ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง มีภารกิจทั้งในและต่างประเทศแน่นเอี๊ยด หลังเข้าร่วมประชุม ครม.เมื่อวันจันทร์ ได้เดินทางไปร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Coperration-BRF) ครั้งที่ 3 และการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนที่กรุงปักกิ่ง
จากนั้นได้เดินทางต่อไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (ASEAN-GCC Summit) ครั้งที่ 1 ที่กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย และจะกลับถึงไทยในวันที่ 22 ต.ค.นี้
ขณะเดียวกันมีประเด็นร้อนทั้งในและต่างประเทศท้าทายให้ นายกฯ เศรษฐา ได้ใช้วิสัยทัศน์และภาวะผู้นำในการตัดสินใจแก้ปัญหา
โดยเฉพาะการช่วยเหลือแรงงานไทยกว่า 3 หมื่นคน กลับจากประเทศอิสราเอล ที่กำลังประสบชะตากรรมจากภาวะสงคราม หลังกองกำลังติดอาวุธกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์โจมตีอิสราเอล
ล่าสุดมีการโจมตีโรงพยาบาลอาห์ลี อาหรับ ในฉนวนกาซาตอนกลาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 ราย เกิดความกังวลว่าสถานการณ์จะลุกลามบานปลายส่งผลกระทบด้านต่างๆ ทั่วโลกยิ่งกว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครน
สำหรับแรงงานไทยเสียชีวิตแล้ว 30 ราย บาดเจ็บ 16 คน ถูกจับ 19 คน ขอกลับประเทศกว่า 8 พันคน แต่การช่วยเหลือกลับพบอุปสรรคสำคัญ เนื่องจากเครื่องบินกองทัพอากาศของไทย รวมทั้งเครื่องบินพาณิชย์ ต้องบินอ้อมโลกถึง 10 ประเทศ ไม่สามารถบินตรงถึงอิสราเอลได้ ทำให้ต้องใช้เวลาในการบินนานถึง 12 ชั่วโมง 40 นาที เพราะบินผ่านน่านฟ้ากลุ่มประเทศอาหรับไม่ได้ ในขณะที่เครื่องบินชาติอื่น เช่น เกาหลีใต้ บินตรงไปอิสราเอลได้
กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า บางประเทศที่บินผ่านได้อาจมีข้อตกลงพิเศษ การขอนุญาตอาจจะล่าช้า การเสียเวลาอ้อม 3-4 ชม. ดีกว่าขออนุญาต แต่ก็ยอมรับว่าในห้วงสงคราม ถ้าขอนุญาต ในสถานการณ์มนุษยธรรมอาจจะได้ก็ได้ นั่นหมายความว่าทางการไทยจะต้องใช้ความสัมพันธ์ที่มีอยู่ในแต่ละประเทศในการเจรจาให้เกิดผลสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่า กรณี นายกฯ โพสต์ผ่านแอปพลิเคชัน X ในช่วงค่ำวันแรกที่ฮามาสโจมตีอิสราเอล ประณามการโจมตีอิสราเอล ต่อมา นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล หารือเรื่องความช่วยเหลือแรงงานไทย
การแสดงจุดยืนดังกล่าวอาจถูกตีความได้ในหลายมิติ เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์มีมายาวนาน มีความซับซ้อนทางประวัติศาสตร์ ศาสนา ความเชื่อ จึงอาจถูกตีความได้ว่าไทยเลือกข้างอิสราเอลได้
ในภาวะวิกฤต ผู้นำประเทศจะต้องเข้าใจ การสื่อสารในภาวะวิกฤต (Crisis Communication) และการบริหารจัดการที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ ไม่ให้เกิดความสับสน เพื่อให้ตรงกับเป้าหมายหลัก นั่นคือ การช่วยเหลือแรงงานไทย ไม่ใช่เทกแอ็กชันโชว์พาวบนเวทีโลก เพราะหากสื่อสารผิดพลาดนิดเดียว หมายถึงชะตากรรมของแรงงานไทยที่ต้องแลกด้วยชีวิต!
ส่วนการไปเยือนจีน นายกฯ ได้พบหารือกับบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ 5 บริษัท พร้อมเชิญชวนมาลงทุนในไทย และมั่นใจในความสำเร็จ แต่ก็ต้องรอดูผลลัพธ์ในอนาคต เพราะในทางปฏิบัติยังมีเงื่อนไขต่างๆ อีกมากมาย
ยังมีประเด็นที่น่าแปลกใจ นายกฯ เศรษฐา ได้กล่าวระหว่างร่วมงาน Thailand-China Investment Forum ที่โรงแรม Kerry กรุงปักกิ่ง ตอนหนึ่งว่า "เราเป็นพี่น้องกัน เรามาทำค้าขายกัน ประเทศไทยแม้เป็นประเทศที่เล็ก แต่มีศักยภาพสูง เราเป็นน้องคนหนึ่งของประเทศจีน ซึ่งจะช่วยกันเดินไปข้างหน้าควบคู่ไปกับพี่ใหญ่"
คำพูดที่ว่า "เราเป็นน้องคนหนึ่งของประเทศจีน" ถือว่าสอบตกเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะบนเวทีโลก ประเทศจะเล็กหรือใหญ่ถือว่ามีความเท่าเทียมกัน การที่นายกฯ ของไทยบอกว่าประเทศตนเองเป็นน้อง เท่ากับด้อยค่าประเทศตัวเอง และลดคุณค่าตัวเองในเวทีเจรจาต่อรองระหว่างประเทศ
ยังไม่นับรวมการแต่งกายของนายกฯ โดยเฉพาะการสวมถุงเท้าสีฉูดฉาด ซึ่งคงคิดว่าเป็นรสนิยมสมัยใหม่ที่ดูดีมีสไตล์ แต่คนทั่วไปกลับมองว่าไม่รู้จักกาลเทศะ
สำหรับประเด็นร้อนในประเทศไทย โครงการแจก เงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง นายเศรษฐา ทวีตข้อความว่า “หากท่านเห็นตรงกันกับผม และชอบโครงการนี้อยู่ ท่านอย่ายอมให้คนที่ไม่เห็นด้วยโดยไม่มีเหตุผลมายับยั้งโครงการนี้ และขอให้ส่งเสียงบอกกับพวกเราบ้างว่า ท่านมีความสุขและดีใจที่รัฐบาลนี้ทำให้"
ในการลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก นายเศรษฐา ยังพูดว่า “ท่านอย่ายอมให้คนที่ไม่เห็นด้วยโดยไม่มีเหตุผลมายับยั้งโครงการนี้ ถ้าชอบก็ขอให้พูดบ้าง ให้เปล่งเสียงออกมาบ้าง"
ทำให้ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่าเป็นการปลุกระดมให้ประชาชนที่เห็นด้วยมาชนกับคนที่ไม่เห็นด้วย ทั้งที่รัฐบาลควรรับฟังข้อท้วงติงจากทุกฝ่าย แล้วนำไปปรับปรุงโครงการให้เกิดประโยชน์กับประชาชน
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย (พท.) กลุ่มรวมพลคนเอาเงินหมื่นได้มอบเสื้อที่มีข้อความว่า ประชาชนสนับสนุน 10,000 บาท ดิจิทัลวอลเล็ต และสติกเกอร์ให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.พลัง พร้อมร้องเพลงคนจนมีสิทธิ์มั้ยคะ เพื่อสนับสนุนให้พรรคเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
แกนนำพรรค พท.มักอ้างประชาชนว่าต้องการเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท พร้อมยกข้อมูลตัวเลขว่าจะเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจมากมาย ซึ่งสวนทางกับนักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์อย่างสิ้นเชิง
ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร โดย น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พร้อมด้วยตัวแทนจากกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้แจงให้ข้อมูล ย้ำว่าความจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมผ่านโครงการนี้ยังมีไม่มาก
นอกจากนี้มีการสืบค้นพบว่า ต้นกำเนิด digital wallet มาจากประเทศญี่ปุ่น และมีงานวิจัยของญี่ปุ่นเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว สรุปว่าไม่มีผลช่วยกระตุ้นการซื้อสินค้าแต่อย่างใด ส่วนแหล่งที่มาของงบประมาณก็ยังไม่ชัดเจน รวมทั้งปัญหากระบวนการปฏิบัติอีกมากมาย
ทางด้านภาคประชาชนหลายองค์กรได้ยื่นเรื่องให้องค์กรอิสระ ทั้ง ป.ป.ช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน และ กกต. ตรวจสอบและระงับโครงการดังกล่าว ขณะที่ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ได้ทำการศึกษาและรวบรวมรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวแล้วซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการทุจริต และคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลหยุดไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายที่หาเสียงกับประชาชนไว้ แต่หากเดินต่อไปก็เหมือนลุยไฟ ที่มีแต่ขวากหนามข้างหน้า หากโครงการเกิดปัญหา หรือทุจริตคอร์รัปชัน ก็จะซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าว เพราะมีการแจ้งเตือนแล้ว แต่ก็ยังดำเนินการ จะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ป.อาญา ม.157 ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดนศาลตัดสินจำคุก 5 ปีต้องหนีออกนอกประเทศ
ในขณะที่รัฐบาลกำลังเร่งสร้างผลงาน อีกด้านหนึ่งของการเมือง ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรื่อง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดคดีหมายเลขแดงที่ ล.5598/2566 หลังบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) โจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลาง ขอให้ลูกหนี้ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั้ง 11 คนล้มละลาย
นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า ประเทศนี้มันไม่มีความยุติธรรมอยู่แล้ว ศาลไม่ควรจะพิจารณาคดีแพ่งในกรณีสนามบิน เพราะถ้าเกิดเราชนะคดีสนามบินขึ้นมามันจะยุ่ง ไปยึดทรัพย์เราก็จะต้องคืน เท่าที่คุยกับนักกฎหมาย ต้องสิ้นสุดคดีอาญาก่อน คดีที่สิ้นสุดแล้วคือคดีบุกทำเนียบฯ ติดคุกมาแล้ว มีการฟ้องเป็นคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย การต่อสู้ของแกนนำจุดมุ่งหมายทางการเมืองเขากลับไปทำเป็นคดีอาญา
นายพิภพยังกล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาคดีทุจริต ที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจครบ 60 วันแล้ว ว่า “กระบวนการมันพิกลพิการในเรื่องกระบวนการยุติธรรม นายทักษิณกลายเป็นอภิสิทธิ์ชน อย่างที่ลูกสาวเขาบอกว่าเป็นนักโทษเทวดา ทุกองคาพยพของระบบไม่ทำงาน เพราะรัฐบาลเป็นพวกเดียวกันกับทักษิณ”
ส่วน นายสุริยะใส กตะศิลา อดีตแกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 กล่าวว่า "รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลพิเศษเพื่อความปรองดอง อยากให้นำเรื่องนี้เป็นวาระเหมือนกัน พอถึงจุดหนึ่งถ้าคุยกันได้ หันหน้าคุยกัน พอจะปรองดองกันได้ รัฐบาลควรจะเป็นเจ้าภาพคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการนิรโทษกรรม หรือเยียวยากรณีถูกจำคุก ยึดทรัพย์สินไปแล้ว รัฐบาลต้องใจกว้าง อย่ามองว่าช่วยเหลือแค่คนเพียงไม่กี่กลุ่ม"
ความขัดแย้งทางการเมื่อช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เป็นความแตกต่างทางความคิด การต่อสู้ทางการเมืองของคนในชาติ ทำให้มวลชน 2 ฝ่ายบาดเจ็บ ล้มตาย และถูกดำเนินคดีจำนวนมาก สร้างความทุกข์ยากแสนสาหัส แต่นักการเมืองก็ผลัดกันขึ้นมาเสวยอำนาจ ต่อมามีข้อเสนอแนวทางการสร้างความปรองดองให้รัฐบาลชุดแล้ว แต่ไม่นำพา
ในการจัดตั้งรัฐบาล 11 พรรคการเมือง นำโดยพรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์ว่า จะใช้โอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความรัก สามัคคีปรองดองของคนในชาติ จะนำความปรองดอง สมานฉันท์กลับคืนสู่ประเทศ แต่รัฐบาลชุดนี้ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะสร้างความสามัคคีปรองดอง สมานฉันท์ อย่างไร?
นายเศรษฐา ได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ ครบ 2 เดือนในวันที่ 23 ต.ค.นี้ จึงเป็นช่วงที่ท้าทาย ภาวะผู้นำ ในการบริหารบ้านเมือง และการตัดสินใจแก้ไขปัญหาต่างๆ ว่าจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน จะไปรอด หรือจะจอดป้าย!.
“แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลหยุดไม่ได้ เพราะเป็นนโยบายที่หาเสียงกับประชาชนไว้ แต่หากเดินต่อไปก็เหมือนลุยไฟ ที่มีแต่ขวากหนามข้างหน้า หากโครงการเกิดปัญหา หรือทุจริตคอร์รัปชัน ก็จะซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าว”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สภาสูง ยั๊วะ รัฐบาล ข้ามหัว เทตอบ 5 กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯนินจา’ หนีสภา
‘สภาสูง’ ยั๊วะ รบ.ข้ามหัว เทตอบ 5กระทู้ ‘ยุคล’ ตั้งฉายา ‘นายกฯ นินจา’ หนีสภา ‘หมอเปรม’ อาลัย ‘แพทองโพย’ ไร้รับผิดชอบ แขวะใส่ชุดนอนตรวจทหาร หิ้วผัวใต้ออกงาน
'อิ๊งค์' ยิ้มร่ารับฉายา 'รัฐบาลพ่อเลี้ยง' แซวตัวเอง 'แพทองแพด' แฮปปี้ไม่เกลียดใคร
'นายกฯอิ๊งค์' ยิ้มแย้ม ไม่โกรธฉายา 'รัฐบาลพ่อเลี้ยง' ขอมองมุมดี พ่อมีประสบการณ์เพียบช่วยหนุน หยอกสื่อกลับ 'แพทองแพด' ไม่ใช่แพทองโพย บอกไม่ค่อยเกลียดใครมันเหนื่อย แฮปปี้เข้าไว้
47 เก้าอี้นายกฯอบจ. บ้านใหญ่ ลุ้นเข้าวิน-กินเรียบ!
คิกออฟ นับหนึ่งตั้งแต่จันทร์ที่ 23 ธ.ค.ที่เป็นวันแรกของการรับสมัครบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกฯ อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงที่ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ 76 จังหวัด
‘แม้ว’ ไล่ทุบ- ‘ภูมิใจไทย’ ไม่หมู ‘แดง-น้ำเงิน’ ทนอยู่แบบตบจูบ
นาทีนี้ศึกฝ่ายค้าน-รัฐบาลยังไม่เดือดเท่ากับศึกรัฐบาลด้วยกันเอง แรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการขบเหลี่ยมของพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2
'นายกฯอิ๊งค์' ขึ้นแท่นนักการเมืองแห่งปี 'ผู้นำค้านเท้ง' ร่อแร่รั้งอันดับ 9
เปิดผลโพลนักการเมืองแห่งปี 67 'แพทองธาร ชินวัตร' ประชาชนชื่นชอบกว่า 15% ขณะที่่ผู้นำค้าน 'ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ' ร่อแร่ร่วงอันดับ 9 ได้แค่ 5%