สู้กันทุกกระบวนท่าเต็มสรรพกำลังอภิมหาศึก “สีกากี” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนพัวพันคดีเว็บพนันออนไลน์ ระบุว่า “การสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ใช้เป็นข้อมูลร้อง ป.ป.ช.และ ป.ป.ง.ที่จะดำเนินการในขั้นตอนของกฎหมายต่อจากนี้ไม่สามารถทำได้ เมื่อการสอบสวนของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่เริ่มต้นถือเป็น “โมฆะ”
การเดินเกมข้อร้องเรียนแต่ละที่ของ “บิ๊กโจ๊ก” ไม่ได้แตะข้อเท็จจริงที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาในสำนวน เส้นทางเงินที่เชื่อมโยงมายังตัวอดีตรอง ผบ.ตร. จริงหรือไม่อย่างไร แต่เป็นการร้องให้สังคมรู้ว่าตัวเองถูกกระทำจากกระบวนการกลั่นแกล้งสกัดไม่ให้เข้าชิงเก้าอี้ “ผบ.ตร.” คนที่ 15 ที่กำลังจะมาถึงปลายปีนี้ เพราะอันดับอาวุโสอันดับ 1 ซัดขบวนการ 4 “ต.” “กระเหี้ยนกระหือรือ” อยากเป็น ผบ.ตร. วางอำนาจเตะสกัดพ้นลู่ “พิทักษ์ 1”
สู้กันแบบลากยาว “บิ๊กโจ๊ก” มั่นใจได้กลับเข้าตำแหน่ง “รอง ผบ.ตร.” อีกครั้งแน่นอน โดยเฉพาะคำสั่งด้าน “การปกครอง” เจ้าตัวบุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.ตร.) ที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนโดยมิชอบ แถลงละเอียดยิบคำสั่งขัดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่ พ.ศ.2565 เตรียมติดคุกตั้งแต่ รรท.ผบ.ตร.-ผู้การกองกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ คำสั่งด้าน “วินัย” รรท.ผบ.ตร. แต่งตั้ง พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร.เป็นประธานการสอบสวนวินัยร้ายแรง “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมลูกน้องอีก 4 นาย
ทันทีที่มีคำสั่งตั้ง พล.ต.อ.สราวุฒิ เป็นประธานสอบถูกมองว่าเป็นการโยนเผือกร้อนให้เป็นคู่ขัดแย้งกับอดีตรอง ผบ.ตร. แต่ทุกอย่างเป็นไปตามกฎ ก.ตร.และข้อบังคับของกฎหมาย ที่ผู้เป็นประธานสอบต้องมีตำแหน่งที่สูงกว่าหรือยศเทียบเท่า ซึ่งก็ต้องเป็น พล.ต.อ.สราวุฒิ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทุกคำสั่งมีผลเกี่ยวเนื่อง เมื่อเข้าสู่วาระการแต่งตั้ง “ผบ.ตร.” พล.ต.อ.สราวุฒิไม่มีส่วนได้เสีย เพราะเกษียณเดือน ก.ย.นี้ ขณะที่ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรวง จเรตำรวจแห่งชาติ เกษียณปี 68, พล.ต.อ.ธนา ชูวงษ์ รอง ผบ.ตร. ถูกมองเป็นคู่ขัดแย้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีมินนี่ และเป็นหนึ่งในแคนดิเดต ผบ.ตร. เพื่อความเป็นธรรมและเป็นกลางกับผู้ถูกร้อง หวยจึงมาออกที่ พล.ต.อ.สราวุฒิ ไม่มีอะไรในกอไผ่
ขณะที่คณะกรรมการสอบวินัยขีดเส้น “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหา 7 พ.ค.นี้
กรอบของระยะเวลานั้น คณะกรรมการใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน 60 วัน หรือถ้ายังไม่แล้วเสร็จสามารถขยายเวลาได้อีกไม่เกิน 270 วัน รวมเวลากว่า 8 เดือน
ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาว่าการสอบวินัย “บิ๊กโจ๊ก” จะแล้วเสร็จก่อนที่ พล.ต.อ.สราวุฒิ จะเกษียณหรือไม่ ขณะที่เจ้าตัวเองก็ออกมายอมรับว่าอาจจะไม่ทัน แต่จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย คณะกรรมการสอบต้องใช้เอกสารทางคดีอาญา ผลการสอบจากคณะกรรมการชุดต่างๆ ประกอบสำนวน
สถานการณ์ของ "โจ๊ก" แต่ไม่โจ๊ก เผือกร้อนไม่มีใครอยากแตะ แม้แต่ พล.ต.อ.สราวุฒิเองถึงกับบอกว่า “ตกใจ” เมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสอบวินัย กระทั่ง “บิ๊กต่าย” รรท.ผบ.ตร. ต้องออกมากำชับใช้คำว่า “ตกใจ” เป็นข้าราชการตำรวจต้องมีหน้าที่รับภารกิจต่างๆ โดยชอบด้วยกฎหมาย
ซึ่งก็ไม่แปลก รองสราวุฒิ อยากลงแบบสวยๆ ไม่ต้องมีคดีติดสอยห้อยตามไปด้วยให้ปวดหัว เมื่ออดีตรองสุรเชษฐ์ประกาศเตรียมฟ้องศาลทุจริตเอาผิดตำรวจทุกนายที่เข้าไปเกี่ยวข้อง
แน่นอนว่า สปอตไลต์ใหญ่ ส่องไปที่ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รรท.ผบ.ตร. ที่กลายมาเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังแบ่งรับแบ่งสู้
ระบุว่า “คณะกรรมการสอบวินัยของรองสราวุฒิจะจบก่อนเกษียณหรือไม่ จะใช้เวลาเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการไม่เข้าไปแทรกแซง พล.ต.อ.สราวุฒิจะต้องทำงานไปตามหน้าที่ในฐานะประธานกำกับเรื่องการพิจารณาไปตามกระบวนการขั้นตอน ถึงแม้จะยังไม่สามารถสรุปได้ว่าถึงวันแล้วจะสอบเสร็จหรือไม่เสร็จ
แต่หนึ่งประโยคที่ รรท.ผบ.ตร.ระบุ "ถ้าไม่แล้วเสร็จก็ต้องไปดูในวันเกษียณว่ายังเหลือรอง ผบ.ตร.คนใดอยู่บ้าง และพิจารณาไปตามกฎหมายและระเบียบ ก.ตร.ที่กำหนดไว้”
และตอกย้ำด้วยคำตอบที่สังคมตั้งคำถามกันเซ็งแซ่ ถึง รรท.ผบ.ตร.ในการสอบวินัย “บิ๊กโจ๊ก” หาก พล.ต.อ.สราวุฒิเกษียณเดือน ก.ย.นี้ว่า
“ต้องดูในวันนั้น เพราะผมก็ยังไม่รู้ว่าใครจะถูกเสนอชื่อเป็น ผบ.ตร. และใครจะได้รับมอบหมายงานอะไร เมื่อยังไม่ทราบก็ยังไม่ได้คิดถึงวันนั้น เพราะผมก็ไม่รู้ว่าวันหน้าจะเป็นอะไรหรือเปล่า ขอให้ไปดูวันนั้นดีกว่า”
ซึ่งนั่นก็ยิ่งสร้างความมึนงงให้กับสังคมที่กำลังเฝ้าจับแวดวงสีกากีที่กำลังเป็นประเด็นอยู่จะจบลงอย่างไร
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กองวินัยและฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาข้อกฎหมายให้รอบคอบ เพื่อความเป็นธรรมและโปร่งใส หลังจากที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้ร้องขอความเป็นธรรมในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธาน ก.ตร.จากคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน แล้วนำเข้าสู่การประชุม ก.ตร.ครั้งต่อไป
ถนนต่อสู้ของ “บิ๊กโจ๊ก” ชั่วโมงนี้เรียกได้ว่าวิ่งเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง ไปทุกที่ที่ช่องกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์เปิดให้สามารถทำได้ หักล้างคำสั่งของ รรท ผบ.ตร.ให้ออกจากราชการไว้ก่อนไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อกลับเข้ารับราชการตำรวจโดยเร็วที่มีเก้าอี้ “ผบ.ตร.” เป็นเดิมพัน
เพราะการสอบสวนวินัยร้ายแรงของคณะกรรมการชุดดังกล่าว หากพบมีความผิดโทษถึงไล่ออก ปลดออกจากราชการ แต่หากไม่มีความผิดสามารถกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งเดิม รอง ผบ.ตร.ได้ทันที โดยไม่ต้องนับอายุราชการใหม่
แต่คณะกรรมการสอบวินัยเพิ่งเริ่มตั้งไข่ ยังไม่รู้จะจบอย่างไร แล้วใครที่กล้าเล่นกับไฟ ฉะนั้นจึงต้องจับตาดูสถานการณ์อย่ากะพริบ!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘บิ๊กป้อม’ ถอย ดัน ‘ตรีนุช’ เลือกตั้งสุดท้ายของ ‘พปชร.’
‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดในวันที่ 27-28 ธันวาคมนี้
คิกออฟเลือกตั้ง69เช็กความพร้อมกกต. เปิดคู่มือผู้สมัครสส.ก่อนออกหาเสียง
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ครั้งใหม่ หลังจากพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2568
‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง
ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ
ท็อปไฟว์5ข่าวดังการเมืองไทย68 ยุบสภาฯไคลแมกซ์ปิดท้ายปี
นับถอยหลังเหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์เศษก็จะสิ้นปี 2568 เข้าสู่ปีใหม่ 2569 ที่เป็นปีมะเมีย ซึ่งตำราโหราศาสตร์บางสำนักบอกว่า จะเป็นปีม้าธาตุไฟ โดยการเมืองไทยปี 2569 เรื่องสำคัญที่สุดก็คือ การเลือกตั้ง สส.ในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ที่จะนำมาสู่การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง
สั่งเด้งด่วน! 'ผู้การเมืองคอน' เข้ากรุ ศปก.ตร. เซ่นปมคลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์
ผบ.ตร. ลงนามคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 600/2568 ให้ พล.ต.ต.เกรียงศักดิ์ นุ่นเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช
ผบ.ตร. สั่งคุมเข้มช่วงปีใหม่ ดูแลป้องกันอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุจราจร ยกระดับฝากบ้าน 4.0
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2569

