'ก้าวไกล' จัดทัพใหม่ รอวันสุกงอม รัฐบาล-กลุ่มอนุรักษนิยม เร่งแก้เกม

ภายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า   การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขณะเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ พรรคก้าวไกล ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง

มีเจตนาเซาะกร่อน บ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเหตุให้ชำรุด ทรุดโทรม เสื่อมทราม หรืออ่อนแอลง นำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด

และสั่งการให้เลิกการกระทำ เลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การโฆษณา และการสื่อความหมายวิธีอื่น เพื่อให้มีการยกเลิก ป.อาญา มาตรา 112 อีกทั้งไม่ให้มีการแก้ไข ป.อาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย ก็มีผลกระทบตามมาเป็นลูกโซ่

โดย นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ  และ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุบพรรคก้าวไกล และคณะกรรมการบริหารพรรค ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

ขณะที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. เพื่อขอให้นำคำพิพากษาของศาลฯ วินิจฉัยกรณีนายพิธาและพรรคก้าวไกลอาจเข้าข่ายฐานความผิดข้อหาเป็นกบฏตาม ป.อาญา ม.113 (1)

วันถัดมา นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร และ นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ยื่นคำร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบจริยธรรม สส. 44 คน ของพรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อเสนอร่างแก้ไข ป.อาญา มาตรา 112 และหวังให้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต

เรื่องดังกล่าวเคยมีบรรทัดฐานมาแล้วกรณี ป.ป.ช.มีมติว่า  น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีโพสต์ข้อความพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ และศาลฎีกาพิพากษาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต รวมถึงไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ

จากบรรทัดฐานดังกล่าว ทำให้พรรคก้าวไกลต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ ภายหลังการประชุม สส.พรรค นายชัยธวัช ยอมรับว่าพรรคมีความเสี่ยงต่อการถูกยุบพรรคเช่นกัน หลังมีผู้ไปร้องเรียนแล้ว ต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

บนเว็บไซต์พรรคก้าวไกล ที่มีข้อมูล 'เลือกตั้ง 66' ของพรรคก้าวไกล นโยบาย ‘แก้ไข มาตรา 112’ ซึ่งเคยปรากฏอยู่ในลิงก์ ได้หายไป และไม่ปรากฏข้อความอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไข มาตรา 112 ในเว็บไซต์นี้

แสดงว่า คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลจำนวน 10  คน  รวมทั้ง 44 สส. ไม่อยากเสี่ยง ท้าทายข้อกฎหมายอีก ไม่อยากโดนตัดสิทธิ์แบบ น.ส.พรรณิการ์ ที่เหมือนการประหารชีวิตทางการเมือง

ตรงข้ามกับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล  เลขาธิการคณะก้าวหน้า ออกตัวแรง วิจารณ์คำวินิจฉัยศาล รธน.อย่างดุเดือด ถึงกับปลุกให้เสนอแก้กฎหมายยุบศาลรัฐธรรมนูญไปเลย  ยิ่งเมื่อรู้ว่ามีการลบนโยบายแก้ ม.112 ออกจากเว็บไซต์พรรคก้าวไกล ถึงกับเย้ยว่า ทำไม แหยและหงอ ไม่ควร กลัวลนลานขนาดนี้

แนวทางแบบนี้เสมือนเป็นพวก ซาดิสต์ทางการเมือง ที่สนับสนุนให้ชูธงปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์เหมือนเดิม ไม่ต้องลดเพดาน หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ จะยิ่งสร้างความคับแค้น ปลุกให้มวลชนลุกขึ้นสู้แบบ ตายสิบ เกิดแสน

ซึ่ง นายปิยุบตร โพสต์ก่อนวันศาลฯ อ่านคำวินิจฉัยว่า หากผลการตัดสินออกมาไม่เป็นคุณกับ พิธา และพรรคก้าวไกล พิธา ชัยธวัช พรรคก้าวไกล ก็จะกลายเป็น “มรณสักขี” เหมือนดังเช่นพรรคอนาคตใหม่ยิ่งได้รับความนิยม ยิ่งได้การสนับสนุน และเมื่อการเลือกตั้งครั้งถัดไปมาถึงก็ง่ายมากที่พลังทางการเมืองกลุ่มก้อนนี้ จะได้เกิน 250 เสียง

อย่างไรก็ตาม การลบ นโยบาย ‘แก้ไข มาตรา 112’ ออกจากเว็บไซต์ ก็อาจมองได้ว่าเป็นการ ถอยเชิงยุทธศาสตร์ ซุ่มซ่อน รอคอยโอกาส เพราะคำวินิจฉัยศาล รธน. วินิจฉัยถึงพฤติการณ์ในอดีตที่ต่อเนื่องแล้วสั่งห้ามกระทำอีก  หากในอนาคตหยุดกระทำดังกล่าวศาลฯ อาจไม่เอาผิดก็ได้ และหากชนะเลือกตั้งสมัยหน้า ก็หาช่องแก้ ม.112 ได้ เพราะศาลไม่ได้ห้ามแก้ หากแก้ไขตามกระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ

แต่หากเป็น ฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด กก.บห.- 44 สส. ถูกตัดสิทธิ์ทั้งหมด ก็สามารถเตรียมแกนนำรุ่น 3  ขึ้นมาแทนที่ได้ โดยเฉพาะ สส.สมัยแรก อาทิ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ, นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์, นายรอมฏอน ปันจอร์, นางสาวภคมน หนุนอนันต์, นายกรุณพล เทียนสุวรรณ, นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์, นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร, นายณรงเดช อุฬารกุล เป็นต้น

โดยเชื่อว่าฐานเสียง 14 ล้าน ยังคงเหนียวแน่นกับ พรรคส้ม เพราะเป็นการหลอมรวมกันด้วยอุดมการณ์ที่มั่นคง แม้ลดเพดานลงบ้าง มวลชน ด้อมส้มก็คงเข้าใจสถานการณ์ ไม่หันไปเลือกพรรคอื่น นอกจากนี้ ประชาชนที่เคยมองว่า พรรคส้มสุดโต่ง ก็อาจหันมาเลือกพรรคส้มได้มากขึ้น

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง สำรวจฐานเสียงพรรคก้าวไกลวันนี้ ระหว่างวันที่ 25-27 ม.ค.2567 เมื่อเปรียบเทียบผลสำรวจระหว่างเดือน ก.ค.ปี 2563 กับ ม.ค.ปี 2567 เกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง จะเลือกพรรคก้าวไกลหรือไม่เลือกพรรคก้าวไกล พบว่า ในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ฐานเสียงของพรรค ก.ก.พุ่งพรวดมาเท่าตัว จากร้อยละ 16.7 ขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 37.3  

ซูเปอร์โพลระบุด้วยว่า "ถึงวันนี้จึงยากที่จะเหนี่ยวรั้งไว้ได้ รอวันแลนด์สไลด์ของพรรคก้าวไกลทั้งประเทศเท่านั้น"

เช่นเดียวกับ สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ  เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย” เดือนมกราคม 2567 ระหว่างวันที่ 20-28 ม.ค.2567 นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ประชาชนคิดว่ามีบทบาทโดดเด่นในเดือนมกราคม 67 นักการเมืองฝ่ายรัฐบาล 1.เศรษฐา ทวีสิน 51.46% 2.อนุทิน ชาญวีรกูล 25.50% 2 3.แพทองธาร ชินวัตร 23.04%   ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้าน 1.พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 61.31% 2.ชัยธวัช ตุลาธน 20.44% 3.ศิริกัญญา  ตันสกุล 18.25%

ซึ่งในการประชุมใหญ่พรรคก้าวไกลเดือน เม.ย.นี้ จะมีการเปลี่ยนตัวให้ นายพิธา ขึ้นมาเป็นหัวหน้าอีกครั้ง

ในขณะที่พรรคก้าวไกลคะแนนนิยมยังนำตลอด หันไปทางรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง พยายามโชว์ผลงานเด่นๆ ให้ได้เห็นเป็นรูปธรรม แต่ก็ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะนโยบาย เรือธง การแจก เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท  ก็เสมือนถูก ตอกฝาโลง ไปแล้ว เพราะสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องไม่เอาด้วย ไม่อยากติดคุกซ้ำรอยโครงการจำนำข้าว

โครงการ แลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร ที่นายกฯ บอกว่าจะมีนักลงทุนต่างชาตินำเงินมาลงทุนมากมาย ก็เป็นเพียงการคุยโว ส่วนนโยบาย ซอฟต์พาวเวอร์ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ด้านแฟชั่น ลาออกยกชุด ทั้ง 24 คน เพราะไม่พอใจที่รัฐบาลเอาแต่จัดอีเวนต์

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องอื้่อฉาวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ตำรวจ บก.ปปป. บุกจับ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีต ผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมกันข่มขู่เรียกรับเงิน นายณัฏฐกิตติ์  ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว แลกกับการยุติเรื่องร้องเรียนการทุจริต และมี นักการเมือง ป. เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เชื่อว่ามี ปลาตัวใหญ่ กว่านี้ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าว่า ปลาตัวใหญ่คือใคร? จนเป็นที่น่าสังเกตว่ามีการตัดตอนแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีเรื่องทุจริตทุกยุคสมัย จึงไม่แปลกที่เกษตรกรไทยยังยากจน ติดกับดักหนี้กันทั่วประะเทศ

ทางด้าน กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เคลื่อนขบวนปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลแบบยืดเยื้อ เรียกร้องให้นำ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร เข้าคุก เพื่อปกป้องกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเชื่อกันว่า น.ช.ทักษิณ ไม่ได้อยู่ชั้น14 รพ.ตำรวจแล้ว ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ ทางกระบวนการยุติธรรม ใช้อภิสิทธิ์ชน เหนือกฎหมายบ้านเมือง

ส่วนการเรียกร้องให้ออก กฎหมายนิรโทษกรรม ผู้ชุมนุมทางการเมือง เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ พรรคเพื่อไทยกลับเสนอญัตติด่วนให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาการออกกฎหมายนิรโทษกรรมไปอีก 2 เดือน ซื้อเวลาไปอีก แต่ น.ช.ทักษิณ กำลังจะได้กลับบ้าน

รัฐบาลชุดนี้ ซึ่งมาจาก ดีลลับ กับ กลุ่มอนุรักษนิยม ที่หวังใช้พรรคเพื่อไทยสู้กับพรรคก้าวไกล แต่เมื่อมีอำนาจ กลับไม่มีนโยบายที่ตอบโจทย์การเมืองไทยแต่อย่างใด และยังมีเรื่องฉาวโฉ่ในรัฐบาลวนอยู่ลูปเดิม

ในขณะที่ พรรคก้าวไกล แม้จะถูกตรวจสอบเรื่องภายในพรรค และมีการใช้กฎหมายจัดการ แต่คะแนนนิยมยังนำอยู่เหมือนเดิม

เป็นโจทย์ที่ รัฐบาลเพื่อไทย และ กลุ่มอนุรักษนิยม กำลังเร่งแก้เกม ก่อนที่่จะถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไม่ให้เกิด ก้าวไกลแลนด์สไลด์ อ้างเสียงข้างมากที่มาจากประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ใช้อำนาจผ่าน กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศ!