สร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองพอสมควร กรณีผลการศึกษาของคณะกรรมการเพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านระบบดิจิทัลวอลเล็ต ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธาน หลุดออกมาก่อนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะมีมติส่งให้รัฐบาล
ซึ่งผลการศึกษาของคณะกรรมการฯ ชุดนี้แทบ ไม่เป็นคุณ กับรัฐบาลเลย
ไม่ว่าจะเป็นการพบช่องโหว่ทุจริต ความเสี่ยงต่อการเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคล การประเมินตัวเลขเศรษฐกิจจากข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ชี้ว่าเศรษฐกิจปัจจุบันยังไม่เข้าข่ายวิกฤต
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจะกระทำผิดกฎหมายหลายฉบับ ทั้งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลัง พ.ร.บ.เงินตรา พ.ร.บ.เงินคงคลัง
ไม่เพียงเท่านั้น คณะกรรมการฯ ภายใต้การนำของ สุภา ยังกระตุกเตือนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้หมั่นตรวจสอบนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องการหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งกับสิ่งที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภามีความแตกต่างกัน
อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาดังกล่าวยังไม่ถึงกับเป็นฉบับไฟนอล เพราะต้องรอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ที่มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นประธาน มีมติส่งเรื่องให้รัฐบาลก่อน ซึ่งนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาไปแล้วครั้งหนึ่ง และให้ไปปรับปรุงแก้ไขแล้วนำกลับมาพิจารณา
แต่ถึงแม้ว่าจะสามารถปรับปรุงแก้ไขได้ แต่หน้าตาและเนื้อหาของผลการศึกษาของคณะกรรมการฯ ชุดของ สุภา คงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก
ฉะนั้น การหลุดออกมาก่อนจึงทำให้รัฐบาลได้เห็นและสามารถกำหนดยุทธศาสตร์เรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ได้ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป
แน่นอนว่า ในทางอำนาจ ป.ป.ช. ไม่ได้มีอำนาจจะสั่งหรือห้ามรัฐบาลว่า ให้ทำหรือไม่ทำโครงการใด แต่รัฐบาลไม่สามารถมองข้ามสิ่งที่ ป.ป.ช.เสนอแนะได้ โดยเฉพาะ รัฐบาลเพื่อไทย ที่เคยมีอดีตกับ ป.ป.ช.ในเรื่องโครงการรับจำนำข้าวมาแล้ว สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
โดยการศึกษาและการให้คำเสนอแนะของ ป.ป.ช.นั้น เป็นการดำเนินการที่มีกฎหมายรองรับ คือ มาตรา 32 (3) ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ที่บัญญัติไว้ว่า “เสนอแนะให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมาตรการใดที่เป็นช่องทางให้มีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลดีต่อราชการได้”
มันไม่ใช่ ข้อห้าม แต่เป็นเหมือน คำเตือน ที่ถ้ารัฐบาลเลือกจะเดินหน้าต่อทั้งที่มีข้อเสนอแนะจาก ป.ป.ช.ให้ระมัดระวังแล้ว ต้องไม่ให้เกิดก่อผิดพลาดในโครงการอย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นอาจจะมีจุดจบเดียวกับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์
มันมีราคาที่ต้องจ่ายสูงมาก!
และอาจจะหนักกว่าตรงที่ผลการศึกษาของคณะกรรมการฯ ชุด สุภา ได้พูดถึงนโยบายหาเสียงที่ไม่ตรงปก ซึ่งเป็นอำนาจของ กกต.เอาไว้ อาจผิดอีกกระทงหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ดี ภายใต้ผลเสียที่พบซึ่งคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวศึกษาไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องการให้รัฐบาลยกเลิกหรือยุติโครงการเสียทีเดียว แต่มีการแนะนำให้ใช้งบประมาณปกติ มุ่งเป้าไปที่กลุ่มเปราะบาง และไม่ต้องใช้บล็อกเชน แต่ให้ใช้แอปพลิเคชันเป๋าตังแทน ซึ่งเคยมีการทำเอาไว้มาแล้วในรัฐบาลชุดก่อน
ข้อเสนอแนะตรงนี้ดันบังเอิญสอดคล้องกับความคิดเห็นและข้อเสนอแนะทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยและสภาพัฒน์ที่ผ่านมาด้วย
มันเหมือน ป.ป.ช.กำลังชี้ ทางลง ที่ปลอดภัยให้กับรัฐบาล โดยไม่ต้องผิดสัญญากับประชาชนตอนหาเสียงมากนัก
อยู่ที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ว่าจะเชื่อหรือไม่ แต่หากดูท่าทีของรัฐบาลนายเศรษฐาตลอดช่วงบริหารประเทศหลายเดือนที่ผ่านมา จะเห็นว่า อะไรที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์เคยทำแล้วพลาด จะเลือกเลี่ยงการซ้ำรอยเป็นส่วนใหญ่
ถึงตรงนี้ต้องยอมรับว่า โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทของรัฐบาล มีโอกาสจะแท้งสูงมาก เมื่อดูจากปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่ไม่เอื้อให้เลย
ตั้งแต่ท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ยืนยันว่าจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ย ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เสนอแนะให้รัฐบาลปฏิบัติตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 อย่างเคร่งครัด คำว่าวิกฤตต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์และเชิงวิทยาศาสตร์ และล่าสุดของผลการศึกษาของคณะกรรมการฯ ชุด สุภา ตัวเลขทางเศรษฐกิจจากธนาคารแห่งประเทศไทยและสภาพัฒน์ที่เกินกว่าจะคอนโทรลให้เห็นด้วยว่า วิกฤต
หนทางมันดูยิ่งแคบลงไปเรื่อยๆ และมันเหมือนว่าหนทางเดียวที่โครงการจะไม่แท้งคือ การลดสเป็กลง โดยการไม่กู้ และแจกเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เสมือนการช่วยเหลือเท่านั้น
ซึ่งรัฐบาลต้องยอมเสียรังวัดและเสียหน้าบ้าง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วิษณุชี้ทุจริตฝังรากลึก อ้วนแนะปรับความคิด
ตั้งวงถกปราบทุจริต "วิษณุ" ชี้ประวัติศาสตร์ชาติไทยเคยทำกันได้ ไม่ได้รู้สึกว่าผิดบาปหรือชั่วร้ายอะไร ซูฮกยุค คสช.กล้าปราบโกง
'เซลล์แมนสแตนด์ชิน' ภารกิจเต็มวัน ไม่ได้เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ยกหูเบิร์ดเดย์ 'ทักษิณ'
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงวันคล้ายวันเกิดครบ 75 ปี ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นายกฯ เดินทางไปนครพนม มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุและบ้านโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต
นายกฯ บินนครพนม มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุและมอบบ้าน ตามโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
“ลุง”กับ“อา”ใจถึงพึ่งได้ เฮือกสุดท้ายใน”บ้านป่า”?
“เปิดต้อนรับนักการเมืองเทรนด์เดียวกัน ที่รสนิยมในเรื่องของ พรรคพวก เพื่อนฝูง พี่น้อง ต้องมาก่อน เรื่องคำมั่นสัญญา การไม่หักหลังกัน เปรียบเหมือน ปฏิญญา-กฎเหล็ก ในการคบหากันของแวดวงคนใจนักเลง”
นายกฯ เป็นประธานประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดโพธิ์
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนางพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา เป็นประธานพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล
'เศรษฐา' มองทักษิณ-อนุทิน ร่วมก๊วนกอล์ฟ เป็นเรื่องธรรมดา ไม่รู้ปฏิญญาเขาใหญ่คืออะไร
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมหลังศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัย ปม 40 ส.ว. ยื่นคำร้องการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี