เรื่องร้อนๆ สัปดาห์นี้มี 2 เรื่องที่เกิดจากนโยบายรัฐบาล เรื่องแรก การปราบปรามขบวนการนำเข้า หมูเถื่อน เกิดขึ้นจากข้อสั่งการของ ‘เสี่ยนิด’ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ที่สั่งการกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้จัดการ
ก่อนไปประชุมเอเปกที่สหรัฐอเมริกา ‘เศรษฐา’ ถึงขั้นฉุนเฉียวใส่ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขณะนั้นว่า ทำไมถึงยังจับตัวใหญ่ไม่ได้
ภายหลังกลับมาจากการประชุมเอเปก ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 21 พ.ย. ‘เศรษฐา’ สั่งการผ่าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะกำกับดูแลดีเอสไอ เดดไลน์ให้ดีเอสไอจับ ‘ปลาตัวใหญ่’ ในคดีหมูเถื่อน ให้ได้ภายในกลางสัปดาห์หน้า ซึ่งคือ สัปดาห์นี้
วันจันทร์ที่ 27 พ.ย. พ.ต.ต.สุริยา พากำลังบุกค้นบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถนนพัฒนาการ หลังขยายผลพบพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่ามีการรับซื้อชิ้นส่วนสุกรแช่แข็งจากบริษัทที่ถูกดำเนินคดีในการนำเข้าชิ้นส่วนสุกรแช่แข็งโดยผิดกฎหมาย หรือหมูเถื่อน
ให้หลัง 1 วัน ต่อมา 28 พ.ย. ‘เศรษฐา’ นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.มีมติเห็นชอบโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา จากอธิบดีดีเอสไอ ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
สังคมตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเพราะ พ.ต.ต.สุริยาไปเตะ ‘ตอใหญ่’ จึงถูกดีดออกมา ขณะที่ดีเอสไอยืนยันว่า จะเดินหน้าแก้ปัญหาหมูเถื่อนต่อ
แต่สังคมไม่เชื่อว่า รัฐบาลโดยดีเอสไอจะจับ ‘ปลาตัวใหญ่’ สำเร็จ เพราะขบวนการนำเข้าหมูเถื่อนนั้น เชื่อมโยง-พัวพันกันทุกระดับตั้งแต่ นักการเมือง ข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจำ และเอกชนกลุ่มทุนใหญ่
กระบวนการนำเข้าหมูเถื่อน เกี่ยวกับหลายกรม หลายกระทรวง และหลายองค์กร โดยเฉพาะ กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ กรมประมง ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้ามาของสินค้าประเภทนี้ โดยแต่ละขั้นตอนต้องมีคนรู้เห็น สมรู้ร่วมคิดเป็นขบวนการ ไม่เช่นนั้นไม่สามารถฝ่าเข้ามาได้
ห่วงโซ่นี้เริ่มต้นจากนักการเมืองร่วมมือกับเอกชน และสั่งการให้ฝ่ายประจำ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดของตัวเองเป็น ‘มือไม้’ ในการปฏิบัติงาน
เหมือนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมายืนยันว่า มีนักการเมืองเกี่ยวข้อง และ พ.ต.ต.สุริยาถูกเด้งเพราะอิทธิพลหมูเถื่อน
“ผมยังยืนยันมีรัฐมนตรีอักษรย่อ ป.,ส.,ฉ. ยังมีบทบาทกับขบวนการนี้ ทางที่ดีควรให้กรมศุลกากรเป็นเจ้าภาพร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเหมาะสมกว่า หากมอบหมายให้หน่วยงานเล็กๆ ทำงานก็จะถูกย้ายอีก” ร.ต.อ.เฉลิมระบุ
หากเป็นแค่เอกชนรายเล็กๆ หรือนักการเมืองที่ไม่มีบารมี มีหรือที่การปราบปรามหมูเถื่อนมันจะยากขนาดนี้ พ.ต.ต.สุริยาคงทำงานสำเร็จ ไม่โดน ‘เศรษฐา’ ตวาด จนสุดท้ายเป็น พ.ต.ต.สุริยาที่อยู่ไม่ได้ ต้องถูกดีดออกมา
เรื่องนี้หากรัฐบาลเอาจริง ‘ปลาตัวใหญ่’ ไม่น่าจะจับยาก เพราะข้อมูลในมือรัฐบาลมีไม่น้อย และคนในวงการรับรู้กันดีว่าใครเป็นใครในห่วงโซ่หมูเถื่อน
แต่ที่มันยากเพราะคนที่ ‘ปราบปราม’ กับคนที่ ‘ทำผิด’ มันซ้อนทับ และอยู่ในแวดวงเดียวกัน
อีกเรื่องคือ ‘หนี้นอกระบบ’ ที่ ‘เศรษฐา’ ถึงขนาดประกาศว่า หนี้นอกระบบเป็น Modern World Slavery เป็นการค้าทาสในยุคใหม่ที่ได้พรากอิสรภาพ ความฝันไปจากผู้คนในยุคสมัยนี้
“ผมจะทำให้โครงการนี้ช่วยปลดปล่อยพี่น้องประชาชนจากการเป็นทาสหนี้นอกระบบ ลืมชีวิตที่เคยลำบาก มีกำลัง มีแรงใจที่จะทำตามความฝัน นับจากนี้เป็นต้นไป”
ทว่า หลายคนยังไม่เชื่อว่า ‘เศรษฐา’ จะทำได้ เพราะเรื่อง ‘หนี้นอกระบบ’ เป็นสิ่งที่หลายรัฐบาลประกาศว่าจะทำ แต่สุดท้ายแล้วก็ทำได้แค่เพียงตีฆ้องร้องป่าว ขึงขังแค่นั้น แต่ประชาชนยังประสบปัญหาความเดือดร้อน มีข่าวเจ้าหนี้โหดรายวันจนถึงทุกวันนี้
แม้รัฐบาลจะมีกลไกอย่างกระทรวงการคลังเข้ามา ทั้งการเข้ามาช่วยปรับโครงสร้างหนี้ หรือการไกล่เกลี่ย แต่ปัญหาสำคัญคือ ‘เจ้าหนี้’ นอกระบบ
เป็นที่ทราบกันว่า เงินกู้นอกระบบนั้น ‘เจ้าหนี้’ ส่วนใหญ่คือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ หรือรู้จักมักคุ้นกันดีกับเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองเป็นอย่างดี การจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปปราบปรามยิ่งเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ
ที่สำคัญ ‘เจ้าหนี้นอกระบบ’ มีทั้งเป็นนักการเมืองรายใหญ่ หรือเป็นเครือข่าย หัวคะแนนของนักการเมือง ในขณะที่บางยุคนักการเมืองเหล่านี้ก็อยู่ในระนาบฝ่ายบริหารด้วย
มันจึงเหมือนหยิกเล็บเจ็บเนื้อ ไม่มีใครจะปราบตัวเอง หรือคนในเครือข่ายตัวเอง
ขนาดในยุค คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ทหารถืออำนาจเบ็ดเสร็จ หนี้นอกระบบดอกเบี้ยโหดก็ยังเกลื่อนกลาด ไม่สามารถแก้ได้
มันจึงคล้ายกับเรื่องการปราบปรามการน้ำเข้า หมูเถื่อน ที่อุปสรรคอยู่ที่ผู้มีอำนาจระดับบนนั่นเองว่า จริงจังแค่ไหน หรือ ทำแค่ลูบหน้าปะจมูกให้ดูดีเท่านั้น
2 เรื่องนี้ถือว่าสำคัญ หากรัฐบาลนายเศรษฐาทำจริง ปราบจริง ถือเป็นคุณูปการกับประชาชน แต่หากแค่แอ็กชันเพื่อสร้างภาพ คนที่เดือดร้อนและกลายเป็นเหยื่อของ นายทุน-การเมือง ก็ยังเป็นประชาชนเหมือนเดิม
เพราะมีแต่คนให้ความหวัง แต่ไม่เคยทำให้สมหวังเลย!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“รัฐบาล”ไฟลต์บังคับ “ทักษิณ”ได้แค่กร่าง
ดรามาปม “อีแอบ” อาจเป็นแค่ประเด็นโชว์กร่าง หวังกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลสยบยอม หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ ที่มีสถานะเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ได้พ่นไฟระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
“พ่อเลี้ยง”เปลี่ยนสนามรบเป็นทุน “ดับไฟใต้-สันติภาพเมียนมา”
“ฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง” นับเป็นภาพการเมืองในฝ่ายบริหารที่ “วิญญูชน” พึงประจักษ์ได้ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการขยับตัวและคำพูดของ “ทักษิณ ชินวัตร” วิทยากร-นักวิชาการของพรรคเพื่อไทย
47 เก้าอี้นายกฯอบจ. บ้านใหญ่ ลุ้นเข้าวิน-กินเรียบ!
คิกออฟ นับหนึ่งตั้งแต่จันทร์ที่ 23 ธ.ค.ที่เป็นวันแรกของการรับสมัครบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกฯ อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงที่ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ 76 จังหวัด
‘แม้ว’ ไล่ทุบ- ‘ภูมิใจไทย’ ไม่หมู ‘แดง-น้ำเงิน’ ทนอยู่แบบตบจูบ
นาทีนี้ศึกฝ่ายค้าน-รัฐบาลยังไม่เดือดเท่ากับศึกรัฐบาลด้วยกันเอง แรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการขบเหลี่ยมของพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2
ขวากหนามแก้รัฐธรรมนูญ คนกันเอง...เล่นเกมต่อรอง
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่เห็นชอบกับ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ฉบับคณะ กมธ.ร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว
'ทักษิณ'พังการเมืองท้องถิ่น กระหายอำนาจ ไม่สนขัดแย้ง
“นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เจ้าของพรรคเพื่อไทย ต้องการฟื้นคืนชีพระบอบทักษิณโดยไม่สนใจบทเรียนในอดีต จนตัวเองและน้องสาวต้องหนีออกนอกประเทศ รวมถึงบริวารต้องติดคุกแทน