ทลายเว็บพนันออนไลน์ "มินนี่” ถึงเวลาล้างบางเครือข่าย-สีกากี

เม็ดเงินมหาศาลวงจรธุรกิจสีเทา “พนันออนไลน์” ทำกันเป็นล่ำเป็นสันทั้งกลุ่มทุนต่างประเทศ กลุ่มทุนไทย หรือกลุ่มต่างชาติเข้ามาใช้แผ่นดินไทยหรือตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเป็นฐานบัญชาการสูบเงินจากนักพนัน ด้วยการเข้าถึงแหล่งเสี่ยงโชคจากโทรศัพท์มือถือ เพียงสัมผัสปลายนิ้วเศษเงินล่อ เหยื่อก็ตกหลุมพรางถอนตัวไม่ขึ้นสิ้นเนื้อประดาตัว บางรายต้องจบชีวิตตัวเองสังเวยพนันโซเชียล

เว็บพนันแฝงอยู่ทุกแพลตฟอร์ม แม้กระทั่งเว็บไซต์ของส่วนราชการหลายหน่วย เพียงคลิกเข้าหน้าเว็บ ลิงค์เว็บพนันเด้งขึ้นโชว์หราพร้อมโปรโมชั่นยั่วยวนให้ลองเข้าไปเล่น โดยมีดารา นักร้อง ที่มีคนติดตามจำนวนมากมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ด้วยซ้ำ ด้วยผลประโยชน์มหาศาลการทำเว็บพนันออนไลน์ถ้าแบ็กไม่ใหญ่จริงทำไม่ได้ หลายครั้งที่มีการจับกุมจะมีกลุ่มนักการเมือง ข้าราชการระดับสูงสีกากี-สีเขียว ผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง

โดยเฉพาะ "ตำรวจ" ผู้ถือและบังคับใช้กฎหมายต้นน้ำกระบวนการยุติธรรม ตำรวจระดับบิ๊กกลุ่มทุนเจ้าของเว็บพนันจะวิ่งเข้าหา ตอบแทนโดยผลประโยชน์เปิดทางให้ธุรกิจสีเทาเดินราบรื่น ตำรวจผู้ปฏิบัติเจอตอไม่กล้าแตะ เว็บพนันออนไลน์สร้างเม็ดเงินมหาศาล แต่ละเครือข่ายมีเงินหมุนเวียนหลักพันล้านหมื่นล้าน

"ตำรวจนอกแถว" สถาปนาตัวเองเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ อย่าง พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือสารวัตรซัว ถูกยึดทรัพย์กว่า 7 พันล้าน แต่ไม่ใช่ปัญหา เมื่อสารวัตรซัวมีทรัพย์สินจากการทำเว็บพนันหลายหมื่นล้าน ใช้ชีวิตหรูหราที่เมืองนอกสบายไปทั้งชาติ เช่นเดียวกันกับเครือข่ายมาเก๊า 888 ผู้กองไบร์ท ร.ต.อ.คุณากร ขจรบุญถาวร น้องคนสุดท้องพี่น้อง 4 บ. ถูกดาราสาว ดิว-อริสรา ออกมาแฉรัวๆ ตำรวจไซเบอร์ถึงเข้าจับกุม แว่วว่าเครือข่ายนี้มีตำรวจใหญ่อยู่เบื้องหลังด้วยเช่นกัน

ยิ่งสะเทือนวงการตำรวจ ก่อนการแต่งตั้ง “ผบ.ตร.” คนที่ 14 ต่อจาก "บิ๊กเด่น" พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เพียงไม่กี่วัน ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ "ตำรวจ PCT" นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค.ยศในขณะนั้น หัวหน้าชุดนำกำลังหน่วยคอมมานโดพร้อมอาวุธครบมือเข้าทำการตรวจค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี ตามหมายศาลอาญากรุงเทพใต้

เพื่อจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนันออนไลน์ของ "มินนี่" น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี เจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ betfixroyal พร้อมเครือข่ายอีกกว่า 10 เว็บ ที่ถูกตำรวจ PCT จับกุมวันที่ 28 ก.ย.66 พร้อมด้วยของกลางสมุดบัญชีธนาคารพาณิชย์กว่า 100 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 55 ใบ โทรศัพท์มือถือ 30 เครื่อง เงินสด 9 แสน เครื่องส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตหลายรายการ และเงินสดหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท

ตำรวจทั้ง 8 นาย ประกอบด้วย พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศฝร.บช.น., พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จันทบุรี, พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4, พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ, พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ ผกก.ตม.จว.ฉะเชิงเทรา, พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร นตต.รอง ผบ.ตร., ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร., ส.ต.อ.อภิสิทธิ์ คนยงค์ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน" แต่ทั้งหมดให้การปฏิเสธ

การดำเนินคดีกับลูกน้อง "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกมองเป็นเรื่องการเมืองภายในกรมปทุมวัน ศึกแย่ง "เก้าอี้ ผบ.ตร." ระหว่าง "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้น และ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต่างฝ่ายต่างยกการ์ดสู้ตั้งทนายเตรียมฟ้องร้อง แต่มาถึงจุดที่ นายกฯ เรียกหย่าศึกก่อนสถานการณ์บานปลาย กระทั่งมีรูปโชว์หวานกอดกันโชว์โซเชียล ร่วมวงทานข้าว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แก้วที่มันแตกแล้วยากที่จะต่อใหม่ ขุ่นไว้ในใสไว้นอก ไม่ให้องค์กรสีกากีถูกสังคมถ่มน้ำลายใส่มากกว่านี้

สนองนโยบายรัฐบาลปราบปรามการพนันออนไลน์ "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร.ได้มีคำสั่ง ตร.ที่ 593/2566 เร่งสืบสวนขยายผลติดตามจับกุม กระทั่งพบว่าเว็บพนันออนไลน์ “Venus master” พร้อมเครือข่ายมีสมาชิกกว่า 40,000 คน มีความเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์ของ "มินนี่" มีจุดการตลาดหลายจุดทั้ง จ.สงขลา จ.สมุทรปราการ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ได้ขอศาลออกหมายจับพร้อมปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 7 จุด จับผู้ดูแลเว็บและพนักงานการตลาด 36 คน พร้อมของกลางจำนวนมาก

ซึ่งหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบและร่วมกันฟอกเงิน คือ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ  รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็น 1 ใน 8 ตำรวจที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ให้การปฏิเสธและใช้วงเงินยื่นประกันตัวออกไป

ขณะที่ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ออกมาเผยหลังทราบข่าวลูกน้องถูกออกหมายจับ โดยระบุว่า "ถึงแม้ว่า พ.ต.ท.คริษฐ์จะเป็นลูกน้อง แต่ไม่ได้ทราบการกระทำลูกน้องทั้งหมด โดยเฉพาะเวลาหลังเลิกงานว่าไปทำอะไรมาบ้าง ในส่วนของคดีความก็ต้องให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ไปชี้แจงและต่อสู้ตามกระบวนการต่อไป ไม่รู้สึกกังวลและไม่เสียสมาธิในการทำงานแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เป็นหัวหน้า ก็ได้ให้กำลังใจ รวมถึงลูกน้องทั้ง 8 คน ที่โดนคดีก่อนหน้านี้ด้วย”

สังคมไทยเรียกได้ว่า ธุรกิจสีเทากับตำรวจเป็นของคู่กัน “ยิ่งสาวยิ่งฉาว” ไม่มีมูลหมาไม่ขี้ ก่อนหน้านี้ตำรวจระดับ "นายพล" หลายคนถูกจับตาพัวพันพนันออนไลน์ เรียกรับผลประโยชน์ เก็บรายเดือน หุ้นส่วน หุ้นลม แต่หลักฐานสาวไปไม่ถึง หรือหลักฐานพอถึงก็เจอตอ ถ้ามองข้ามความบาดหมางของ 2 บิ๊กกรมปทุมวัน ที่ห้ำหั่นกันมาก่อนหน้า

การที่ "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. เอาจริงเอาจังกวาดบ้านตัวเองให้สะอาดเป็นเรื่องที่สมควรอย่างยิ่ง อย่าปล่อยให้องค์กรเน่าเฟะไปกว่านี้ เร่งกู้ศักดิ์ศรีศรัทธาคืนจากประชาชน ในเมื่อ ตร.มีหน่วยงานที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย มีชุดสืบสวนสอบสวนฝีมือเก่งๆ หลายคน คงไม่อยากที่จะขจัดเหลือบที่ใช้องค์กรตำรวจแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวเอง เวลาของ “ผบ.ตร.” เหลืออีกไม่กี่เดือน ถึงเวลาล้างบางตำรวจนอกรีตให้หมดไปเสียที.