ความเคลื่อนไหวของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เที่ยวล่าสุด ถือเป็นการเขย่าวงการการเมือง ตำรวจ และองค์กรอิสระ
เริ่มตั้งแต่กรณีเอกสารคำร้องคัดค้านการทำหน้าที่ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลุดออกมาทางโซเชียลมีเดีย สาระสำคัญคือ การเล่าที่มาในการเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ของนายสุชาติ ที่อ้างวัน เวลา และสถานที่ว่า ได้ไปขอให้ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประรัฐ ช่วยให้ได้เป็น
ขณะเดียวกัน เอกสารคัดค้านยังบรรยายว่า บิ๊กโจ๊ก มีความขัดแย้งกับ นายสุชาติ พร้อมกับขอให้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องนี้ไปยังรัฐสภาเพื่อให้ตรวจสอบ นายสุชาติ
เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ ป.ป.ช.เป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้เคยมีแต่ข่าวลือว่า บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อ ป.ป.ช. เพราะมีส่วนผลักดันหลายคนไปเป็นกรรมการ ป.ป.ช.
เพราะมีคำบรรยายแบบละเอียดยิบในคำร้องคัดค้านของ บิ๊กโจ๊ก เกี่ยวกับเรื่องนี้ ยิ่งทำให้คนปักใจเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง เพราะ บิ๊กโจ๊ก เป็นนายตำรวจใกล้ชิด บิ๊กป้อม ที่โอบอุ้มกันมาตั้งแต่สมัย บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการ แต่ยังสามารถกลับมารับราชการตำรวจได้ในที่สุด
โดยมีรายงานว่า หลังจากเอกสารดังกล่าวปรากฏ บิ๊กป้อม ถึงกับปิดบ้าน ปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ งดรับแขก เพราะเครียด!
อีกคนที่ บิ๊กโจ๊ก พุ่งเข้าใส่คือ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีแต่งตั้ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร.
รวมถึงร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ เศรษฐา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีที่มีคำสั่งให้กลับไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วให้ออกจากราชการ ทั้งที่ก่อนหน้ามีคำสั่งให้มาช่วยราชการ อีกกระทง
ในคราวเดียวกัน บิ๊กโจ๊ก ยังให้ตรวจสอบอำนาจการสอบสวนของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีเว็บพนัน BNK Master ว่ามีอำนาจในการสอบสวนหรือไม่ พร้อมทั้งให้ตรวจสอบหัวหน้าพนักงานสอบสวน และคณะพนักงานสอบสวนทุกนายว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่
พร้อมทั้งยังระบุว่า อีก 3-4 วันจะมาร้องเรียน เศรษฐา และ ผบ.ตร. ในเรื่องอื่นอีก
จับอาการ บิ๊กโจ๊ก เลือดขึ้นหน้า สู้หัวชนฝา บางคนนิยามว่า เป็นอาการจนตรอกที่ต้องสู้ตายเพื่อความอยู่รอด
ที่ว่า จนตรอก เพราะถึงจุดที่ลากทุกคนมาตายด้วยกัน ไม่เว้นแม้แต่ บิ๊กป้อม ผู้ที่มีพระคุณของตัวเอง เอกสารคำร้องคัดค้านที่บรรยายเรื่องราวของ นายสุชาติ ในการเข้าหา บิ๊กป้อม นั้น เป็นผลลบมากกว่าผลดีต่อตัวหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
และที่ บิ๊กโจ๊ก ต้องสู้ขนาดนี้ เพราะรู้ว่า รอบนี้อีกฝ่ายไม่ได้หวังเพียงแค่สกัดกั้นตัวเองเป็น ผบ.ตร.ในอนาคตเท่านั้น หากแต่เป็นการกำจัดให้พ้นจากยุทธจักรสีกากีไปเลย
การส่งตัวกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคำสั่งให้ออกจากราชการคือ สัญญาณว่าอีกฝ่าย เจตนาฆ่าให้ตาย
บิ๊กโจ๊ก ตอบโต้กับตัวละครทุกตัวที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี, ผบ.ตร. ไปถึงระดับฝ่ายปฏิบัติ ตลอดจนองค์กรอิสระ เพื่อโอกาสรอด
อะไรที่มีช่องให้แฉ เปิดปฏิบัติการทำลายหมด
อย่างกรณีคัดค้าน นายสุชาติ ทั้งที่เจตนาของ บิ๊กโจ๊ก ต้องการให้คดีนี้อยู่ในมือ ป.ป.ช.มากกว่าตำรวจนั้น ก็มีการตั้งข้อสังเกตกันว่า อาจเป็นเพราะรู้สึกว่า นายสุชาติ เป็นกรรมการ ป.ป.ช.ที่มีบทบาทสำคัญ คุมคดีใหญ่ๆ มากมาย และยังเป็นหนึ่งในตัวเต็งประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ต่อจาก พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ที่กำลังจะหมดวาระในปลายปีนี้
ซึ่งเป็นคนที่ตัวเองมองว่าเป็น ปรปักษ์ ไม่สามารถพูดคุยได้ และวันข้างหน้าอาจจะสร้างปัญหาให้กับคดีตัวเองใน ป.ป.ช.ได้
ฉะนั้น ต้องทำให้ ป.ป.ช.เป็นพื้นที่ปลอดภัยของตัวเองก่อน
ส่วนการร้องเรียนนายกฯ, ผบ.ตร. และพนักงานสอบสวน เป็นการไล่ฟาดทุกองคาพยพที่รู้สึกว่าร่วมขบวนการในการกำจัดตัวเอง โดยในส่วนนายกฯ อาจมองว่ารู้เห็นเป็นใจเรื่องการให้ออกจากราชการ
ขณะที่พนักงานสอบสวนคดี BNK Master เพื่อต่อสู้ไม่ให้ตำรวจทำคดีเอง หลังจาก สน.เตาปูนดำเนินคดีเรื่องฟอกเงิน เพื่อไม่ให้เรื่องต้องไปอยู่ในมือ ป.ป.ช. เหมือนกับคดีเว็บพนันมินนี่ ที่ถูกร้องเรื่องปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามมาตรา 157
โดยการกล่าวหาเรื่อง ฟอกเงิน สามารถส่งไปอัยการและศาลได้เลย ไม่ต้องผ่าน ป.ป.ช. ซึ่ง บิ๊กโจ๊ก อาจมองว่าต้องต่อสู้อีกยาวถึง 3 ศาล และตัวเองคอนโทรลไม่ได้ ต่างจากอยู่ในมือ ป.ป.ช.ที่กระบวนการจะจบเร็วกว่า และตัวเองอาจจะหาช่องพลิกเกมกลับมาได้
จึงต้องต่อสู้เพื่อให้คดีนี้ไปอยู่ในมือ ป.ป.ช. เหมือนกับคดีเครือข่ายเว็บพนันมินนี่
การสู้หัวชนฝาครั้งนี้เป็นการดิ้นเพื่อให้ตัวเองมีโอกาสรอด หรืออย่างน้อยก็ทำให้การกำจัดตัวเองช้า และยุ่งยากมากขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล
การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า
ภูมิใจไทยพลัส-เปิดเกมใหญ่ ชูรัฐมนตรีคนนอก ลุยเลือกตั้ง
บรรยากาศการเมืองปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 เดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดรับสมัคร สส.ปลายเดือนธันวาคม ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวผู้สมัคร นโยบายหาเสียง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย
‘บิ๊กป้อม’ ถอย ดัน ‘ตรีนุช’ เลือกตั้งสุดท้ายของ ‘พปชร.’
‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดในวันที่ 27-28 ธันวาคมนี้
คิกออฟเลือกตั้ง69เช็กความพร้อมกกต. เปิดคู่มือผู้สมัครสส.ก่อนออกหาเสียง
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ครั้งใหม่ หลังจากพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2568
‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง
ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ
ท็อปไฟว์5ข่าวดังการเมืองไทย68 ยุบสภาฯไคลแมกซ์ปิดท้ายปี
นับถอยหลังเหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์เศษก็จะสิ้นปี 2568 เข้าสู่ปีใหม่ 2569 ที่เป็นปีมะเมีย ซึ่งตำราโหราศาสตร์บางสำนักบอกว่า จะเป็นปีม้าธาตุไฟ โดยการเมืองไทยปี 2569 เรื่องสำคัญที่สุดก็คือ การเลือกตั้ง สส.ในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ที่จะนำมาสู่การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

