ดับกระแส ‘พีระพันธุ์’ คุมก.ตราชั่ง ออปชั่นพิเศษพา2นายกฯกลับบ้าน?

กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองส่งท้ายปีกรณีการรักษาตัวนอกเรือนจำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งอยู่เกินระเบียบกำหนดราชทัณฑ์ 120 วันท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง 

จนเกิดวาทกรรม "นักโทษเทวดา" สร้างกระแสต่อต้านไปที่รัฐบาลที่มีภารกิจเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ทักษิณ และทำลายระบบกระบวนการยุติธรรมไทยใช่หรือไม่     

ช่วงที่ผ่านมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รวมถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ต่างปฏิเสธตอบคำถาม พร้อมโยนเผือกร้อนนี้เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ

แต่ล่าสุดประเด็นดังกล่าวถูกจับตาไปถึงการเปลี่ยนแปลงงานรองนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่  27 ธ.ค. นายเศรษฐาลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 381/2566 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีในวันที่ 25 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมา

สาระสำคัญคือ มอบหมายและมอบอำนาจให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงสาธารณสุข และการมอบหมายและมอบอำนาจให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงยุติธรรม (ยกเว้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ)

"เศรษฐา" ให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้ว่า "อย่าไปคิดมากเพราะพิจารณาตามทักษะความรู้ความสามารถเป็นการปรับให้ตรงจุดมากกว่า แม้ท่านพีระพันธุ์ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยแต่รัฐบาลไม่ได้ยึดติดว่าใครอยู่พรรคไหนแล้วต้องอยู่ตรงนั้นเสมอไป 

นายเศรษฐา ยังตอบคำถามถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงความเกี่ยวข้องกับกรณีสมศักดิ์ออกมาชี้แจงระเบียบกรมราชทัณฑ์ใหม่เรื่องขังนอกเรือนจำหรือไม่ว่า "ไม่มีเรื่องนี้แน่นอนและไม่เกี่ยวกัน"

ขณะที่ นายสมศักดิ์หลังทราบคำสั่งแบ่งงานใหม่ได้ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับกรณีนายทักษิณ "ไม่รู้ไม่มีเมื่อก่อนเหมือนมีการกล่าวหาผมว่าไปทำระเบียบกฎเกณฑ์ไว้เกี่ยวกับการเอื้ออะไรต่างๆ ตอนนี้เมื่อไม่ได้คุมแล้วก็ชัดเจนว่าไม่ได้เอื้อ จึงไม่มีอะไรน่าสงสัยอีกแล้ว"

ส่วนนายกฯได้ให้เหตุผลในการเปลี่ยนแปลงงานใหม่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องให้เหตุผล เพราะเป็นอำนาจนายกฯอยู่แล้ว เปลี่ยนแปลงได้ตลอด

เมื่อถามว่า กรณีที่ให้นายพีระพันธุ์ไปกำกับกระทรวงยุติธรรมจะมีงานสำคัญในอนาคตอะไรหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า "ไม่ทราบไม่น่าจะมีอะไรคงอยู่ที่ความเหมาะสม"

เมื่อถามต่อว่า อาจมีเรื่องในอนาคตที่ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยไปเกี่ยวข้องหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า "อย่าไปคิดมาก ปรับให้ใหม่ ผมดีใจได้กระทรวงสาธารณสุขมาช่วยงานด้านนี้"

สำหรับการแบ่งงานรองนายกฯเฉพาะ 2 รายครั้งนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกี่ยวข้องกับกรณีการรักษาตัวนอกเรือนจำของนายทักษิณหรือไม่ 

โดยเฉพาะบทบาทของนายสมศักดิ์ที่เป็นผู้ชี้แจงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 ที่กำหนดเงื่อนไขการคุมขังนอกเรือนจำ รวมทั้งตำหนิหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าทำงานเช้าชามเย็นชามในกรณีนายทักษิณ พร้อมทั้งเตือนคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ตำรวจสภาฯว่าอาจถูกฟ้องดำเนินคดีหากเข้าตรวจค้นชั้น 14 รพ.ตำรวจโดยพลการ จึงทำให้งานเข้ารัฐบาล เพราะสร้างกระแสเลยเถิด หรือ เหาะหินเกินลงกาไปมาก

นอกจากนี้ ยังมีการพูดกันในแวดวงการเมืองว่า "สมศักดิ์" และ "ทวี สอดส่อง" รมว.กระทรวงยุติธรรม ซดเกลาเหลากันในการทำงานหลังถูก รมต.ใหม่เข้ามาทลายขุมอำนาจเดิม อย่างเช่น อดีตอธิบดีดีเอสไอเด็กของสมศักดิ์ที่พึ่งทำงานไม่กี่เดือนก็พึ่งถูกเด้งจากปมหมูเถื่อน 

การทำงานแบบขัดแข้งขัดขากันของสองรัฐมนตรี ประกอบกับกระแสต่อต้านเรื่องนักโทษเทวดา ทำให้ไม่มีใครโดยเฉพาะข้าราชการ และเกี่ยวข้อง อยากเข้าไปเสี่ยงยุ่งกับเผือกร้อนนี้ เพราะกลัวถูกฟ้องติดคุก

ส่งผลให้ "ทักษิณ" ไม่สามารถออกจากคุกไปฉลองปีใหม่กับครอบครัว ตามแผนการเดิมใช่หรือไม่ เพราะแรงต้านอาจลุกลามไปถึงขั้นล้มรัฐบาลได้   

ขณะเดียวกันการโยก "พีระพันธุ์" มากำกับกระทรวงยุติธรรมนอกจากตรงปกแล้วเพราะเป็นนักกฎหมาย และเคยเป็นรัฐมนตรียุติธรรม   

ที่มาพร้อมกับด้วยบุคลิกที่มีความนิ่งสุขุม ไม่ชอบสร้างข่าวสร้างกระแสเร่าร้อน ที่จะส่งให้เกิดแรงต่อต้านในการทำภารกิจสำคัญๆ จึงอาจตอบโจทย์จะช่วย "ทักษิณ" สามารถพ้นคุกได้ด้วยการขอพักโทษ หลังรับโทษในโรงพยาบาลมาแล้ว 6 เดือนที่จะครบในวันที่ 22 ก.พ.67 ใช่หรือไม่ ปรับจากแผนเดิมก่อนปีใหม่ 

หลังยุทธศาสตร์ของประเทศเปลี่ยนหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมาเกิดกระแสส้มทั้งแผ่นดินและต้องการใช้นักการตลาดอย่าง "ทักษิณ" มารบกับ "ก้าวไกล" และคนรุ่นใหม่ จนเกิดรัฐบาลเพื่อไทยและ 2 ลุงคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) ขณะเดียวกัน "พีระพันธุ์" ในฐานะหัวหน้าพรรครทสช. ยังมีนายทุนพรรคคนเดียวกันและใกล้ชิดกับคนชั้น 14อีกด้วย   

  จึงมีประเมินกันต่อว่าหลังจบภารกิจทักษิณได้กลับบ้านแล้ว จะมีออปชั่นเสริมคือ พา "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกฯที่ต้องคดีจำคุก 5 ปีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในโครงการรับจำนำข้าวกลับบ้าน ด้วยกระบวนการพิเศษอีกใช่หรือไม่ 

เช่นเดียวกับนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯทำภารกิจสุดท้ายของรัฐบาลที่แล้ว จนพา "ทักษิณ” กลับประเทศ ด้วยการได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือเพียง 1 ปีมาแล้ว 

นายวิษณุ เคยให้สัมภาษณ์กรณีอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์หากต้องการขอพระราชทานอภัยโทษต้องดำเนินการอย่างไรว่า 1.ต้องเข้ามา 2.มอบตัวเป็นนักโทษแล้วถึงจะถวายฎีกาได้ ส่วนจะโปรดเกล้าฯหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพระมหากรุณาธิคุณ

ล่าสุดมีสัญญาณบวกเกิดขึ้นกับอดีตนายกฯหญิงคนแรก เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายกฟ้อง "ยิ่งลักษณ์” ปมโยกย้าย "ถวิล เปลี่ยนศรี" พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเพราะไม่มีเจตนาพิเศษ เท่ากับไม่ต้องมีคดีติกคุกเพิ่มเติม 

จึงต้องจับตาว่าการเปลี่ยนเกมของนายใหญ่ชั้น 14 ผ่านนายกฯเจ้าของฉายา เซลล์แมนสแตน "ชิน" โดยมอบให้ "พีระพันธุ์" คุมกระทรวงตราชั่งและมีกรมราชทัณฑ์ในกำกับดูแลนอกจากจะหวังเบรกกระแสเร่าร้อนของสังคมแล้ว 

ยังจะมีภารกิจใหญ่เพื่อพา "สองอดีตนายกฯ" แห่งตระกูลชินวัตร กลับบ้านใช่หรือไม่. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ขยี้ 'วันนี้หล่อหรือยัง' มั่นใจไม่ใช่ตัวเองทักษิณเหน็บอีแอบ

“อนุทิน” มั่นใจไม่ใช่ตัวเองชัวร์ หลัง “ทักษิณ” เหน็บอีแอบพรรคร่วม แจงเข้าครม.ร่วมประชุมไม่ได้หาย หยอกนักข่าว “วันนี้หล่อหรือยัง”

อดีตประธานสภาฯ ฉะพ่อนายกฯมีสิทธิ์อะไรไล่พรรคร่วมกลางสัมมนาพรรคเพื่อไทย

ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “พ่อนายกฯ เป็นใคร มีสิทธิ์อะไรไล่พรรคร่ว

ดร.เสรี กระตุกสำนึกกระบวนการยุติธรรม เอาผิดคนหนี้คุกไม่ได้ แล้วจะพึ่งใคร

ดร. เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊ก ว่าเวลานี้การที่มีคนทำผิดกฎหมาย ไม่ให้ค่ารัฐธรรมนูญ บดขยี้กระบวนการยุติธรรมจนป่นปี้ แล้วไม่มีความผิดใดๆ เอาโทษไม่ได้ เป็นเพราะอะไร

อภิสิทธิ์-อดีตนายกรัฐมนตรี มอง 'จุดเสี่ยง' รัฐบาลเพื่อไทย ระเบิดการเมือง วางไว้เองหลายลูก

แม้ขณะนี้จะไม่ได้มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ แต่สำหรับ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์" การแสดงทัศนะหรือความคิดเห็นทางด้านการเมือง

รัฐบาลลุยขายฝันหนีบ่วงการเมือง แกนนำม็อบขยับจัดทัพเดินหน้าไล่

การแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 3 เดือนของ อุ๊งอิ๊ง-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ที่สตูดิโอ 4 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT)