ชื่อของ พ่อมดดำ นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้รับการจับตามองอย่างมากว่า สุดท้ายจะปาดเข้าวินนั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร
สำหรับชื่อของนายสุชาติปรากฏขึ้นครั้งแรกภายหลังจาก นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวม ออกมาแฉว่า พรรคการเมืองอื่นจากขั้วรัฐบาลเก่า จะเสนอแข่งกับรายชื่อประธานสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคก้าวไกลเสนอ และคนคนนั้นคือ นายสุชาติ
พรรคจากขั้วรัฐบาลเก่าที่ว่าจะเป็นผู้เสนอชื่อแทนพรรคเพื่อไทยคือ พรรคพลังประชารัฐของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค
โดยมีรายงานออกมาว่า ดีลเมกเกอร์ คนสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ พยายามเดินเกมให้พรรคเพื่อไทยเอารายชื่อนี้ เพราะมองว่าสามารถรับมือกับสถานการณ์ร้อนแรงทั้งในและนอกสภาได้
อีกทั้งเป็นคนที่เคยอยู่กับพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย นักการเมืองหลายคนไม่ว่าจะขั้วรัฐบาลใหม่หรือรัฐบาลเก่า รับได้
ซึ่งหากเป็นชื่อนี้ หรือชื่ออื่นๆ จากพรรคเพื่อไทยแข่งขันกับรายชื่อของพรรคก้าวไกล โอกาสที่จะชนะอย่างท่วมท้นมีสูงมาก เพราะจะได้รับเสียงจากขั้วรัฐบาลเก่าที่มีมากถึง 188 เสียงด้วย
เนื่องจากขั้วรัฐบาลเก่านั้นไม่ยอมให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาจากพรรคก้าวไกลเช่นกัน
ขณะเดียวกัน การเดินทางไปประเทศอังกฤษของ บิ๊กป้อม ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ถูกจับตามองอย่างมากว่า จะมีการคุยในประเด็นนี้กับใครบางคนที่นั่นตามกระแสข่าวลือหรือไม่
แต่เรื่องนี้จะไม่มีอะไรในกอไผ่ หากสุดท้ายแล้วนายสุชาติออกมาปฏิเสธเหมือนกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่พูดว่า หากมีการเสนอชื่อตัวเองจะขอถอนตัว
แต่ปัญหาคือ จนถึงขณะนี้นายสุชาติยังไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด หนำซ้ำยังทำตัวลับๆ ล่อๆ จนดูมีพิรุธ เช่น เมื่อวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน ที่แอบไปรายงานตัว ส.ส.โดยพยายามหลบเลี่ยงเจอหน้าสื่อมวลชน
ไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็นการรายงานตัว ส.ส.นอกเวลา ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐสภาอยู่รอต้อนรับเต็มไปหมด ประหนึ่งนกรู้ว่า อนาคตใครจะเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนต่อไป
การที่นายสุชาติมีพิรุธ ทำให้น้ำหนักของชื่อนี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เพราะหลายคนก็มองว่า นายสุชาติเองมีความปรารถนาที่จะนั่งตำแหน่งประมุขนิติบัญญัติเช่นกัน ไม่ได้เป็นพรรคพลังประชารัฐที่ตบมือข้างเดียว
หากย้อนไปตอนเลือกตั้งตอนปี 2562 เดิมพรรคพลังประชารัฐวางตัวนายสุชาติเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะเป็นผู้มีประสบการณ์เพียงคนเดียวในพรรค เนื่องจากเคยดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว
แต่ชื่อของนายสุชาติไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะอำนาจต่อรองของพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้นมีสูง ประกอบกับแกนนำพรรคพลังประชารัฐบางคนในขณะนั้น ซึ่งเคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยอดีตแกนนำ กปปส.พยายามล็อบบี้ผู้มีอำนาจให้เอานายชวน หลีกภัย
นายสุชาติเมื่อรู้ว่าพลาดตำแหน่งเบอร์ 1 จึงปฏิเสธที่จะรับเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรในโควตาพรรคพลังประชารัฐ เพราะเห็นว่าตัวเองเคยขึ้นอยู่ในตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว ไม่อยากต้องไปนั่งอยู่ข้างหลังใคร ยกเว้นคนคนเดียวที่นายสุชาติจะยอมนั่งเป็นเบอร์ 2 ให้ คือนายชวนที่พรรษาสูงกว่าตัวเอง
อย่างไรก็ดี ตัวนายสุชาติในตอนนั้นค่อนข้างผิดหวังกับผู้มีอำนาจในพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่สามารถต่อรองเอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ได้ แม้จะยอมรับตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรในที่สุด แต่ก็ห่างเหินกับพรรคพลังประชารัฐนับจากนั้น โดยไม่เคยเข้าไปเหยียบพรรคอีกเลย
ขณะที่ปัจจุบันหลายคนเชื่อว่า นายสุชาติเองก็มีความปรารถนาในตำแหน่งประมุขนิติบัญญัติ เพราะเป็นจุดสูงสุดของคนเป็นผู้แทน และโดยเฉพาะกับคนที่เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วถึง 2 ครั้ง
ประกอบกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มันเอื้อต่อตัวเองมากที่สุด ทั้งภาวะที่พรรคเพื่อไทยกล้าๆ กลัวๆ ที่จะหักกับพรรคก้าวไกล ทั้งภาวะที่พรรคร่วมเก่าตั้งธงไม่เอาคนของพรรคก้าวไกล ประหนึ่งว่าใครก็ได้ที่ไม่ใช่พรรคสีส้ม
ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นได้ ไม่มีทางที่จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตบมือข้างเดียว!
แต่ทั้งนี้ เรื่องทั้งหมดข้างต้นจะไม่เกิดขึ้นเช่นกัน หากที่สุดพรรคเพื่อไทยมีมติออกมาว่า จะให้พรรคก้าวไกลเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่เสนอแข่ง และสมาชิกพรรคทุกคนพร้อมจะถอนตัวหากอีกฝั่งเสนอรายชื่อคนจากพรรคเพื่อไทย
ซึ่งในทางการเมืองเป็นไปได้ยากที่พรรคเพื่อไทยจะยอมง่ายๆ เพียงแต่จะเล่นหมากไหนให้ดูแยบยล ทั้งการปล่อยฟรีโหวต ส.ส. ทั้งการยืมมือพรรคอื่นเสนอรายชื่อคนของตัวเอง หรือจะเสนอด้วยตัวเองไปเลยเพื่อป้องกันข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับพรรคขั้วรัฐบาลเก่า โดยอ้างฉันทามติของพรรคตัวเอง
แค่เกมไหนที่เนียนที่สุดเท่านั้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"
แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน
ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่
ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง
จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567
ยากจะขวาง‘โต้ง’นั่งปธ.บอร์ดธปท. แนวต้านขอสกัดจนนาทีสุดท้าย!
แม้จะมีข่าวว่า กรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเลือก เสี่ยโต้ง-นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ให้เป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่