พอพรรคเพื่อไทยหาเสียงเมื่อครั้งเลือกตั้งหลังสุด บอกว่าจะแจกเงิน 1 หมื่นบาท ประชาชนหูผึ่งทันที แต่ผ่านมานับเป็นเวลา 7 เดือนที่เพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ก็ยังไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ แบบนี้เสียเครดิต เพราะถือว่าเบี้ยวหนี้
รัฐบาลก็ได้แต่แถลงผัดวันประกันพรุ่ง เดี๋ยวจะวันนั้น เดี๋ยวจะวันนี้ หากยังจำกันได้เคยบอกว่า คนไทยจะได้รับแจกช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ต้องเลื่อน เพราะมีราชการหลายหน่วยงานท้วงติงในการดำเนินนโยบายดังกล่าว โดยเฉพาะ “แหล่งที่มา” ของงบประมาณที่จะใช้ทำโครงการ
ฝ่ายค้านเคยวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ไว้ในหลายแง่มุม ความไม่พร้อมนี้สะท้อนให้เห็นว่าช่วงที่มีการหาเสียงนั้น โครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้ศึกษาอย่างดี สักแต่ว่าประชานิยมให้ประชาชนเลือกตัวเองให้มากที่สุดเสียก่อน ส่วนจะหาเงินจากไหนมาแจกค่อยว่ากันทีหลัง หากไม่เป็นความจริงป่านนี้รัฐบาลก็สามารถแจกให้กับประชาชนได้ใช้จับจ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เหมือนดั่งที่รัฐบาลเคยตั้งใจจะให้เป็น
จนถึงนาทีนี้มีเพียง “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงการคลัง ตัวแทนฝ่ายรัฐบาลพูดอยู่ฝ่ายเดียว “10 เมษายน” มีข่าวใหญ่ ข่าวดี!!! ก็ไม่ทราบจะเชื่อได้อีกหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาโครงการติดตรงนั้นตรงนี้ มีเหตุให้รัฐบาลต้องเลื่อนแจกตลอดเวลา จนชาวบ้านระอา ขืนวันที่ 10 เม.ย. ยังสารพัดจะอ้างอีก คะแนนนิยมจะยิ่งเทไปยังพรรคคู่แข่ง
จะเข้าทาง “ศิริกัญญา ตันสกุล” สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่พูดหลายครั้งแล้ว ล่าสุดในการอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เธออภิปรายไว้ตอนหนึ่งว่า “ตอนนี้เรียกว่า (รัฐบาล) เลือดเข้าตา จากที่พายเรือในอ่าง วันนี้กำลังออกทะเล ต้องยอมรับว่าค่อนข้างเละเทะ เปลี่ยนแหล่งเงินอย่างน้อย 5 ครั้ง เลื่อนแจกอย่างน้อย 4 ครั้ง เปลี่ยนเทคโนโลยีที่ใช้ เปลี่ยนจำนวนคนที่จะแจก ทำให้ชวนคิดว่ารัฐบาลนี้มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศจริงๆ ใช่หรือไม่ การที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแสดงให้เห็นว่าไม่มีความพร้อม จึงต้องขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ การที่สัญญาแล้วทำไม่ได้ตามนั้นจะเกิดความเสียหาย การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลคาดไว้จะไม่เกิดขึ้น”
ในขณะที่ “รัฐบาล” อุบเรื่องแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้จัดสรรให้โครงการ สส.ไหม-ศิริกัญญา ก็นำข้อมูลมาเปิดเผยล่วงหน้า โดยคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะดึงเงินมาจาก 3 แหล่ง ประกอบด้วย 1.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 กู้ชดเชยเต็มเพดาน 10,000 ล้านบาท โดยเอาไปใส่ไว้ในกองทุนประชารัฐเพื่อสวัสดิการ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมีฐานะยากจนตามเกณฑ์ที่กำหนด แต่ก็ยังไม่พอแจก ฉะนั้นจึงจะต้องไปเอาจากงบกลางอีก 40,000 ล้านบาท
2.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 68 กู้ชดเชยขาดดุลเพิ่มอีก 150,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้กับโครงการ และ 3.กู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ ก ส.) แต่ต้องตีลังกาตีความ เพราะนอกจากจะแจกให้เกษตรกรแล้ว ยังต้องนำเงินที่ผิดวัตถุประสงค์ ธ.ก.ส.ไปแจกให้ “ครอบครัว” ของเกษตรกรด้วย
ทว่า รมช.จุลพันธ์โต้กลับว่า “อยากให้ลดการคาดเดาลง เพราะอีกไม่กี่วันก็ถึง 10 เม.ย. ขอให้รออีกไม่นาน ไม่อยากให้คาดเดาไปต่างๆ นานา ผิดมาก็มีหน้าแตกอีก ขอให้รอมติให้ชัดเจนแล้วมาแถลง ทุกอย่างจะสมบูรณ์ ยืนยันว่านโยบายนี้ตรวจสอบเข้มข้นแม้ยังไม่ได้แจกเงินให้ประชาชน”
ส่วนท่าทีของ “ลวรณ แสงสนิท” ปลัดกระทรวงการคลัง บอกถึงที่มาของแหล่งเงินทำโครงการว่า ทางกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณดูไว้หลายช่องทาง และเป็นทุกช่องทางที่ใช้ได้ เพราะทางเลือกมีเยอะ ทำได้ในหลายช่องทาง แต่ขอให้รอความชัดเจนในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ยืนยันดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมาย
มาถึงจุดนี้ ได้แต่นั่งกระดิกนิ้วนับถอยหลังให้ถึงวันที่ 10 เม.ย.เร็วๆ ทุกหูจะเงี่ยฟังคำพูดที่ออกจากปากรัฐบาล ย้ำไว้ตรงนี้ “รัฐบาลยืนยัน” ไตรมาสที่ 3 เปิดลงทะเบียนร้านค้า และไตรมาสที่ 4 เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนและเงินถึงมือ ถ้าวันที่ 10 เม.ย.นี้ สารพัดอ้างอีกแล้วทำไม่ได้ ถือว่าเสียคน และไร้น้ำยาเหมือนที่ “ก้าวไกล” เย้ยหยันไว้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่
'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน
ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี
บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา
ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง
จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567
รัฐบาลเคาะแจกเงินหมื่น เฟส 2 ให้คนอายุ 60 ปีขึ้นไป ก่อนวันตรุษจีนปี 68
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง