‘เพื่อไทย’ กับ ‘พรรค 2 ลุง’ เปิดจุดร่วมที่ง่ายกว่า ‘ก้าวไกล’

หลังจากเห็นพรรคเพื่อไทย อนุญาตให้ใช้ฐานบัญชาการใหญ่ริมถนนเพชรบุรีของตัวเอง ให้พรรคการเมืองจากขั้วรัฐบาลเดิมไปนั่งประกาศว่า ไม่สามารถร่วมงานกับพรรคที่มีแนวคิดแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 คือ พรรคก้าวไกล ราวกับใช้สคริปต์เดียวกันแล้ว 

พรรคก้าวไกล จึงขยับด้วยการประกาศแนวทางของตัวเอง ตอกย้ำว่า ไม่สามารถทำงานร่วมกับ "พรรค 2 ลุง" คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐได้ 

ซึ่งการยืนยันในจุดยืนว่า "มีลุง ไม่มีเรา" มันทำให้โอกาสที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของ 8 พรรคร่วมที่จะเสนอเข้าสภาได้รับความเห็นชอบ 375 เสียง แทบเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะการได้รับเสียงสนับสนุนจากสภาสูง 

แน่นอนว่า ในทางทฤษฎี 8 พรรคร่วมยังมีโอกาสรวบรวมเสียงได้ โดยไม่ต้องพึ่งพรรค 2 ลุง หรือแม้แต่ สว. โดยสามารถไปดึงพรรคการเมืองอื่นๆ ที่มีเสียงเกิน 50 เสียง เข้ามาเติม อย่างเช่น พรรคภูมิใจไทยของ "เสี่ยหนู" นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ที่มีในมือถึง 71 เสียง 

กระนั้น ประเด็นคือ แม้พรรคก้าวไกลจะรับพรรคอื่นๆ นอกเหนือจากพรรค 2 ลุงได้ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า พรรคอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการเข้ามาเติมเสียงให้ถึง 375 เสียง ไม่สามารถรับพรรคก้าวไกลได้ 

ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย ที่ยืนยันหนักแน่นว่า ไม่เอาด้วยกับพรรคที่มีแนวคิดแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ยิ่งช่วงนี้พรรคก้าวไกลมาตามรังควาน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค เรื่องการถือหุ้น ยิ่งทำให้มีปมต่อกันมากขึ้นกว่าเดิม 

หรือพรรคชาติไทยพัฒนาของ "ลูกท็อป" นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรค ที่แม้จะมี 10 เสียง แต่ไม่ได้กระสันอยากจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลอยู่ในองคาพยพนั้น  

 ที่สำคัญ ตอนนี้ 4 พรรคขั้วรัฐบาลเดิม ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย, พรรคพลังประชารัฐ, พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ ที่ไปนั่งแถลงร่วมกับพรรคเพื่อไทยเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา แพ็กแน่นยิ่งกว่า "ข้าวต้มมัด" ของ 8 พรรคร่วมเสียอีก 

การจะใช้อำนาจ ตำแหน่ง หลอกล่อ จิ้มเอาเฉพาะบางพรรค อย่างเช่นการประกาศไม่เอาพรรค 2 ลุง เป็นเรื่องยาก เพราะพรรคเหล่านั้นรู้ว่า การแพ็กกันมีพลังอำนาจในการต่อรองสูงมากกว่า  

ขณะที่พรรคเพื่อไทยรู้ดีที่สุดว่า หากยังดันทุรังจับมือกับ 8 พรรคร่วม เพื่อจะผลักดันแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของตัวเองให้สำเร็จ มันเป็นไปได้ยาก หรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลย    

กล่าวคือ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยไม่มีทางถึงฝั่งฝันได้เลย หากปราศจากพรรค 2 ลุง ซึ่งเป็น 2 พรรคที่พรรคก้าวไกลประกาศไม่ร่วมงานด้วย 

ดังนั้น มันมีอยู่แค่ 2 ทางเลือก คือ แยกทางกับพรรคก้าวไกลและไปจับมือกับขั้วรัฐบาลเดิม ที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยจะเข้าวินได้แบบ 100% กับไม่ปล่อยมือพรรคก้าวไกล ล่มหัวจมท้ายกันไปตามยถากรรม ซึ่งเกิดขึ้นได้ยาก และที่สุดพรรคเพื่อไทยจะไม่เลือกทางนั้นแน่ 

แต่ปัญหาของพรรคเพื่อไทยตอนนี้คือ กลัวการเป็นผู้ร้ายในสายตาสังคม โทษฐานทิ้งพรรคก้าวไกล ซึ่งพรรคก้าวไกลรู้ ถึงไม่เป็นฝ่ายเอ่ยปากยอมเดินออกไปเอง 

ในเรื่องประเด็นพรรค 2 ลุงเอง ที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศเอาไว้ตอนหาเสียงว่า จะไม่จับมือด้วยนั้น เรื่องนี้มันมีทางออกมากมายกว่าพรรคก้าวไกลมาก โดยเฉพาะพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่วันนี้ไม่มี "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมแล้ว 

ประกอบกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายใต้การนำของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค กับพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรค มีจุดร่วมทางการเมืองบางอย่างที่เข้ากันได้ง่าย นั่นคือ 2 พรรคนี้มี "สปอนเซอร์หลัก" เป็นคนคนเดียวกัน   

ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ แม้ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค จะยืนยันว่าไม่วางมือทางการเมือง แต่มันยังมีช่องทางอื่นเพื่อลดทอนกระแสสังคม นั่นคือ "บิ๊กป้อม" ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาลชุดหน้า แต่จะมี "สายตรง" ของตัวเอง ไปดำรงตำแหน่งแทน  

ซึ่งมีข่าวแพร่สะพัดออกมาในช่วงไม่กี่วันนี้ว่า อาจจะให้ใครบางคนในสายเลือดวงษ์สุวรรณ มานั่งแทน 

เพียงแต่วันนี้มันยังเดินไปถึงจุดนั้นไม่ได้ เพราะเอ็มโอยูของ 8 พรรคร่วมมันยังค้ำคอพรรคเพื่อไทยให้ขยับอะไรได้ไม่สะดวกนัก ทำให้ยังไม่ถึงซีนของขั้วรัฐบาลเดิม ที่ต้องนิ่งอยู่ในที่ตั้ง ให้พรรคเพื่อไทยเป็นคนจัดการปัญหานี้ให้จบเสียก่อน 

การจะไปจุดนั้นได้ ต้องมีการฉีกเอ็มโอยูของ 8 พรรค เพื่อรีเซตการจับขั้วใหม่ แต่ประเด็นใหญ่คือ พรรคก้าวไกลยังแก้เกมด้วยการเป็นจระเข้ขวางคลองอยู่.  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยังไม่จบ ศึกชิงอำนาจสภาสูง แผนสองกินรวบ ปธ.กมธ.ทุกชุด!

วันอังคารนี้ 23 ก.ค. คาดว่าคงไม่เกินช่วงเที่ยงๆ ก็จะได้รู้กันแล้วว่า ผลการโหวตของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพื่อเลือก ประมุขสภาสูง-ประธานวุฒิสภา และ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง-รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง รวมสามเก้าอี้ใหญ่สภาสูงจะออกมาอย่างไร

'เศรษฐา' อย่าสับสน! โพลวัดผลงาน ไม่ใช่เรตติ้งนายกฯ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อย่าสับสน !!! ระหว่างผลงาน กับการเลือกนายกฯ คนต่อไป

ตั้งกลุ่มสว.สีเขียว-ปิดดีล'อยู่บำรุง' 'บ้านป่าฯ'ยังมีของไม่วางมือ

การขยับทางการเมืองของ บ้านป่ารอยต่อฯ ภายใต้การนำของพี่ใหญ่ตระกูล วงษ์สุวรรณ บิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในช่วงนี้น่าสนใจไม่น้อย ทั้งกระแสข่าวดึงสมาชิกวุฒิสภา (สว.)

พรรคร่วมรัฐบาลขอเขย่า ไม่ตกเป็น'หมูในอวย'พท.

แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ฯลฯ จะยอมผ่านเรือธงของพรรคเพื่อไทย โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 1 หมื่นบาทให้แก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคน

'วัน' ซบพลังประชารัฐ ซูฮก 'บิ๊กป้อม' ใจถึงพึ่งได้

นายวัน อยู่บำรุง อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในสัปดาห์หน้าว่า เป็นตามกระแสข่าวที่ออกไป โดยตนจะเดินทางไปสมัครในวัน