ปิดดีล 'รัฐบาลสลายขั้ว' ผสมพันธุ์พรรค2ลุง ปูทาง 'แม้ว' กลับ

วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ไร้เงา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หนีคุก ที่ประกาศว่าจะเดินทางกลับประเทศไทย แต่ต่อมาก็บอกเลื่อนออกไปอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ อ้างว่าหมอเรียกให้ไปตรวจร่างกาย

หากย้อนคำพูดทักษิณ กว่า 20 ครั้งที่บอกว่าจะกลับ แต่ก็ไม่กลับ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะมีน้ำหนักกว่าทุกครั้ง เพราะบุตรสาว อุ้งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร เป็นคนแจ้งข่าวด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายก็ซ้ำรอยอีก

เชื่อว่าเหตุที่เลื่อนกลับครั้งนี้เพราะ ดีลลับลังกาวี ล่ม! ทำให้ไม่สามารถกลับบ้านอย่างเท่ๆ ได้ จึงต้องรอความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อยก่อน

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย (พท.) มีความเคลื่อนไหวในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และเริ่มชัดเจนถึงการดึงพรรคการเมืองต่างๆ เข้ามาร่วม

ที่พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรค พท. ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรค ภท. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ภท.

โดย 2 พรรครวมกันมี สส. 212 เสียง เป็นสารตั้งต้นในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมเดินสายดึงเสียงจากสส.-สว.มาเพิ่ม และจะ ไม่มี 2 ลุง พร้อมชู นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ พท.เป็นนายกฯ 

ส่วนกรณีที่เคยหาเสียง ไล่หนูตีงูเห่า นั้น นพ.ชลน่าน ชี้แจงว่า "ถือเป็นวิถีการหาเสียง แต่พรรค พท.ไม่เคยประกาศเป็นศัตรูกับใคร เป็นเทคนิคการหาเสียงที่ทุกพรรคเป็นคู่แข่งทางการเมือง หลังจากประชาชนมอบอำนาจให้เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องมาทำตามมติของประชาชน ก็มาเป็นรัฐบาลร่วมกันได้"

ที่น่าสนใจ นายภูมิธรรม ซึ่งเป็นสายตรงนายทักษิณ กล่าวว่า "ผมเสนอว่าให้จัดตั้งรัฐบาลแบบพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาประเทศ ไม่ใช่การเปลี่ยนขั้ว แต่เป็นการสลายขั้วทั้งหมด อยากให้ทุกคนร่วมกันหาทางออก เพราะนี่คือโอกาสในการทำให้ความขัดแย้งต่างๆ ที่มีอยู่ 20 กว่าปีสลายไป และเป็นโอกาสที่เราจะแก้ไขวิกฤตรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ประเทศขยับไม่ได้ ...สำหรับพรรคก้าวไกล ไม่ว่าอะไรที่เคยเป็นปัญหาที่อาจจะมีส่วนกับพรรคเพื่อไทยหรือกับผม เรายินดีที่จะไปขอโทษ ขอขมา ...เรายินดีร่วมกับทุกพรรค เรามีเรื่องเดียว คือเรื่องมาตรา 112 หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันหลัก เราจะไม่แตะต้อง" 

จากท่าทีของแกนนำพรรค พท.เป็นการแบไต๋ของตัวเองชัดเจนว่า พร้อมจะดึงทุกพรรคการเมืองมาร่วม โดยเฉพาะฝั่งรัฐบาลปัจจุบันที่มี 188 เสียง โดยอ้างความจำเป็น ต้องอยู่ในโลกความจริง แต่หลังจากที่ พท.ประกาศหย่าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ฉีก MOU 8 พรรคร่วมเดิม 312 เสียง ไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลด้วยตัวเอง จู่ๆ กลับไปง้อ ก.ก. ทั้งที่เคยบอกว่าไม่ขอให้ ก.ก.มาโหวตนายกฯ เพราะเกรงจะสร้างความไม่สบายใจให้ฝั่ง สว.

โดยแกนนำพรรค พท. ประกอบด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท., นพ.ชลน่าน, นายภูมิธรรม, นายประเสริฐ เดินออกจากตึกโอเอไอที่ทำการพรรค พท. ข้ามฝั่งถนนไปยังตึกไทยซัมมิท ที่ทำการพรรค ก.ก. เพื่อร่วมหารือกับแกนนำพรรค ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล, นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค

มีรายงานแจ้งว่า ในการหารือ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้ไปขอคะแนนเสียง 150 เสียงจากพรรค ก.ก.ในการโหวตสนับสนุนนายเศรษฐา แต่เป็นการพูดถึงสถานการณ์การเมืองและการรวบรวมเสียงของ พท.ในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงการพูดคุยกับ สว.ที่มีจุดยืนว่าต้องไม่มีพรรค ก.ก.ร่วมรัฐบาล และมีความเป็นจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพราะล่าช้ามา 4 เดือนแล้ว จึงมาแจ้งให้ทุกคนได้ทราบว่า พท.มีความจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ โดยอาศัยเสียงของพรรคพลังประชารัฐ​ (พปชร.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค

การเดินไปพบพรรค ก.ก.ถูกมองว่าเป็นเกมของ พท.ที่จะบอกพรรค ก.ก.ว่า พท.ได้ทำหน้าที่ในการจัดตั้งรัฐบาลจนสุดหนทางแล้ว จะได้เป็นข้ออ้างว่าจำเป็นต้องหันไปจับมือกับพรรค 2 ลุง คือพรรค พปชร.กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

สอดรับกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สส.บัญชีรายชื่อพรรค พท. เปิดเผยถึงการชวนพรรคการเมืองมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า ตนเองคุยกับนายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค กับนายอนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท พรรค รทสช. บ่อยๆ และไม่ได้แนะนำให้เขาเป็นงูเห่า แนะนำเขาต้องมาเป็นพรรคมาทั้งหมด

เช่นเดียวกับ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรค พปชร. บอกว่า ในกลุ่มของเราคุยกันแล้วเห็นว่าประเทศจำเป็นต้องมีรัฐบาลเร่งด่วน เราจะสนับสนุนพรรค พท. โดยที่พรรค พปชร.จะไม่ขาดแม้แต่คนเดียว และหากมาก็มาทั้งหมด

นายไผ่ เป็นคนสนิทของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เลขาธิการพรรค พปชร. ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา ก็นั่งอยู่ร่วมกับแกนนำพรรค พปชร.ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ที่มี บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.นั่งหัวโต๊ะ

บ่งบอกว่า พปชร.เร่งให้ พท.หงายไพ่ออกมาว่าจะร่วมกันไม่ต้องเล่นละครให้คลุมเครืออีก ซึ่งความจริง นายทักษิณ ก็มี ดีลลับ กับ พล.อ.ประวิตร มาก่อนเลือกตั้งแล้วที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน แต่การเลือกตั้งผิดความคาดหมาย พรรค ก.ก.ชนะเลือกตั้งอันดับหนึ่ง พท.จึงตกกระไดพลอยโจนเล่นละครตบจูบๆ ตบตาประชาชนจนปิดฉากลงแล้ว

ล่าสุดพรรค พท.ได้ร่วมกับพรรคการเมืองต่างๆ และแถลงร่วมยกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกฯ จากพรรค พท.ไปแล้วจำนวนมาก ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 71 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 10 เสียง พรรคประชาชาติ (ปช.) 9 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง (พทล.) 2 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) 2 เสียง ส่วนพรรคเสรีรวมไทย (สร.) พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคละ 1 เสียง รวมเป็น 238 เสียง

สำหรับพรรคพลังประชารัฐ แม้จะยังไม่แถลงข่าวร่วมกัน แต่ก็แสดงความชัดเจนว่าจะยกมือ 40 เสียงให้พรรคเพื่อไทย ทำให้มีเสียงรวมกันอยู่ที่ 278 เสียง ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติจะยกมือโหวตให้กับแคนดิเดตนายกฯ จาก พท.เช่นกัน จะเพิ่มอีก 36 เสียง ทำให้รวบรวมเสียงได้ 314 เสียง จึงต้องได้เสียง สว.เพิ่มเติมเพียง 60 เสียงเพื่อมีเสียงรัฐสภา 374 เสียง หรือเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภาเพื่อผลักดันแคนดิเดตนายกฯ ของ พท.

ส่วนแนวคิดที่จะให้ สส.พรรค ก.ก.โหวตให้นายกฯ พรรค พท. แม้ ก.ก.จะเป็นฝ่ายค้าน เพื่อจะปิดสวิตช์ สว. แต่พรรค ก.ก.ก็ไม่เอาด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้แกนนำพรรค ก.ก.บางคน เคยเรียกร้องให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยโหวตให้พรรคเสียงข้างมาก เพื่อปิดสวิตช์ สว.ไม่ให้โหวตนายกฯ แม้จะไม่ถูกเชิญร่วมรัฐบาลก็ตาม

เมื่อมองในมุมเกมการเมือง หลัง พท.ถีบ ก.ก.ไปเป็นฝ่ายค้าน ก.ก.ก็ผลักให้ พท.ร่วมกับพรรค 2 ลุง คือ พปชร.-รทสช. ที่ถูกมองว่าเป็นฝ่ายเผด็จการ จะทำให้ พท.ถูกมองว่าตระบัดสัตย์ ทรยศต่อประชาชน เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของ พท. จะเข้าทาง เป็นประโยชน์ต่อ ก.ก.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

โดย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กหนุนให้พรรค ก.ก.ประกาศจุดยืนเป็นฝ่ายค้านอย่างทะนงองอาจ และจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างดีที่สุด ยังมีประชาชนผู้ดุจดังผนังทองแดงกำแพงเหล็ก โดยเชื่อว่า วันนี้ยังแพ้ แต่วันหน้าจะชนะ

ทั้งนี้ฐานเสียงของ พท.กับ ก.ก.มาจากฐานมวลชนเดียวกัน 2 พรรคนี้แม้จะอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่ก็เป็นคู่แข่งทางการเมืองกันเอง พรรค ก.ก.ตั้งเป้าเลือกตั้งครั้งหน้ากวาด 250 เสียงขึ้นไป ก็จะไปกินพื้นที่หรือแย่งคะแนน พท.นั่นเอง

การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ พท.มีธงมาก่อนแล้วว่าจะต้องเอา ทักษิณ กลับบ้าน การผสมพันธุ์กับพรรค 2 ลุงเป็นความต้องการ นายใหญ่ ที่เชื่อว่าจะนำพาให้ตัวเองกลับบ้านได้ เพราะ 2 ลุงยังมีอำนาจบารมีในองค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งในเครือข่ายกลุ่มอนุรักษนิยม ที่่จะช่วยเคลียร์ทางให้ตัวเองกลับบ้านและพ้นโทษได้ พท.จึงต้องถีบ ก.ก.ยอมกลืนน้ำลาย เพื่อบรรลุเป้าหมายของนายใหญ่

นอกจากนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้า พท.ออกคำแถลงการณ์เตือนรัฐบาลรักษาการรักษามารยาท เพราะมีอำนาจหน้าที่อันจำกัดในการอนุมัติโครงการ ปลัดกระทรวงควรชะลอการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ระดับสำคัญ โดยรอรับนโยบายจากรัฐบาลใหม่ ซึ่งเป็นการตีกันรัฐบาลรักษาการไม่ให้จัดโผแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง โดยเฉพาะ ผบ.เหล่าทัพ ทหาร ตำรวจ ในช่วงฤดูกาลนี้ จึงจำเป็นต้องเร่งปิดดีลตั้งรัฐบาล

ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล 314 เสียง ที่คาดว่าจะปิดดีลเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่มีหลักประกันว่า สว.จะโหวตให้นายกฯ ของ พท.หรือไม่ เพราะ นายเศรษฐา ถูก นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แฉรายวัน กรณี บมจ.แสนสิริ ที่นายเศรษฐาเป็นประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หลบเลี่ยงภาษีการซื้อที่ดินย่านถนนสารสินกว่า 500 ล้านบาท ขณะที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ก็รับเรื่องตรวจคุณสมบัติของนายเศรษฐาจากเรื่องดังกล่าวแล้ว 

ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีกว่า 2 ลุง คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คุมโหวตเตอร์ของ สว.อยู่ในมือ หาก 2 ลุงจะไฟเขียวให้ สว.ยกมือให้ ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่ลงตัว โดยเฉพาะ เก้าอี้นายกรัฐมนตรี เพราะของฟรีก็ไม่มีในโลก!

กว่าจะถึงวันที่ 16 ส.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีมติที่ประชุมรัฐสภาโหวตนายกฯ ซ้ำได้หรือไม่ ก่อนที่ประธานรัฐสภาจะเรียกประชุมนัดโหวตนายกฯ รอบที่ 3 เกมการเมืองยังพลิกผันได้ตลอด!.