แพลมให้เห็น แนวทางการสู้คดี ของพรรคก้าวไกลในคำร้องคดี ยุบพรรคก้าวไกล ออกมาให้เห็นแล้ว
เทคนิคแรกที่พรรคก้าวไกล ใช้ก็คือการ ต่อเวลา การสู้คดีออกไปให้นานที่สุด อันเป็นท่าทีซึ่งมาจากคำให้สัมภาษณ์ของ 2 แกนนำก้าวไกลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ชัยธวัช ตุลาธน ที่สรุปได้ว่าก้าวไกลจะงัด 2 กระบวนท่ามาใช้
1.ขอขยายเวลาในการยื่นเอกสารคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
ซึ่งหากพรรคก้าวไกลใช้สิทธิ์ตรงนี้อย่างเต็มที่และศาลอนุญาตตามที่ร้องขอ อาจทำให้สามารถขยายเวลาการสู้คดี ออกไปได้ถึง 60 วัน หรือ 2 เดือน
เพราะอย่างก่อนหน้านี้ ในการสู้คดีหุ้นสื่อไอทีวีของพิธา พบว่าพิธายื่นขอขยายเวลาในการส่งเอกสารคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา จากที่ศาลให้เวลา 15 วัน โดยพิธาขอขยายเวลาถึง 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน รวมเป็น 60 วัน
อันปรากฏในเอกสารอย่างเป็นทางการของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อ 24 มกราคม 2567
“ผู้ถูกร้อง (พิธา) ยื่นคำร้อง ฉบับลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ขอขยายระยะเวลาการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ออกไปอีก 30 วัน นับแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2566 และคำร้องฉบับลงวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ขอขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ครั้งที่ 2 ออกไปอีก 30 วัน นับถัดจากวันครบกำหนดขยายระยะเวลาครั้งแรก ศาลมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอ”
ดังนั้นถ้าพรรคก้าวไกลขอขยายเวลาถึง 60 วัน และศาลอนุญาตตามที่ร้องขอ
ก็จะทำให้ที่หลายคนเคยประเมินว่า คดียุบพรรคก้าวไกลจะจบเร็ว สุดท้ายอาจยื้อไปพอสมควร แต่หากพรรคก้าวไกลขอขยายเวลาแค่ 1-2 รอบ แต่ไม่เกิน 30 วัน หากเป็นแบบนี้คดีก็จบเร็ว
แต่ก็อยู่ที่ศาลด้วยว่าจะเอาด้วยหรือไม่ เพราะหากศาลให้ขยายเวลาได้เต็มที่ไม่เกิน 15 วัน เพราะมองว่าคดีดังกล่าวรูปคดีไม่ซับซ้อน สามารถวินิจฉัยได้เร็ว แบบนี้คดีก็จะยิ่งจบเร็วขึ้นไปอีก แต่หากออกมาแบบนี้ จะไปเข้าทางให้ก้าวไกลออกมาโวยวายว่า ศาลไม่ให้ความเป็นธรรม เร่งรีบปิดคดียุบพรรคก้าวไกล ก็จะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญถูกดิสเครดิต
รอดูกันว่าก้าวไกลจะเดินเกมนี้อย่างไร แต่เชื่อว่าจะทำทุกอย่างเพื่อยื้อเวลาการวินิจฉัยคดีออกไปให้นานที่สุด เพื่อให้พรรคตั้งหลักในการสู้คดี และเตรียมพร้อมหากมีการยุบพรรคเกิดขึ้น
2.เรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดห้องพิจารณาคดีไต่สวนคำร้อง
โดยประเด็นนี้เห็นได้ชัดเจนจากท่าทีของพิธาที่ให้สัมภาษณ์ไว้ล่าสุดว่า
“พรรคก้าวไกลจะขอสิทธิ์ในการไต่สวน เพื่อจะได้ต่อสู้ทางคดีอย่างเหมาะสม เพราะเรื่องนี้โทษหนักกว่าคราวที่แล้ว (คดีล้มล้างการปกครอง) คราวที่แล้วมีเอาไว้เพียงแค่ปรามป้องกัน เรายังมีสิทธิ์ได้ไต่สวน แต่คราวนี้มันถึงกระทั่งยุบพรรค ประหารชีวิตการเมือง มันจะได้หมดข้อครหา"
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า หากศาลเปิดห้องพิจารณาคดี เพื่อเรียกผู้ร้อง-ผู้ถูกร้อง-พยานบุคคลมาให้ถ้อยคำต่อศาล จะทำให้การวินิจฉัยคดีขยับเวลาออกไปร่วมๆ 15-20 วัน ที่ก็จะยิ่งเป็นการต่อลมหายใจให้พรรคก้าวไกลมากขึ้น
และนอกจาก 2 แท็กติกข้างต้นของพรรคก้าวไกลในการสู้คดียุบพรรค ที่ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคที่สามารถทำได้ พบอีกว่าก้าวไกล จะใช้วิธีการ
"เปิดแถลงข่าวการสู้คดีต่อสาธารณะ"
ที่ก็คาดว่าคงจะเป็นการนำประเด็นที่ปรากฏในเอกสาร คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญออกมาเปิดแถลงอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่แค่เผยแพร่ในเพจพรรคก้าวไกลแบบที่เคยทำตอนคดีล้มล้างการปกครอง
ซึ่งมันก็คือหนึ่งในแผนสู้คดีของก้าวไกล ที่จะเลือกเอาประเด็นที่ยื่นต่อศาลมาสรุปให้คนเห็นเข้าใจง่ายๆ ในทางที่เป็นคุณกับฝั่งตัวเอง
เช่น บอกว่า สส.มีอำนาจในการเสนอร่างกฎหมายเข้าสภาฯ ดังนั้นการที่ สส.ก้าวไกลสมัยที่แล้วเสนอร่างแก้ไข 112 จึงเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แล้วก็สร้างกระแสว่า
“ก้าวไกลไม่ได้ล้มล้างการปกครอง จะมายุบพรรคก้าวไกลได้อย่างไร”
ที่ก็คือการหวังเปลี่ยนเกม ของก้าวไกล จากตั้งรับให้กลายเป็นฝ่ายรุก ในพื้นที่สาธารณะ โดยที่ กกต.ในฐานะผู้ร้อง และศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะตัดสินคดีที่เป็นองค์กรรัฐ ไม่สามารถทำแบบที่ก้าวไกลทำได้ จึงทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ตั้งรับ
ก็เหมือนกับที่ตอนนี้แกนนำก้าวไกลเร่งโหมสร้างกระแส ก้าวไกล ยิ่งยุบ ยิ่งโต อย่างที่พิธาออกมาพูดเรื่องนี้ 2 รอบติดๆ กัน
ทั้งการอภิปรายกลางดึกเมื่อ 4 เมษายนที่ผ่านมา ระหว่างการประชุมสภาฯ เพื่ออภิปรายรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ที่พิธาระบุว่า “ยิ่งยุบ ยิ่งทำให้เราไปถึงเส้นชัยได้เร็วมากขึ้น”
และตอกย้ำอีกรอบ เมื่อ 6 เมษายน
“มันเป็นการติดเทอร์โบ ทำให้พรรคที่ถูกยุบได้แต้มต่อทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า”
นับหนึ่งคดียุบพรรคก้าวไกลยังร้อนแรงขนาดนี้ ถ้าไปถึงช่วง ใกล้วันตัดสินคดีเมื่อไหร่ ไม่อยากจะคิด จะระอุขนาดไหน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"
แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
'ชูศักดิ์' โล่ง ปลอดชนักล้มล้างการปกครอง
'ชูศักดิ์' มองเป็นสัญญาณดี ปม 'ศาล รธน.' ไม่รับคำร้อง 'พท.' ล้มล้างการปกครอง ชี้ รัฐบาลเดินหน้าทำงานได้แบบไม่กังวล
'ดร.ณัฏฐ์' ชี้กรณี 'ทักษิณ-พท.' รอดคดีล้มล้างฯ ไม่ตัดอำนาจ 'กกต.' ไต่สวนยุบพรรคได้
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยว่าการกระทำของนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเป็นการ
'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน
ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
'วิสุทธิ์' เผยฝ่ายกฎหมายเพื่อไทย ร่างคําฟ้องเช็กบิล 'ธีรยุทธ' แล้ว
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการฟ้องร้องผู้ยื่นคําร้องกล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยล้มล้างการปกครอง ว่า ตนได้คุยกับนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
'นิพิฏฐ์' ติดใจปมรพ.ชั้น 14 พร้อมให้กำลัง 'ธีรยุทธ'
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตสส. จังหวัดพัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กว่า เห่าหอนไปวันๆ