่างๆจับตาผู้สมัครสว. หากพบความผิดปกติให้รายงานโดยตรงมาที่ส่วนกลางได้ทันทีเพื่อดำเนินการสืบสวนเอาผิด

ทั้งหมดทั้งมวลคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการคัดเลือกในระดับอำเภอ ส่วนในระดับจังหวัดที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า และระดับประเทศจะเป็นอย่างไร จึงต้องรอดูกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อิ๊งค์’สะกดอารมณ์ฝ่าซักฟอก2วัน รอลุ้นคะแนนโหวต-งูเห่าสมทบ!

ผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ใช้เวลา 2 วัน 24-25 มีนาคม ก่อนลงมติวันนี้ 26 มีนาคม 2568 ซึ่งลีลาของ “นายกฯ อิ๊งค์” ในการแจงข้อซักฟอกถือว่าสามารถสะกดอารมณ์ได้ดี ไม่ปล่อยหมัดเด็ดตรงๆ ใส่ฝ่ายค้าน แต่ใช้ความนิ่งตอบเจ็บๆ ในบางช่วงเช่นกัน

‘ฝ่ายค้าน’ซักฟอก‘นายกฯอิ๊งค์’ ขยายแผล ปูทาง ยื่น 'ป.ป.ช.'

เปิดฉากกันไปแล้ว ศึกซักฟอก อุ๊งอิ๊ง-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้คอนเซปต์ ‘ดีลแลกประเทศ’ วันแรก ไฮไลต์สำคัญ ช่วงเช้าหนีไม่พ้นการเปิดหัวของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และการลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกของ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ระเบิดศึกซักฟอก ดีลแลกประเทศ ขยี้"นายกฯอิ๊งค์"ขย้ำ"ทักษิณ"

หลังการเมืองไทยว่างเว้นจากการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจมาร่วม 2 ปีเศษ เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ค.2565 ตอนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาวันนี้สิ้นสุดการรอคอยกับศึกซักฟอก-เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ซักฟอก ‘ดีลแลกประเทศ’ ฟ้องสังคม ‘ชินวัตร’ ได้อะไร

จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคม ตั้งแต่เช้าจนถึงตี 5 และลงมติในวันที่ 26 หรือ 27 มีนาคมนี้ ภายใต้ธีม

สแกนข้อมูล‘ฝ่ายแค้น’ แตกหักหรือแบล็กเมล

นอกจากบทบาทของพรรคประชาชน (ปชน.) ในการซักฟอกระหว่างวันที่ 23-24 มี.ค. ต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้ธีม “ดีลแลกประเทศ” ว่า สุดท้ายจะทำหน้าที่สมศักดิ์ศรีหรือไม่