หลังเสร็จสิ้น ภารกิจเดินทางมาราธอน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางเยือนต่างประเทศร่วมเกือบ 2 สัปดาห์ ภารกิจกลับเชียงใหม่ บ้านเกิดในรอบ 17ปี ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี มีเศรษฐา ไปร่วมพูดคุย รับประทานอาหาร ให้สัมภาษณ์อย่างพินอบพิเทา รวมทั้งภารกิจ ประชุมครม.สัญจร พะเยา จบลงไปเมื่อ 19มี.ค.
เข้าสู่โหมด สภาผู้แทนราษฎรบ้าง ตามที่มีการนัดหมายประชุมเพื่อพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีพ.ศ.2567 ที่ล่าช้ากว่าปกติไปมาก แม้ การพิจารณาวาระ1 ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯไปแล้ว แต่ในช่วงวันที่ 20-22มี.ค. ยังต้องตามลุ้นกันต่อ ผลออกมาจะเป็นอย่างไร
ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567จากวงเงินทั้งสิ้น 3.48 ล้านล้านบาท แต่ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณา ปรับลดงบประมาณ จำนวน 9.2 พันล้านบาท เป็นไปตามที่
คณะกรรมการวิสามัญฯ ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ร่วมกันพิจารณา ซักถามตัวแทนกระทรวง หน่วยงาน ทบวงกรมสำคัญๆ หากเห็นว่า ภารกิจบางอย่าง ไม่สอดคล้องกับงบประมาณ ‘ถูกรีดไขมันออก’ ถูกปรับลดลงไปบ้าง ตามความเหมาะสม
หน่วยงานราชการสำคัญ ที่ถูกปรับลดงบประมาณมากที่สุด 5 อันดับ พบว่า
-กระทรวงกลาโหม ปรับลดลง จำนวน 2.48 พันบาท
-กระทรวงมหาดไทย ปรับลดลงจำนวน 1.52 พันล้านบาท
-แผนงานบูรณาการ ปรับลดลงจำนวน 1.49 พันล้านบาท
-สำนักนายกรัฐมนตรี ปรับลดลงจำนวน 710 ล้านบาท
-องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปรับลดลงจำนวน 539 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน เมื่อมีการปรับลดแล้ว คณะกมธ.ฯ ได้นำมาเพิ่มให้หน่วยรับงบประมาณต่างๆ หน่วยงานที่ได้รับเพิ่มมากที่สุด ประกอบไปด้วย
-งบกลาง ให้ตั้งเพิ่มจำนวน 8.17 พันล้านบาท
-กระทรวงแรงงาน ให้ตั้งเพิ่มจำนวน 500 ล้านบาท
-หน่วยงานขององค์กรอิสระและองค์กรอัยการ ให้ตั้งเพิ่มจำนวน 375 ล้านบาท
-กระทรวงมหาดไทย ให้ตั้งเพิ่มจำนวน 92 ล้านบาท
-แผนงานบุคลากรภาครัฐ ให้ตั้งเพิ่มจำนวน 29 ล้านบาท และหน่วยงานของศาล ให้ตั้งเพิ่มจำนวน 28 ล้านบาท
แม้ในภาพรวม ผลการโหวตในวันที่ 22มี.ค. ร่างพรบ.งบประมาณปี67 น่าจะผ่านความเห็นชอบจาก เสียงส่วนใหญ่ในสภาฯไปได้ไม่ยาก เนื่องจาก จำเป็นต้องมีงบประมาณไปขับเคลื่อน กระตุ้นเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนในภาคส่วนต่างๆ ทำให้ประเทศเดินหน้าขับเคลื่อนไปได้ สส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่นำโดย พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติฯ คงจะเทเสียงไปในทิศทางเดียวกัน เห็นด้วย ‘โหวตรับหลักการ’
ที่น่าสนใจ พรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย 3 พรรคหลักของฝ่ายค้าน ยังคงต้องจับตาดูท่าทีกันต่อไป จะมีเสียงแตก จะมีมหกรรมงูเห่าเกิดขึ้นอีกหรือไม่
ย้อนไปไม่นาน การโหวตร่าง พ.ร.บ.งบรายจ่ายปี 2567 วาระรับหลักการ เมื่อเดือนม.ค.67 ที่ผ่านมา ‘สุภาพร สลับศรี’ สส.ยโสธร ‘หรั่ง ธุระพล’ สส.อุดรธานี ‘อดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์’ สส.อุดรธานี 3สส. พรรคไทยสร้างไทย ‘โหวตสวนมติพรรค’ ไปร่วม โหวตเห็นชอบ ฝั่งเดียวกับรัฐบาล ทำให้เกิดปัญหา ที่ต้องเร่งเคลียร์ใจกันในพรรคไทยสร้างไทย กับพรรคร่วมฝ่ายค้าน กันอยู่พักหนึ่ง
พรรคประชาธิปัตย์ โดยสถานการณ์ก็ต้องยอมรับว่า แบ่งเป็น 2 ปีก ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน คอยตรวจสอบอย่างแข็งขัน กับ ฝ่ายที่เกียร์ว่าง ชกไม่เต็มหมัด แต่ด้วยบทบาทหน้าที่ มติพรรคบางอย่างค้ำคอไว้ เลยไม่ถึงขั้นแผลงฤทธิ์เหมือน พรรคอื่นๆ
พรรคก้าวไกล ที่เหลือสส. 148 เสียง เกิดความระส่ำ ผลพวงจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย การเสนอแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง กกต.รับเรื่องไปดำเนินการต่อ ก่อนที่จะมีมติเห็นควร ยุบพรรค และส่งไปให้ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยชี้ขาดอีกรอบ
ท่ามกลางกระแสข่าว ยุบพรรค ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค และ สส.ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขมาตรา112 ประมาณ 44 คน ยังมีดาบ จริยธรรม ที่รอเล่นงาน น่าหวั่นใจ ท่ามกลางกระแสข่าว สส.สมัยแรกจำนวนไม่น้อย เริ่มมอง ทางหนีทีไล่ เปิดดีลบางพรรค หาที่อยู่ใหม่เอาไว้บ้างแล้ว จะมีบิ๊ก ในพรรคปลายทางนั้นๆ จะถือโอกาสนี้ วัดบารมี กดปุ่ม ให้แสดงความเห็น สวนมติพรรคไปหรือไม่
กลายเป็นว่า การพิจารณากฎหมายงบประมาณในวาระ2-3 ในห้วง 3 วันนี้ 20-21-22มี.ค. นอกจาก เนื้อหาสาระที่อภิปราย ตรวจสอบแล้ว เกมการเมืองของ พรรคร่วมฝ่ายค้าน น่าจับตาโฟกัสมากกว่า พรรคร่วมรัฐบาล
ตามปฏิทิน โหราศาสตร์ ระบุ วันที่ 20 มีนาคม ถือเป็นวัน อธิบดี ทว่าในลงคะแนนเสียง วันโหวตงบ 22มี.ค. ถือเป็น วันอุบาทว์/อุบาสน วันโลกาวินาศ วันเวลาดังกล่าว จะราบรื่น ฝ่ายค้านไม่มีใครแตกแถว(เพิ่ม)อีก หรือ จะเป็น วันโลกาวินาศของ ฝ่ายค้าน ผลของคะแนนเสียงที่ออกมา คงจะเป็นตัวเฉลยคำตอบทั้งหมดได้เป็นอย่างดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โค่นแชมป์เก่า! 'วาริน' คว้าชัย 'นายก อบจ.เมืองคอน' ทิ้งห่าง 'กนกพร'
ผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครศรีธรรมราช อย่างเป็นทางการ ประกาศว่า นางสาววาริน ชิณวงศ์ ผู้สมัครหมายเลข 2 จากทีมนครเข้มแข็ง
ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"
แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน
ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่
ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง
จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567