นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ชัดเจนแล้วคือ เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทย ส่วนโควตารัฐมนตรีจาก 11 พรรคการเมืองค่อนข้างลงตัว หลังประกาศจัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา
ประกอบไปด้วยพรรคเพื่อไทยได้ 8 กระทรวง และนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และรัฐมนตรีช่วย 9 ตำแหน่ง, พรรคภูมิใจไทย รัฐมนตรีว่าการ 4 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วย 4 ตำแหน่ง
พรรคพลังประชารัฐที่มี ส.ส. 40 เสียง เท่ากับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มี ส.ส. 36 เสียง ได้ รัฐมนตรีว่าการ 2 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง ขณะที่พรรคชาติพัฒนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง 1 ตำแหน่ง และ พรรคประชาชาติ รัฐมนตรีว่าการ 1 ตำแหน่ง
ส่วนพรรคใดจะได้กระทรวงใด สถานการณ์เกือบจะลงตัว ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย ยอมมอบให้พรรคภูมิใจไทย เพื่อแลกกับกระทรวงคมนาคม
ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีกระแสข่าวกำลังต่อรองอย่างหนักจากพรรคเพื่อไทย ว่าจะยอมให้พรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ฯลฯ
แต่ผลโหวตนายกฯ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ทำให้การต่อรองของพรรคพลังประชารัฐอ่อนลง เมื่อ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ไม่ยอมเข้ามาโหวตให้ เศรษฐา และบรรดา สว.สายบ้านป่ารอยต่อฯ ลงมติงดออกเสียงและไม่เห็นด้วย
สวนกับแนวทางของ ไผ่ ลิกค์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ คนใกล้ชิด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ประกาศไว้ว่าจะยก 40 ที่นั่งให้แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยแบบไม่มีเงื่อนไข
หลังผลโหวตเลือกนายกฯ จากค่ายเพื่อไทยออกมา เห็นชอบ 482 เสียง ประกอบด้วย สส. 330 + ส.ว. 152 ไม่เห็นด้วย 165 เสียง สส. 152 + สว. 13 และงดออกเสียง 81 เสียง
โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เพื่อไทยได้เก้าอี้นายกฯ สำเร็จ นอกจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย 188 เสียง ตามแนวทางของ ลุงป้อม
ปัจจัยสำคัญสุดคือเสียง สว.สายบิ๊กตู่ ไม่สนองเกมอำนาจของทีมบ้านป่ารอยต่อฯ ที่หวังคว่ำ เศรษฐา ชู อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกฯ ตัวประกัน ต่อรองกับ ทักษิณ ชินวัตร หรือหวังเกมไหลไปสู่ตัวเองเป็นนายกฯ ส้มหล่น
อีกทั้ง บิ๊กตู่ ไม่ต้องการฝืนกระแสเพื่อให้บ้านเมืองเดินได้ และหวังใช้พรรคเพื่อไทยสู้กับพรรคก้าวไกลแทนในช่วงที่ฝ่ายอนุรักษนิยมหมดตัวเล่น
รวมถึงยังมีกระแส พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ชอบและขัดแย้ง กับคนใกล้ชิดลุงป้อม เพราะก่อนหน้านี้ถูกกระบวนการในเครือข่ายบ้านป่ารอยต่อฯ พยายามโค่นล้ม และเตรียมดัน พล.อ.ประวิตร ขึ้นมาแทนที่ตลอดเวลาใช่หรือไม่
ขณะเดียวกัน พรรครวมไทยสร้างชาติ และ เครือข่ายนายทุน ก็พอใจที่พรรคเพื่อไทยมอบตำแหน่งให้ คือ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงใหญ่อีก 1 กระทรวง ฯลฯ ตามความปรารถนา
ฉะนั้นสถานการณ์ของ บิ๊กป้อม จึงเปรียบเป็นแบตเตอรี่กำลังอ่อนแรง คนของตัวเองในองค์กรอิสระก็มีจำนวนลดลงเพราะหมดวาระ ขณะที่คนใหม่เข้าไปใหม่ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนของ พล.อ.ประยุทธ์
ไม่นับคนในพรรคพลังประชารัฐ ก็เริ่มเสียงแตกไม่คล้อยตาม บิ๊กป้อม เพราะทราบมาว่า แม้แต่น้องชายอย่าง บิ๊กป๊อด-พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรค และ ร.อ.ธรรมนัสก็อยากจะไปร่วมรัฐบาลแล้ว ตั้งแต่มีกระแสข่าวดีลลับฮ่องกง โดยจะไปแบบงูเห่า แต่ถูก บิ๊กป้อม เบรกแนวทางนี้เสียก่อน
เมื่อ บิ๊กป้อม ไม่เหมือนเดิม พรรคเพื่อไทย ได้แรงหนุนจาก ลุงตู่ ว่าคนของพรรคแดงจะได้เป็นนายกฯ แน่ๆ ส่วนสภาล่างร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ 10 พรรค จึงไม่จำเป็นต้องพึ่ง 40 เสียงจากพรรคพลังประชารัฐ ก็สามารถทำงานได้ด้วยเสียงประมาณ 274 เสียง
ด้วยความได้เปรียบนี้ พรรคเพื่อไทยจึงกล้าตัดโควตาพรรคพลังประชารัฐ จากเดิมได้ 2 รัฐมนตรีว่าการ 3 รัฐมนตรีช่วย รวม 5 ตำแหน่งก่อนหน้านี้ เหลือเพียงรัฐมนตรีว่าการ 2 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง หรือเหลือ 4 ตำแหน่งในท้ายสุด
เล่นเอาลุงบ้านป่ารอยต่อฯ ควันออกหู
ยิ่งวันโหวตนายกฯ หรือวันที่ทุกคนต้องแสดงตัว บิ๊กป้อม และ สว.สายป่ารอยต่อฯ โต้กลับไม่หนุน เศรษฐา จึงสร้างความไม่พอใจให้แก่พรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก
แตกต่างจากท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ได้ถูกนับเป็นพรรคร่วมรัฐบาล 314 เสียง แต่ก็มี สส. 16 คนในสายของ เสี่ยต่อ-เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ยกคะแนนให้ เศรษฐา พร้อมเป็นอะไหล่ ทดแทนเสียงพรรคพลังประชารัฐ 40 เสียงทันที โดยไม่แยแสต่อมติพรรค
ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับว่าพรรคเพื่อไทยจะเลือกกำจัดหอกข้างแคร่ ที่ไม่ทราบจะลุกขึ้นมาป่วนหรือต่อรองเมื่อไหร่ หรือต้องกล้ำกลืนเก็บ “บิ๊กป้อม” เอาไว้ข้างกาย แม้จะอ่อนแรง แต่ก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์
เพราะ "นายใหญ่" ยังถูกควบคุมตัวโดยกรมราชทัณฑ์ ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะสร้างศัตรูเพิ่มเติมในช่วงเวลานี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'จตุพร' ตอกย้ำศาลรธน.รับคำร้องคดีล้มล้าง เพื่อหยุดอหังการอำนาจ เริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง
ลุ้นศาล รธน.พิจารณาคำร้อง 'จตุพร' เชื่อรับไว้วินิจฉัยเพื่อหยุดอหังการอำนาจ ลั่นจะเริ่มจุดเปลี่ยนบ้านเมือง เปิดความหวังประเทศก้าวเดินสู่ผลประโยชน์ชาติ
'นิพิฏฐ์' เฉลย 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทยเป็นไปได้ 'ทักษิณ' ไม่ได้พูดเล่นๆ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เปิดเผยว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหนีคดีทุจริตจำนำข้าว อาจจะกลับประเทศไทยก่อนสงกรานต์ปีหน้า ว่า ระบุว่า
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่
เดือดพลั่ก! ยธ. แถลงโต้ กมธ.มั่นคงฯ ไม่มีอำนาจเรียก ทวี-อธิบดีกรมคุก ชี้แจงทักษิณชั้น 14
นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวรชัย บุตรดาบุตร เลขานุการกรมราชทัณฑ์ นายณรงค์ หนูคง ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ และ น.ส.วริศรา กุญชร ณ อยุธยา ผอ.กองกฎหมาย
เดือด! 'โตโต้' สวน ยธ. ยันมีอำนาจสอบทักษิณป่วยทิพย์ ลั่น กมธ.มั่นคงฯทำงานครอบจักรวาล
นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม.พรรคประชน (ปชน.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร
'โรม' กล่อม 'ทักษิณ' เข้าแจง กมธ.ความมั่นคง ปมชั้น 14 เชื่อเป็นผลดีต่อรัฐบาล-นายกฯอิ๊งค์
นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเชิญนายทักษิณ ชินวัตร