จากวังสราญรมย์ถึงตึกไทยคู่ฟ้า “ทูตปู”เลขาฯส่วนตัวทักษิณ สู่ตัวเต็งรมว.ต่างปท.คนใหม่

ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้ารัฐบาล และเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาแค่หนึ่งคืนก็เคาะออกมาแล้วว่าจะดัน ทูตปู มาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตทีมงานหน้าห้อง นายกรัฐมนตรี ตึกไทยคู่ฟ้า สมัยทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นเลขานุการส่วนตัวทักษิณมาตลอดหลายปีตอนช่วงทักษิณเป็นนายกฯ โดยเฉพาะเวลาทักษิณไปราชการต่างประเทศ มาริษที่เป็นข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งทักษิณขอตัวให้มาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล ก็ยิ่งมีบทบาทสำคัญในการประสานงานต่างๆ

โดยมี story เรื่องเล่าในแวดวงการทูตและแวดวงการเมือง ระหว่าง ทักษิณ-ทูตปู ว่า ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในช่วงที่ทักษิณเป็น รมว.ต่างประเทศ ในโควตาพรรคพลังธรรมในยุครัฐบาลชวน 1 ซึ่งแม้ทักษิณจะเป็น รมว.ต่างประเทศได้ไม่นาน แต่ตอนนั่งเป็น รมว.ต่างประเทศก็ทำให้ทักษิณรู้จักและประทับใจการทำงานของข้าราชการรุ่นใหม่ของกระทรวงการต่างประเทศหลายคน และหนึ่งในนั้นก็คือ “มาริษ ข้าราชการรุ่นใหม่ไฟแรงของกระทรวงบัวแก้ว” ที่กระทรวงการต่างประเทศส่งมาริษไปเป็นทีมงานหน้าห้องทักษิณสมัย ก.ต่างประเทศยังอยู่ที่วังสราญรมย์ ก่อนย้ายไปแถวพระรามหกในปัจจุบัน
และหลังจากนั้น ทักษิณกับมาริษก็ยังติดต่อกันเรื่อยมา โดยมีข่าวว่ามาริษถือเป็นทีมงาน-ที่ปรึกษาในการให้ข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับต่างประเทศให้กับทักษิณมาตลอด

จนกระทั่งหลังเลือกตั้งปี 2544 ทักษิณ เข้ามาเป็นนายกฯ ก็เลยดึงมาริษจากกระทรวงต่างประเทศมาช่วยงานที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นสตาฟฟ์การเมืองทีมงานหน้าห้องที่ตึกไทยคู่ฟ้า ที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะงานด้านการต่างประเทศ รวมถึงคอยติดตามทักษิณตลอดเวลา รวมถึงตอนที่ทักษิณถูก คมช.ทำรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย.2549 ที่ทักษิณไปประชุมยูเอ็นที่สหรัฐก็มีทูตมาริษติดตามไปด้วย

โดยเป็นที่รู้กันในช่วงนั้นว่า เลขาฯ-คนสนิทที่ตามทักษิณที่มีสองคน คือ ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ มาจาก “คุณหญิงพจมาน ชินวัตร-จันทร์ส่องหล้า” แต่ ทูตปู-มาริษ คือสายตรงคนของทักษิณ

ซึ่งด้วยการที่มาริษไม่ได้ทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศเต็มตัว เพราะต้องมาอยู่กับทักษิณร่วมๆ 6 ปีตอนทักษิณเป็นนายกฯ อีกทั้งตอนสมัยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ก็มีข่าวว่ามาริษก็มาเป็นทีมงานด้านการต่างประเทศที่ทำเนียบรัฐบาล ให้ยิ่งลักษณ์ด้วยคนหนึ่ง แต่ทำงานหลังฉาก ไม่ได้ออกหน้าเต็มตัวมาคอยเดินตามเหมือนสมัยทักษิณ

จุดนี้เลยทำให้เส้นทางการรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศของมาริษจึงไม่ได้เป็นทูตในประเทศใหญ่ๆ ที่วงการทูตเรียกกันว่า ทูตเกรดเอ เช่น สหรัฐอเมริกา-จีน-ญี่ปุ่น-รัสเซีย-อังกฤษ ทั้งที่เป็นคนใกล้ชิดสองอดีตนายกฯ ทักษิณกับยิ่งลักษณ์ เหตุเพราะต้องมาคอยตามนายกฯ เลยทำให้ประวัติการเป็นทูตของมาริษเลยถูกมองว่าโปรไฟล์ค่อนข้างธรรมดา เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศใหญ่ๆ เช่น อดีตเอกอัครราชทูตกรุงกาฐมาณฑุ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล-อดีตเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำเครือรัฐออสเตรเลีย อดีตเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐฟิจิ เป็นต้น

ทำให้ประวัติการทำงาน ย่อมเทียบไม่ได้กับอดีต รมว.ต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ที่เป็นอดีตข้าราชการกระทรวงบัวแก้วมาก่อนเช่น ดอน ปรมัตถ์วินัย ที่เคยเป็นทูตทั้งที่สหรัฐ-จีน เป็นต้น

เลยทำให้เริ่มมีการตั้งคำถามกันพอสมควรว่า หากมาริษมาเป็น รมว.ต่างประเทศจะได้รับการยอมรับจากข้าราชการบัวแก้ว โดยเฉพาะพวกวงการทูตไทยในต่างประเทศแค่ไหน?

อย่างไรก็ตาม หากมาริษเข้าไปเป็น รมว.ต่างประเทศตามที่มีกระแสข่าว เขาก็ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เพราะที่ผ่านมา 8 เดือน มาริษที่ตอนนี้เกษียณอายุราชการแล้ว นอกจากคอยทำงานช่วยเศรษฐาที่ทำเนียบรัฐบาลมาหลายเดือนแล้วก็ยังมีงานหลักที่กระทรวงการต่างประเทศ กับการเป็น ที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ปานปีย์ ซึ่งเป็นตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แต่เพิ่งพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ที่ผ่านมา หลังปานปีย์ลาออก แต่ก็จะทำให้ได้ห้องทำงาน-โต๊ะทำงานที่ใหญ่ขึ้น เพราะจะย้ายห้องทำงานจากห้องที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศไปนั่งเป็น รมว.ต่างประเทศ หากข่าวลือจะเป็น รมว.ต่างประเทศคนใหม่เป็นข่าวจริง

ดังนั้น ด้วยการที่อยู่กระทรวงต่างประเทศมา 8 เดือนแล้ว ทำให้หากมาริษเข้าไปเป็น รมว.ต่างประเทศก็สามารถทำงานต่อจากปานปีย์ได้เลย ไม่ต้องมานับหนึ่งใหม่ รวมถึงก็มีความคุ้นเคยกับข้าราชการของกระทรวงการต่างประเทศเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

เมื่อเป็นแบบนี้เลยทำให้กระแสข่าวรายชื่อตัวเต็ง-แคนดิเดต รมว.ต่างประเทศที่ลอยออกมาตั้งแต่เมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย. หลังปานปีย์ลาออกไปไม่กี่ชั่วโมง ที่มีหลายรายชื่อออกมาเช่น นพดล ปัทมะ สส.ปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทย อดีต รมว.ต่างประเทศ-ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สภาฯ อดีตทนายส่วนตัวทักษิณ-กันตธีร์ ศุภมงคล อดีต รมว.ต่างประเทศในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่สนิทกับทักษิณอย่างมากเพราะเคยอยู่พรรคพลังธรรมมาด้วยกันสมัยทักษิณเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม ก็ยังไม่วายมีชื่อเข้ามาด้วย แต่ติดที่ปัจจุบันอายุมากแล้ว เพราะปาเข้าไป 72 ปี-พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน-รัศม์ ชาลีจันทร์ หรือเจ้าของฉายาทูตนอกแถวที่ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หลังก่อนหน้านี้ไปเคลื่อนไหวกับพวกม็อบสามนิ้ว และก่อนหน้านี้มีตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาลคือ ที่ปรึกษา รมช.กระทรวงการต่างประเทศ (จักรพงษ์ แสงมณี) แต่พอจักรพงษ์ย้ายไปเป็น รมต.สำนักนายกรัฐมนตรีก็ทำให้ทูตนอกแถวพ้นจากตำแหน่งไปด้วย ก็ยังมีชื่อสอดแทรกถูกแวดวงการเมืองเอ่ยขึ้นมา

รวมถึงชื่ออื่นๆ ที่ลือกันมาตลอดทั้งคืนวันที่ 28 เม.ย.จนถึงเช้าวันที่ 29 เม.ย. เช่น สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่ปัจจุบันเป็น กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (กระทรวงการต่างประเทศ)-นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เป็นต้น

เรียกได้ว่า มีชื่อลือออกมาเกือบสิบชื่อ แต่สุดท้าย พอเศรษฐา-นายกฯ บอกว่าคนที่จะมาเป็น รมว.ต่างประเทศ “อยู่ในแวดวงการทูต แวดวงการเมือง ทำงานข้างหลังพรรคเพื่อไทยมาตลอด” ก็เลยทำให้ เหลือแค่สองชื่อที่คนเก็งกันคือ นพดล-มาริษ แต่สุดท้ายก็มีข่าวว่า ทักษิณ-เศรษฐา เคาะเอา ทูตปู-มาริษ เป็น รมว.ต่างประเทศคนใหม่

แต่สุดท้าย ชื่อนี้จะพลิกอีกหรือไม่ก็ยังต้องลุ้น แต่หากข่าวลือเป็นข่าวจริงก็ต้องถือว่า รมว.ต่างประเทศคนใหม่ที่ชื่อมาริษ เป็นอะไรที่ยิ่งกว่าสายตรงทักษิณเสียอีก และคงทำให้การสั่งงานด้านต่างประเทศของทักษิณที่จะสั่งไปยังมาริษ จะทำได้คล่องตัวมากกว่าปานปีย์แน่นอน.  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอ็มโอยู44-เอื้อนายทุน จุดจบรัฐบาลไม่ครบเทอม

หากอ้างอิงข้อมูลจากนิด้าโพลเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา หัวข้อ รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ อยู่ครบเทอมหรือไม่ โดยประชาชนมากกว่า 57.71% มองว่าอยู่ไม่ครบเทอม ประกอบด้วยสัดส่วนร้อยละ

'มาริษ' ร่อนหนังสือ​ประท้วงทางการอิสราเอล หลังแรงงานไทยเสียชีวิต 4 ราย

นายมาริษ​ เสงี่ยมพงษ์​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ​ กล่าวถึงเหตุยิงจรวดเข้าไปในเขตประเทศอิสราเอล และทำให้คนไทยเสียชีวิต 4 ราย แล

'เพื่อไทย' ไม่ฟังเสียงต้าน! ดันทุรังเข็น 'กิตติรัตน์' นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่า รัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน

ระแวง-ระวัง “ประโยชน์ทับซ้อน” ถกขุมทรัพย์ไทย-กัมพูชาไปถึงไหน?

การเคลื่อนไหวต่อต้านบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดนและแผนพลังงานเมื่อปี 2544 หรือ MOU44 และการปลุกกระแสการเสียเกาะกูดให้กัมพูชา ถ้ามีการเจรจาผลประโยชน์ระหว่างรัฐบาล 2 ชาติ

"ดีเอสไอ" รับเผือกร้อนต่อ สางคดี "ดิไอคอน" ไม่ใช่เรื่องง่าย

คดีดิไอคอนกรุ๊ปถือเป็นหนึ่งในคดีฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงินที่ใหญ่ระดับประเทศ โดยมีความเสียหายสูงถึงเกือบ 3,000 ล้านบาท จากการที่บริษัทดังกล่าวชักชวนประชาชนให้ลงทุนในสินค้าผลิตภัณฑ์ในลักษณะที่เป็นเครือข่าย