ฉากชื่นมื่นในการจัดตั้งรัฐบาล นำโดย พรรคก้าวไกล พร้อม 8 พรรคการเมือง รวม 313 เสียง ที่โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยจะนัดตกลงทำเอ็มโอยู ในวันที่ 22 พ.ค. สอดรับกับวันรัฐประหาร ปี 57 เพื่อสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
แม้ฉากหน้าจะยิ้มแย้มเหมือนจะง่ายดาย แต่ฉากหลังน่าจะสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนว่า พรรคก้าวไกลจะเดินหน้าไปสู่เป้าหมายหรือไม่ เพราะตัวเองมีเงื่อนไขมากเกินไป
โดยเฉพาะจำนวนเสียงที่จะผลักดัน พิธา เข้าทำเนียบรัฐบาล ด้วยจำนวน 376 เสียง จากสมาชิกรัฐสภา 750 เสียง ซึ่งขณะนี้ตัวเลขยังขาดอีก 63 เสียง และยังมั่นอกมั่นใจประกาศชัด ไม่ขอความร่วมมือกับ ส.ว.หรือพรรคการเมืองในฝั่งรัฐบาลเดิมมาช่วยเติมแต้ม
แต่เลือกใช้สารพัดวิธีผ่านช่องทางโซเชียล เช่น เรียกร้อง ข่มขู่ กดดัน ให้มาสนับสนุนฝั่งตัวเอง ท่ามกลาง ส.ส.สอบตกเข้ามาโหนกระแสเหล่านี้ด้วย
ล้วนเป็นปัจจัยที่อาจทำให้ พรรคก้าวไกลไปไม่ไกลดังฝัน ยิ่งมาเจอปมร้อน เรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ให้พรรคส้มชนะเป็นอันดับ 1 โดยมีฐานสนับสนุนคือมวลชนกลุ่ม 3 นิ้ว เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก
แม้ พิธา จะแถลงว่า ไม่มีความเป็นห่วงเรื่องเงื่อนไขมาตรา 112 ในการร่วมรัฐบาล 8 พรรค เพราะกำลังจัดทำเรื่องนี้ผ่านคณะกรรมการร่วมกัน
แต่เมื่อไปดูการกระทำของ “พรรคก้าวไกล” และ “พิธา” ในอดีต ก็ยากจะเชื่อถือใจว่า ทำเพื่อปกป้องสถาบันจริงๆ โดยไม่มีอะไรแอบแฝง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในการปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.ที่จังหวัดชลบุรี ก็ไปติดสติกเกอร์ ควรยกเลิกมาตรา 112 หลัง “ตะวัน” และ “แบม” นักกิจกรรมการเมืองได้ไปสอบถามความชัดเจน เรื่องการยกเลิก หรือแก้ไขมาตรา 112
ขณะที่ นายแก้วสรร อติโพธิ นักกฎหมาย และอดีต ส.ว.เคยเผยแพร่บทความตอนหนึ่งว่า เคยไปดูร่างกฎหมายที่พรรคก้าวไกลเสนอต่อสภาฯ ชัดเจนว่าเป็นการยกเลิกการคุ้มครองพระบารมี
โดยสรุปว่า หมดความเป็นสถาบัน เหลือแต่ความเป็นคนธรรมดาเท่านั้น ตีความได้ว่าเป็นการหมกเม็ดแก้ไข เพื่อไปสู่การยกเลิกมาตรา 112 ใช่หรือไม่
ไม่นับผู้ช่วยหาเสียง หรือผู้นำทางจิตวิญญาณ อย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ก็มีพฤติกรรมและถูกฟ้องคดีมาตรา 112
ยังมีอดีตแกนนำ 3 นิ้ว ได้แก่ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด ว่าที่ ส.ส.ปทุมธานี และ นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ อดีตหัวหน้าการ์ดวีโว่ม็อบสามนิ้ว ว่าที่ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดี 112 อีกด้วย ไม่นับคนอื่นๆ ในพรรคสีส้มที่มีพฤติกรรมหมิ่นเหม่ในอีกหลายคน รวมทั้ง ยังตรวจสอบงบประมาณของสถาบันกษัตริย์อีกด้วย
เมื่อเห็นท่าทีของ "พิธา" และ “คนก้าวไกล” แล้ว จึงถือว่าเรื่องวัดใจของพรรคร่วมรัฐบาล จะยังกล้าไปร่วมสังฆกรรรมเอ็มโอยูด้วยอยู่หรือไม่ เพราะอาจสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 ที่ผู้ใดจะละเมิดองค์พระมหากษัตริย์ไม่ได้ และยังสุ่มเสี่ยงถูกตราหน้าว่า “ล้มเจ้า” อีกด้วย
หรือจะยอมลดโทน หรือแขวนเอาไว้เพื่อตบตามวลชนสามนิ้ว เพื่อเสพอำนาจก่อน ซึ่งก็ไม่ทราบว่าพรรคก้าวไกลจะยอมเอาด้วยหรือไม่ เพราะเท่ากับเป็นการทรยศ หักหลัง เนรคุณ ผู้สนับสนุนตัวเอง
สำคัญสุดสิ่งที่ต้องระวังคือ คนใกล้ตัวอย่าง พรรคเพื่อไทย แม้วันนี้จะร่วมยินดี พร้อมสนับสนุน “พิธา” และพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็ระวังที่แสดงออกมานั้นเป็นเพียงละคร เนื่องจากตอนนี้ไม่กล้าฝืนกระแสของประชาชน 14.2 ล้านเสียง จากผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 39 ล้านเสียง
แต่ฟันธงได้เลยว่า หากพรรคก้าวไกล หรือ “พิธา” ไปไม่ถึงเป้าหมาย พรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะเอามีดข้างหลังขึ้นมาจ้วงแทง เพื่อขึ้นเป็นแกนนำรัฐบาล เพราะทนสภาพลิ่วล้อ หรือไม้ประดับไม่ได้ ไม่นับความอับอายที่ถูกแย่งคะแนนจากเป้าหมายแลนด์สไลด์ ตกมาเป็นเพียงอันดับ 2 เพียง 141 เสียง ต่ำสุดในประวัติการณ์ภายใต้ระบอบทักษิณ
สังเกตได้จากการส่งคนไปร่วมแถลงข่าวของ 8 พรรค ไม่ปรากฏ "อุ๊งอิ๊ง" น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ "เสี่ยนิด" เศรษฐา ทวีสิน ประเมินได้ว่าเพราะไม่ต้องการเข้าไปผูกมัด และถนอมตัวเองเอาไว้ เพื่อรอโอกาสส้มหล่นในวันข้างหน้า
เนื่องจากเป้าหมายหลักของเจ้าของพรรคเพื่อไทย คือ "ทักษิณ ชินวัตร" ต้องการกลับบ้าน ก่อนหน้านี้ก็ส่งสัญญาณขอ "อนุญาตเจ้านาย" เข้าสู่กระบวนการกฎหมาย กลับมาเลี้ยงหลาน
รวมทั้งช่วงค่ำวันที่ 16 พ.ค. ยังตอบคำถามในเฟซบุ๊ก "care คิด เคลื่อนไทย" ถึงกรณีมีเสียงวิจารณ์พรรคเพื่อไทยสู้ไปกราบไปว่า กราบไปคืออะไร การเคารพสถาบันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ยังไงเนี่ยจุดยืนของพรรคเพื่อไทย และครอบครัวชินวัตร คือเราเคารพรักสถาบัน...รู้มั้ยว่าผมกับคุณหญิงนี่ สมรสพระราชทานนะครับ
“แน่นอน สมมุติว่าพรรคเพื่อไทยร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล สิ่งไหนที่พรรคก้าวไกลจะทำ ซึ่งคิดว่าไม่ทำนะ ทำในสิ่งที่กระทบกระเทือนสถาบันพระมหากษัตริย์ เราก็คงไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว อันนี้เป็นเรื่องธรรมดา เราไม่ใช่ขวาจัดตกขอบ ไม่ใช่ แต่เราเป็นคนไทย เราเคารพสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้นเอง ชัดเจน ไม่มีบิดพลิ้ว”
สอดรับกับสัญญาณของ พรรคภูมิใจไทย ที่มี ส.ส.อยู่ 70 เสียง ออกมากดดันการจัดจั้งรัฐบาลของ 8 พรรคการเมือง ผ่านแถลงการณ์ว่า ไม่สามารถลงมติสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้
"ได้รับข้อมูลตรงกันว่าประชาชนผู้ลงคะแนนให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทย มากกว่า 5 ล้านคน มีความเชื่อมั่นว่าจะเป็นพรรคการเมืองหลักทำหน้าที่ปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ ซึ่งพร้อมจะทำหน้าที่นี้ตอบแทนประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม"
ฉะนั้นหากถึงเวลาเลือกนายกฯ อีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า พรรคก้าวไกลไม่มีความสามารถรวบเสียงจากสมาชิกรัฐสภาเกิน 376 เสียง หรือ “พิธา” ตกสวรรค์ก่อน จากปมหุ้น สื่อ ITV เพราะเดินเกมผิดไม่มีแคนดิเดตนายกฯ สำรองไว้
อาจถึงเวลาพลิกเกมของ พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลแทน พร้อมเอาของแสลงออก และดึงพรรคการเมืองอื่นๆ อาทิ พรรคภูมิใจไทย ที่มีจุดยืนพิทักษ์สถาบันเบื้องสูง รวมทั้งพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเปิดประตู ส.ว.ในการเลือกนายกฯ ได้ง่ายขึ้น
สู่ภารกิจประนีประนอมเพื่อพา "ทักษิณ" กลับบ้าน!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อวยทักษิณชนะนายกอบจ.
"ภูมิธรรม" โว พท.ชนะนายก อบจ.อุดรฯ เป็นเรื่องธรรมดา เหตุ ปชช.ยังรัก “ทักษิณ” ชอบผลงานที่ทำมา
ติดสลักกม.ประชามติ รธน.ใหม่ส่อลากยาว
สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ได้ข้อสรุปหลักเกณฑ์ที่จะใช้สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรียบร้อย โดยให้ยึดเสียงข้างมาก 2 ชั้น กล่าวคือ 1.ต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด และ 2.ต้องได้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ์
ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"
แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
จบแล้ว 'นายใหญ่ทักษิณ' วีดีโอคอล ยินดี 'ศราวุธ' กลางดึก
เพื่อไทยคว้าชัยขาดลอย ศึกเลือกตั้งนายกฯอบจ.อุดรธานี “ทักษิณ” วีดีโอคอล ยินดี “ศราวุธ” กลางดึกหลังเอาชนะพรรคส้ม
ขยี้ 'จุดตาย' มัดนักโทษเทวดาชั้น 14
อดีต สว.ชี้จุดตาย ชั้น 14 ทักษิณ เวชระเบียนการรักษา ระบุการที่ รพ.ตร.ไม่ยอมเปิดเผย การรักษาต่อปชช.กลายเป็นหลักฐานมัดตัวว่าไม่ได้ป่วยจริง
'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน
ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49