สารพัดปัญหาคัดเลือกส.ว. กกต.รอรับแรงกระแทก!

ปัญหาเกี่ยวกับการคัดเลือก สมาชิกวุฒิสภา(สว.) แทบไม่ให้เว้นวัน ตัังแต่ยังไม่ถึงช่วงการคัดเลือกสว. เพราะผ่านไปแล้วสำหรับช่วงการรับสมัครผู้เข้ารับการคัดเลือกสว. 2567 ตั้งแต่วันที่ 20 - 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ผลปรากฎว่า จำนวนผู้ที่มาสมัครน้อยกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งเป้าไว้อย่างมาก โดยสรุปยอดจำนวนผู้สมัครสว. ทั้งหมด 48,226 คน เป็นชาย 27,839 คน เป็นหญิง 20,387 คน

โดยจำนวนผู้ที่ผู้อำนวยการเลือกระดับอำเภอ ได้ออกใบรับใบสมัครให้ (วันที่ 24 พ.ค. 67) 48,117 ราย เป็นชาย 27,779 คน เป็นหญิง 20,338 คน หลังจากนั้นมีจำนวนที่ผู้ที่ผู้อำนวยการเลือกระดับอำเภอประกาศรายชื่อเป็นผู้สมัคร

หลังจากนั้นจำนวนผู้ที่ผู้อำนวยการเลือกระดับอำเภอ เลือกระดับอำเภอ ประกาศรายชื่อเป็นผู้สมัคร (วันที่ 29 พ.ค. 67) มีผู้สมัครที่คุณสมบัติผ่านหลังการตรวจสอบ จำนวน 46,206 คน เป็นชาย 26,727 คน เป็นหญิง 19,479 คน

สำหรับยอดผู้สมัครรับเลือกเป็นสว.รวม 5 วัน แบ่งเป็น วันแรกมีผู้สมัคร 4,642 คน ,วันที่ 2 มีผู้สมัคร 6,607 คน ,วันที่ 3 มีผู้สมัคร 9,434 คน ,วันที่ 4 มีผู้สมัคร 13,486 คน วันที่ 5 มีผู้สมัคร 13,948 คน

ส่วนจังหวัดที่มีผู้สมัครมากที่สุด คือ อันดับที่หนึ่ง จ.ศรีสะเกษ 2,764 คน อันดับที่สอง กรุงเทพมหานคร 2,489 คน อันดับที่สาม จ.เชียงใหม่ 2,000 คน อันดับที่สี่ จ.บุรีรัมย์ 1,836 คน อันดับที่ห้า จ.นครศรีธรรมราช 1,798 คน  ส่วนจังหวัดที่มีผู้สมัครน้อยที่สุด คือ อันดับหนึ่ง จ.น่าน 98 คน อันดับสอง จ.ตาก 102 คน อันดับสาม จ.สมุทรสงคราม 128 คน อันดับสี่ จ.พังงา 134 คน อันดับห้า อุตรดิตถ์ และ นครพนม จังหวัดละ 150 คน

ถ้าสรุปจำนวนผู้สมัครรับเลือกเป็น สว. จากทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 48,117 คน โดยจำแนกเป็นรายกลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง  ผู้สมัคร 2,478 คน ,กลุ่มที่ 2 กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 1,869 คน , กลุ่มที่ 3 กลุ่มการศึกษา  4,477 คน ,กลุ่มที่ 4 กลุ่มการสาธารณสุข  1,628 คน

กลุ่มที่ 5 กลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก หรืออื่นๆ  3,422 คน ,กลุ่มที่ 6 กลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง  3,628 คน ,กลุ่มที่ 7 กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน ผ 2,440 คน, กลุ่มที่ 8 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน  1,180 คน ,กลุ่มที่ 9 กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม  1,844 คน ,กลุ่มที่ 10 กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการตาม ข้อ 9  1,200 คน

กลุ่มที่ 11 กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว  1,177 คน , กลุ่มที่ 12 กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม   609 คน กลุ่มที่ 13 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม  1,039 คน ,กลุ่มที่ 14 กลุ่มสตรี 4,589 คน ,กลุ่มที่ 15 กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น หรืออื่นๆ ในทำนองเดียวกัน  5,211 คน ,กลุ่มที่ 16 กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา   1,819 คน

กลุ่มที่ 17 กลุ่มประชาสังคม กลุ่มองค์กรสาธารณประโยชน์   2,168 คน ,กลุ่มที่ 18 กลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม  867 คน , กลุ่มที่ 19 กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ   3,816 คน และกลุ่มที่ 20 กลุ่มอื่น ๆ  2,656 คน

สาเหตุที่ทำให้ยอดสมัคร สว.ไม่ปัง คงแทบไม่ต้องแจกแจงเพิ่มเติม เพราะนักวิชาการและกูรูทางการเมืองต่างวิเคราะห์ตรงกัน คือการรณรงค์ให้ความรู้ความสำคัญของการเลือก สว.มีน้อยมาก โดยประชาชนบางคนยังไม่ทราบเลยว่าสว.ไม่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนเหมือนกับเลือกสส. แต่ต้องให้ประชาชนที่ไปสมัครคัดเลือกไปเลือกกันเอง และเมื่อรวมกับกติกาว่าด้วยการแนะนำตัวของ กกต.ที่ถูกขีดกรอบและข้อจำกัดมากมาย ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น ที่หนักไปกว่านั้น ในบางอำเภอมีผู้สมัครไม่ครบทุกกลุ่มอาชีพ และบางกลุ่มอาชีพ มีผู้สมัครเบาบางไม่กี่คน

เรื่องนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. ออกมายอมรับว่า "การกำหนดคุณสมบัติไว้สูง หาคนรับรองไม่มีการจัดตั้งเป็นหมู่ ป็นคณะ บริหารจัดการได้ยาก เพราะระบบออกแบบป้องกันไว้ ทั้งการจัดตั้งและการฮั้วในระดับหนึ่ง รวมทั้งขาดแรงจูงใจในการสมัครที่ระบบการเลือกมีความซับซ้อนหลายชั้น จำนวนผู้สมัครประมาณนี้ น่าจะเอื้อให้การบริหารจัดการในการเลือก และการควบคุมทำให้การเลือกเป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย"

อย่างไรก็ตามกฎระเบียบที่แน่นหนาเกินไปทำให้ประชาชนทั่วไปไม่กล้าที่จะสมัคร เพราะเข้าใจว่าแม้จะทำผิดเพียงนิดเดียว โดยที่ไม่ได้เกิดความตั้งใจก็ส่งผลทำให้ติดคุกติดตารางได้ หรือ กลุ่มคนส่วนใหญ่ไม่อินกับการเมือง ไม่มีความรู้มากพอในการที่จะเข้าไปนั่งในสภาสูง ไม่อยากออกเป็นผู้แทนให้ใคร แต่เน้นไปเลือกตั้งมากกว่า

นอกจากนี้ยังมีปัญหา ผู้ขาดคุณสมบัติถูกจำกัดสิทธิ จำนวนทั้งสิ้น 2,020 คน เป็นชาย 1,112 คน เป็นหญิง 908 คน เพราะบางรายลืมไปว่าไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งมาก่อนหน้านั้น หรือ เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือ ยังไม่ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ทำให้เงินค่าสมัครที่ต้องจ่าย 2,500 บาท ตกเป็นของแผ่นดินทั้งหมด

อย่างไรก็ตามตัวเลขจำนวนผู้สมัคร อาจจะเพิ่มขึ้นเท่าเดิม หรือน้อยลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับศาลฎีกาซึ่งเป็นที่พึ่งของผู้สมัครในการขอคืนสิทธิ

หรือแม้กระทั่งปัญหาจำนวนคนสมัครน้อยต่ออำเภอ มีถึง 5 อำเภอที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียว คือ อำเภอเมืองยาง จังหวัดนคราชสีมา อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอแม่จริม อำเภอนาน้อย และอำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน ซึ่งเมื่อมีผู้สมัครเพียงคนเดียว ก็แน่นอนว่าจะผ่านรอบการเลือกกันเองแต่จะผ่านรอบการเลือกไขว้ไม่ได้ เพราะไม่มีคะแนนเลย และยังมีอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ที่มีผู้สมัคร 2 คน ซึ่งก็ไม่สามารถเลือกไขว้ได้ เพราะมาตรา 40(10) กำหนดว่าการแบ่งสายต้องมีไม่น้อยกว่าสายละ 3 กลุ่ม

อีกทั้งยังมีปัญหา การแนะนำตัว หลังจากมีผู้สมัครยื่นศาลปกครองฟ้องกกต. ที่มองว่าแนะนำได้ยากลำบาก ประชาชนไม่มีส่วนร่วม แต่หลังจากศาลมีคำพิพากษาให้ยกเลิกบางข้อในระเบียบกกต.ดังกล่าว ทำให้เกิดความสมานฉันท์กันทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายกกต.ก็ไม่ต้องการร้องศาลสูง ฝ่ายผู้สมัครก็มีสิทธิแนะนำตัวผ่านกระดาษ A4 แบบไม่จำกัด สามารถแนะนำตัวผ่านโซเชียลมีเดียได้

จึงต้องรอดูว่าในช่วงการคัดเลือกจะเกิดปัญหาอะไรใหม่ๆอีกหรือไม่ ซึ่งกกต.คือองค์กรรับแรงกระแทกจากประชาชนโดยตรง ไม่มีการเลือกตั้งครั้งไหนที่กกต.จะไม่โดนติ โดนต่อว่าจากสังคม!

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตั้งกลุ่มสว.สีเขียว-ปิดดีล'อยู่บำรุง' 'บ้านป่าฯ'ยังมีของไม่วางมือ

การขยับทางการเมืองของ บ้านป่ารอยต่อฯ ภายใต้การนำของพี่ใหญ่ตระกูล วงษ์สุวรรณ บิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในช่วงนี้น่าสนใจไม่น้อย ทั้งกระแสข่าวดึงสมาชิกวุฒิสภา (สว.)

พรรคร่วมรัฐบาลขอเขย่า ไม่ตกเป็น'หมูในอวย'พท.

แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ฯลฯ จะยอมผ่านเรือธงของพรรคเพื่อไทย โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 1 หมื่นบาทให้แก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน

'ดิเรกฤทธิ์' พ้อ! ไร้องค์กรตรวจสอบ กกต. ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ 'เลือก สว.'

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ประชาธิปไตยต้องไม่มีอำนาจใดไม่ถูกตรวจสอบ"

แจกเงินดิจิทัล1หมื่นบาท ปิดปาก 'ปุ๋ย คนละครึ่ง'?

รัฐบาลเพื่อไทยนำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ผนึกกำลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

ปริศนา'เรือดำน้ำ' เปิด5ประเด็นสะดุด'ตอ'

ทริปเร่งด่วน ที่ “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม นำทีม พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ จักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสายตรงของ “นายกฯ" และ “ชินวัตร” บินไปจีนเมื่อช่วงวันที่ 24-25 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำ S26T ที่ ทร.ไทยจ้างบริษัทของจีนสร้างไม่เป็นไปตามสัญญา