“เสี่ยแป้ง” เขย่ากระบวนการยุติธรรม “ต้นน้ำ-กลางน้ำ” บิดเบี้ยวทั้งระบบ!

สะเทือนไปทั้งขบวนการยุติธรรม เมื่อ “โจรป่า” ออกมาแฉ “โจรใส่สูท” รวมหัวกลั่นแกล้งให้ได้รับโทษอาญาจับติดคุกจำกัดสิทธิเสรีภาพ เซ่นอำนาจกระบวนการยุติธรรมไทยที่บิดเบี้ยวตั้งแต่ต้นทาง

“เสี่ยแป้ง” นายชวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังติดตามจับกุม หลังหลบหนีออกจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช โดยการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และพลเรือน ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา หลบซ่อนตัวที่เทือกเขาบรรทัด หน่วยปฏิบัติการพิเศษภาค 9 หน่วยหนุมานจากสอบสวนกลางนับ 100 นาย พร้อมสรรพกำลังถูกส่งเข้าพื้นที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัดปิดล้อมตรวจค้น จนเกิดปะทะเข้าเคลียร์พื้นที่กลับไร้เงาเสี่ยแป้ง

ระยะเวลา 16 วัน ศูนย์ปฏิบัติการไล่ล่า “เสี่ยแป้ง” คว้าน้ำเหลว หลบหนีลงเขาไปอยู่กับผู้มากบารมี ตำรวจต้องสูญงบไปกว่า 10 ล้าน แบบเปล่าประโยชน์ ให้หลังไม่กี่วันเสี่ยแป้งอัดคลิปสั้น 4.36 นาที ระบายไม่ได้รับความเป็นธรรม ระบุว่า

 “มีการทำหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรม แต่คดีของตัวเองเป็นหนึ่งเดียวที่ไม่ได้รับการประกันตัว วันนี้ยอมรับความจริงว่าวันนั้น อัยการคนหนึ่งใช้โทรศัพท์ ประธาน ท. โทรมาหาตนเอง ให้ไปช่วยหลานที่ถูกอุ้ม แต่ตนเองคิดว่าทำไมไม่แจ้งตำรวจ ซึ่งเขาบอกว่าแจ้งเรียบร้อยหมดแล้วทั้งที่ไม่เป็นความจริง เพราะเขารู้ว่ามาอุ้มเรื่องยาเสพติด หลอกให้ตนเองไปอุ้มเป็นโจรแน่นอน ไม่ใช่ตำรวจ เมื่อไปถึงพบกับตำรวจ ซึ่งอัยการคนดังกล่าวเป็นคนบอกให้ตนเองไป ส่วนประธาน ท. เป็นคนโทร.มา และมาดำเนินคดียาเสพติดกับตนเอง”

นายเชาวลิต ยังกล่าวอ้างถึงเหตุปะทะว่า ตำรวจมีเป้าหมายไปวิสามัญฆาตกรรมตนเอง เพราะยิงใส่ทันทีด้วย M 79 จำนวนกว่า 10 นัด แต่ตนเองไม่ได้ยิงตอบโต้ เพราะไม่ได้เป็นศัตรูกับเจ้าหน้าที่ โดยขอให้กระทรวงยุติธรรมนำอัยการคนดังกล่าว ประธาน ท. ผอ.คนหนึ่ง และตำรวจยศจ่าอีก 2 คน ไปดำเนินคดี แล้วจะไปมอบตัวทันที

เพียงไม่กี่ชั่วโมง คลิปที่ 2 ความยาว 4.51 นาที ตามมา เผยสาเหตุที่ต้องหนี เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการพิจารณาคดีของศาล ไม่ได้รับการประกันตัวเพียงคนเดียว แต่บางคนได้รับการประกันตัวในคดีพยายามฆ่าพนักงานรัฐในการปฏิบัติหน้าที่ ตนถูกตั้งข้อหาปล้นและมีอาวุธปืนกลับไม่ได้ประกันตัว ในขณะเดียวกันผู้ต้องหาคนอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมในการวางแผนและร่วมก่อเหตุ อัยการสั่งไม่ฟ้อง ตนสงสัยว่าทำไมจึงสั่งไม่ฟ้องกลุ่มผู้ต้องหาที่ตกเป็นคดีดังกล่าว เสี่ยแป้งยังพาดพิงถึงอัยการรายหนึ่งที่เป็นผู้รับเงินล้มคดี แต่ไม่มีการตรวจสอบ

คลิปเสี่ยแป้งยังอ้างถึงเหตุที่ตำรวจต้องการวิสามัญ เพราะมีปัญหากับตำรวจภาค 9 และนายตำรวจรายหนึ่งที่เคยร้องเรียนจากการที่ใช้ปืนจี้ศีรษะชาวบ้านขณะเข้าจับกุมยาบ้า ตนนำชาวบ้านไปประท้วงที่โรงพัก และยืนยันอีกครั้งว่าหากไม่มีการนำผู้ร่วมการกระทำความผิดมาดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม ตนจะไม่เข้ามอบตัว 100 เปอร์เซ็นต์ หากไปก็เป็นเพียงศพเท่านั้น

2 หน่วยงานกระบวนการยุติธรรม เต้นออกมาชี้แจงเป็นการด่วน “ต้นน้ำ” กระบวนการยุติธรรมคือ “ตำรวจ” “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งจเรตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง มีตำรวจคนใดบ้างที่ถูกพาดพิง ผิดถูกให้ว่าไปตามหลักฐาน ต้องทำความจริงให้ปรากฏ หากตำรวจทำผิดจริงต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาดทั้งทางวินัยและอาญา คู่ขนานสั่งการฝ่ายสืบสวนพิสูจน์ทราบสถานที่แหล่งกบดานเสี่ยแป้ง ผู้ให้การช่วยเหลือ โดยขอให้มอบตัว “กลางน้ำ” กระบวนการยุติธรรม “อัยการ” ภายใต้การกำกับดูแลของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม สั่งการปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขาธิการ ป.ป.ส.เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหากมีพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญแก่คดีสามารถฟ้องคดีได้

ตอกย้ำเจ้าหน้าที่รัฐถูกครอบงำด้วย เงินสีเทา ใช้อำนาจหน้าที่ในทางผิด ตำรวจอดีตหัวหน้าชุดจับกุมลูกน้อง “อัยการ” ยศ “พ.ต.ท.” ออกมายืนยันคลิปที่เสี่ยแป้งออกมาระบายเป็นเรื่องจริง ต้นเหตุมาจากเบี้ยวค่ายาบ้ากว่า 10 ล้าน โดยอ้างว่า ตนเองซึ่งเป็นคนที่รู้เหตุการณ์และรู้เรื่องราวก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ซึ่งตนก็ยังคงมีหลักฐานบางส่วนที่ยังเก็บไว้

เรื่องราวทั้งหมดมาจากที่ นาย จ. ไปเบี้ยวค่ายาเสพติด จากทางกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดระดับสูงในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ครอบครัวนาย จ. รวมไปถึงอัยการน่าจะมีส่วนรู้เห็นและร่วมกันวางแผน ก่อนที่จะมาหลอกเสี่ยแป้งให้เข้าไปช่วย เพราะคนที่เสี่ยแป้งเชื่อและไว้วางใจจะมีเพียงไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคืออัยการ และพ่อของนาย จ.

 “เชื่อว่าการออกมาของเสี่ยแป้งเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง น่าจะเกิดมาจากตัวเสี่ยแป้งถูกตั้งข้อหาและโดนจับกุม ทั้งๆ ที่เสี่ยแป้งไม่ได้เป็นคนทำ และไม่ได้เป็นคนยิงตำรวจ แถมยังห้ามนาย จ. ไม่ให้ทำร้ายร่างกายตำรวจด้วย เหตุการณ์วันนั้นถ้าหากอัยการไม่ได้เป็นคนสั่ง หรือขอให้ช่วยเหลือ เสี่ยแป้งเองก็คงนิ่งเฉยและไม่กล้าที่จะเข้าไปช่วยอยู่แล้วหากรู้ว่าเป็นตำรวจจริง แต่หลังจากถูกจับกลับถูกสั่งฟ้องไม่ให้ประกันตัวเพียงคนเดียว”

 “เสี่ยแป้ง” ยังคงเป็นคนที่ทางการต้องการตัวด้วยข้อหาอาญาแผ่นดินหลายข้อหา การออกมาแฉเจ้าหน้าที่กระบวนการยุติธรรมกลั่นแกล้ง หาความเป็นธรรมให้กับตัวเองไม่ได้ กระบวนการยุติธรรม “ต้นน้ำ-กลางน้ำ” บิดเบี้ยวด้วยอำนาจมืด

จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในส่วนที่เกี่ยวข้องระดับบนที่ต้องลงมาสร้างความจริงให้ปรากฏ จะเป็นอย่างที่ เสี่ยแป้ง อ้างหรือไม่ ไม่มีใครกล้าฟันธง แต่ถ้าเป็นจริงเป็นความอัปยศของกระบวนการยุติธรรมไทยที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ถึงแม้ เสี่ยแป้ง จะไม่ใช่สีขาว แต่การที่นักโทษคนหนึ่งยอมควักเงินซื้อตัวเจ้าหน้าที่รัฐเปิดทางหลบหนี เสี่ยงคมกระสุนออกมาชนตำรวจ ทหาร อัยการ ไม่ใช่เรื่องดีกับตัวเองแน่ แต่การออกมาแฉของ เสี่ยแป้ง สะท้อนให้เห็นมุมมืดของเจ้าหน้าที่รัฐใช้หน้าที่ในการแสวงหาผลประโยชน์ ทำเทาให้เป็นขาว ทำขาวให้เป็นดำ แล้วยิ่งน่ากลัวมาก

แล้วความยุติธรรมจะไปหาได้จากที่ไหน ยิ่งชาวบ้านถ้าได้รับความเดือดร้อนจะไปพึ่งใครได้?.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยังไม่จบ ศึกชิงอำนาจสภาสูง แผนสองกินรวบ ปธ.กมธ.ทุกชุด!

วันอังคารนี้ 23 ก.ค. คาดว่าคงไม่เกินช่วงเที่ยงๆ ก็จะได้รู้กันแล้วว่า ผลการโหวตของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพื่อเลือก ประมุขสภาสูง-ประธานวุฒิสภา และ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง-รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง รวมสามเก้าอี้ใหญ่สภาสูงจะออกมาอย่างไร

ตั้งกลุ่มสว.สีเขียว-ปิดดีล'อยู่บำรุง' 'บ้านป่าฯ'ยังมีของไม่วางมือ

การขยับทางการเมืองของ บ้านป่ารอยต่อฯ ภายใต้การนำของพี่ใหญ่ตระกูล วงษ์สุวรรณ บิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในช่วงนี้น่าสนใจไม่น้อย ทั้งกระแสข่าวดึงสมาชิกวุฒิสภา (สว.)

พรรคร่วมรัฐบาลขอเขย่า ไม่ตกเป็น'หมูในอวย'พท.

แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ฯลฯ จะยอมผ่านเรือธงของพรรคเพื่อไทย โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 1 หมื่นบาทให้แก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน

แจกเงินดิจิทัล1หมื่นบาท ปิดปาก 'ปุ๋ย คนละครึ่ง'?

รัฐบาลเพื่อไทยนำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ผนึกกำลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

ปริศนา'เรือดำน้ำ' เปิด5ประเด็นสะดุด'ตอ'

ทริปเร่งด่วน ที่ “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม นำทีม พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ จักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสายตรงของ “นายกฯ" และ “ชินวัตร” บินไปจีนเมื่อช่วงวันที่ 24-25 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำ S26T ที่ ทร.ไทยจ้างบริษัทของจีนสร้างไม่เป็นไปตามสัญญา

‘สภาสูง’ในเงื้อมมือค่ายน้ำเงิน ส่องภารกิจเลือก‘องค์กรอิสระ’

ภารกิจ 200 สว. แสดงตนต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มารายงานตัวครบจบไม่ขาดไม่เกิน แต่สวนทางกับความอลหม่านที่กลุ่มต่างๆ ภายในสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ด้วยกันเอง