นับหนึ่งเลือกสว.2567 อาจมี"ซื้อตัว"หลังเริ่มทำงาน!

หลังเมื่อวันเสาร์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศ พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2567 และในวันจันทร์ที่ 13 พ.ค.นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็จะมีการประชุมเพื่อกำหนดและประกาศไทม์ไลน์การเลือก สว.ชุดใหม่ 200 คนอย่างเป็นทางการ

 จึงทำให้ถือว่าตอนนี้เข้าสู่การนับหนึ่งกระบวนการได้มาซึ่ง สว.อย่างเป็นทางการ

โดยไทม์ไลน์ที่ กกต.เคยวางไว้ก่อนหน้านี้ จะเดินไปตามนี้

  • 13 พ.ค.67 ประกาศการสมัครรับเลือก สว.
  • 9 มิ.ย.67 การเลือก สว.ระดับอำเภอ
  • 16 มิ.ย.67 การเลือก สว.ระดับจังหวัด
  • 26 มิ.ย.67 การเลือก สว.ระดับประเทศ
  • 2 ก.ค.67 ประกาศผลการเลือก สว.

เมื่อกระบวนการเลือก สว.เริ่มนับหนึ่งต่อจากนี้ ก็ทำให้ การเลือก สว.จะอยู่ในความสนใจของโหมดการเมืองนับจากนี้ ไปจนถึงวันที่ กกต.รับรองผลการเลือก สว.

ที่ตามกฎหมายก็เปิดช่องให้ กกต.สามารถขยับวันประกาศผลการเลือก สว.ออกไปได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นวันที่ 2 ก.ค.เสมอไป โดยเฉพาะหากมีเรื่องร้องเรียน-มีข่าวปรากฏโดยทั่วไปว่าการเลือก สว.ครั้งนี้ โดยเฉพาะคนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 200 ชื่อ มีปัญหาโดนร้องเรียนว่าได้รับเลือกเข้ามาโดยไม่ชอบ มีการซื้อเสียง หรือมีปัญหาขาดคุณสมบัติหรือมีคุณสมบัติต้องห้าม เป็นต้น

การเลือก สว.ที่กำลังเริ่มต้นขึ้น เห็นได้ชัดว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงกระบวนการเลือก สว.ออกมาอย่างกว้างขวาง ตลอดจนการวิเคราะห์ โฉมหน้า สว. ชุดใหม่ ซึ่งมีที่มาแบบนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทยและครั้งแรกในโลก จึงทำให้น่าสนใจมากว่า สว.ชุดใหม่ หลังเข้าปฏิบัติหน้าที่แล้ว จะมีคาแร็กเตอร์ทางการเมืองอย่างไร? จะมีความเป็นอิสระ ความเป็นกลางหรือไม่ และจะเล่นบทบาทสภาสูง ในการกลั่นกรองกฎหมาย-การเลือกกรรมการไปทำหน้าที่ในองค์กรอิสระ รวมถึงบุคคลไปดำรงตำแหน่งต่างๆ เช่น ประธานศาลปกครองสูงสุด-ตุลาการศาลปกครองสูงสุด-อัยการสูงสุด-ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ-กรรมการ กสทช.ได้ดีกว่า สว.ชุดที่ผ่านมาหรือไม่

 อย่างมุมมองของนักวิชาการ รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ที่วิพากษ์การเลือก สว.ครั้งนี้ว่า เป็นการเลือกที่ไม่ใช่การเลือก เป็นนวัตกรรมการเมือง ที่ผู้ร่างรัฐธรรมนูญปี 2560 ออกแบบการเลือก สว.ได้อัปลักษณ์ที่สุดในระบบการเมืองโลก ที่เป็นการทำลายระบบประชาธิปไตยอย่างมีนัยสำคัญ

...คือเรามองว่าการเลือกคือประชาธิปไตยแล้ว เป็นการมองแบบฉาบฉวยและผิวเผินเกินไป การเลือก สว.รอบนี้มันมีความซับซ้อนและมีลักษณะที่มี "วาระซ่อนเร้น-อำพราง" และที่สำคัญ "ทำลายหลักการประชาธิปไตยอย่างย่อยยับ" ทั้งที่มันมีการเลือก สว.

..การเลือก สว.ครั้งนี้ หากดูผิวเผินหลักการดี แต่หากไปดูรายละเอียดในเชิงรัฐศาสตร์ มันมีปัญหามาก มันไม่ยืนยันและไม่สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมันมีวาระซ่อนเร้น เพราะหากทำวิธีการแบบนี้ คนส่วนหนึ่งจะหายไป ก็จะมีเฉพาะคนที่มีความพร้อม เช่น ความพร้อมที่จะจ่ายเงินค่าสมัคร 2,500 บาท

รศ.ดร.โอฬาร ระบุว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ดีไซน์การเลือก สว.ออกมา ที่จะเอื้อให้กับบุคคล 3 ประเภท-3 จำพวก คือ 1.คนมีเงิน 2.คนที่มีชื่อเสียง ที่คนรู้จัก 3.คนที่มีเพื่อนหรือมีเครือข่ายเยอะ 3 กลุ่มดังกล่าวจะมีโอกาสมากที่สุด

การที่ประชาชนมองโดยทั่วไปว่า การเลือก สว.แบบนี้จะทำให้ได้เลือกตามสาขาอาชีพจึงไม่ใช่ เพราะคนที่มีสิทธิ์จะได้เลือกคือคนที่ต้องไปสมัคร ต้องไปจ่ายเงิน 2,500 บาทก่อนถึงจะมีสิทธิ์ได้เลือก สว. และกระบวนการเลือก ที่จากอำเภอไปจังหวัดและไปจบที่ระดับประเทศ โดยมีการให้เลือกกันเองในกลุ่มสาขาเดียวกัน แล้วสัดส่วนที่ได้  1 ใน 5 ของกลุ่ม ก็ไปเลือกไขว้ ซึ่งการเลือกไขว้ มันก็มีปัญหา เพราะอย่างหากผมอยู่ในกลุ่มสถาบันการศึกษา กลุ่มนักวิชาการ-อาจารย์ คราวนี้ต้องไปเลือกไขว้ เราก็ไม่รู้แล้วว่าใครเป็นใคร ผมก็รู้แต่แค่ คนนี้ดัง คนนี้มีชื่อเสียง หรือคนนี้จ่ายมาแล้วสักห้าหมื่น อันนี้เป็นปัญหา คือมันซื้อเสียงได้ง่ายขึ้น

โดยก่อนหน้านี้ก็เริ่มมีการพูดถึงการจับตามองความพยายามของบางฝ่าย เช่น เครือข่ายนักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น ที่ต้องการสร้างฐานการเมืองในสภาสูง ด้วยการส่งเครือข่ายลงสมัคร สว.แล้วใช้วิธีกาบล็อกโหวตการเลือก สว.ตั้งแต่ระดับอำเภอไปจนถึงระดับจังหวัด เพื่อหวังให้ชื่อหลุดเข้ารอบสุดท้ายในระดับชาติ แล้วค่อยไปวัดดวงอีกที เพราะถึงรอบสุดท้าย ก็น่าจะบล็อกโหวตได้ยาก 

อย่างไรก็ตาม ก็มีมุมมองในเชิงวิเคราะห์ถึงโฉมหน้าของ สว.ชุดใหม่ 200 คน โดยเฉพาะจาก อดีต สว.เลือกตั้งปี 2543 บางคน ที่ตอนนี้ก็ยังมีบทบาทการเมืองอยู่ ที่มองว่า หากพรรคการเมือง-กลุ่มการเมืองระดับชาติ ต้องการสร้าง ฐานการเมือง ในสภาสูง ต้องการมี สว.ไว้ในเครือข่ายการเมืองของตัวเองจริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องลงไปวางแผนตั้งแต่การเลือก สว.ระดับอำเภอ-จังหวัด อย่างที่มีกระแสข่าว เพราะต้องลุ้นหลายชั้น และอาจไม่เข้าเป้า แต่พรรคการเมือง-กลุ่มการเมืองที่ต้องการมี สว.ไว้ในมือ อาจใช้วิธีการเดียวกับตอนหลังการเลือกตั้ง สว. 2543 ที่เป็นการเลือก สว.โดยตรงทั่วประเทศ

ซึ่งเหตุการณ์ยุคนั้น สภาพก็คือ พอ สว.ชุดปี 2543 เข้าไปเป็น สว.สัก 6 เดือน ก็เริ่มจับกลุ่มก้อนการเมือง คนที่มีแนวคิด-บุคลิกภาพการเมือง-ดีเอ็นเอการเมืองเดียวกัน เรียกว่า คุยกันรู้เรื่อง มีการนัดพบสังสรรค์กันทุกสัปดาห์ และเริ่มมีการติดต่อพูดคุยกับพรรคการเมืองใหญ่เพื่อสร้างคอนเนกชัน และต้องการการอุปถัมภ์ทางการเมือง เช่น การดูแลรายเดือน-การช่วยเหลือเครือข่ายของ สว.ในด้านต่างๆ จนสุดท้ายก็มี สว.หลายสิบคนในยุคนั้นกลายเป็นฐานการเมืองให้กับพรรคการเมืองในซีกรัฐบาลหลังการเลือกตั้งปี 2544 โดยเฉพาะการเลือกองค์กรอิสระ-ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ฝ่ายการเมืองยุคนั้นส่งคนเข้าไปยึดองค์กรอิสระไว้จำนวนมาก โดยใช้ สว.ที่เลี้ยงไว้ คอยโหวตตามโผที่ส่งไปให้ จนวุฒิสภายุคดังกล่าวถูกตั้งฉายาต่างๆ เช่น สภาผัวเมีย-สภาชิน เป็นต้น

 จึงไม่แน่ ที่หลังการเลือก สว.รอบนี้เสร็จสิ้นลง สว.ชุดใหม่ คนไหนใจไม่แข็งพอ ถูกยั่วเย้าด้วยผลประโยชน์ทางการเมือง หรือมีดีเอ็นเอการเมืองส่วนตัว ต้องการเป็น สว.ในเครือข่ายพรรคการเมือง-อยากมีคนอุปถัมภ์รายเดือนอยู่แล้ว ก็อาจถูก "ช้อนซื้อ-ซื้อตัว" หลังเข้าไปทำงานสักระยะก็ได้!!!!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตั้งกลุ่มสว.สีเขียว-ปิดดีล'อยู่บำรุง' 'บ้านป่าฯ'ยังมีของไม่วางมือ

การขยับทางการเมืองของ บ้านป่ารอยต่อฯ ภายใต้การนำของพี่ใหญ่ตระกูล วงษ์สุวรรณ บิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในช่วงนี้น่าสนใจไม่น้อย ทั้งกระแสข่าวดึงสมาชิกวุฒิสภา (สว.)

พรรคร่วมรัฐบาลขอเขย่า ไม่ตกเป็น'หมูในอวย'พท.

แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ฯลฯ จะยอมผ่านเรือธงของพรรคเพื่อไทย โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 1 หมื่นบาทให้แก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน

แจกเงินดิจิทัล1หมื่นบาท ปิดปาก 'ปุ๋ย คนละครึ่ง'?

รัฐบาลเพื่อไทยนำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ผนึกกำลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

ปริศนา'เรือดำน้ำ' เปิด5ประเด็นสะดุด'ตอ'

ทริปเร่งด่วน ที่ “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม นำทีม พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ จักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสายตรงของ “นายกฯ" และ “ชินวัตร” บินไปจีนเมื่อช่วงวันที่ 24-25 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำ S26T ที่ ทร.ไทยจ้างบริษัทของจีนสร้างไม่เป็นไปตามสัญญา

‘สภาสูง’ในเงื้อมมือค่ายน้ำเงิน ส่องภารกิจเลือก‘องค์กรอิสระ’

ภารกิจ 200 สว. แสดงตนต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มารายงานตัวครบจบไม่ขาดไม่เกิน แต่สวนทางกับความอลหม่านที่กลุ่มต่างๆ ภายในสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ด้วยกันเอง

ดรามา วุฒิการศึกษา 'หมอเกศ' เปิดข้อกม.เอาผิด-พ้นสภาพสว.?

นับตั้งแต่กระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เมื่อปลายเดือนมิ.ย. สิ้นสุดลง หัวกระไดสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ไม่แห้งอีกเลย เพราะหลังจากนั้นมีกลุ่มคนเข้ามายื่นหนังสือ เพื่อตรวจสอบกระบวนการเลือกที่ไม่สุจริต และเที่ยงธรรม รวมถึงการจัดตั้งกลุ่มเพื่อเลือกบุคคลที่เป็นเป้าหมายโดยเฉพาะ หรือเรียกว่า ฮั้ว หรือการตรวจคุณสมบัติสว.