ผลเลือกตั้ง 14 พ.ค.ซึ่งคาดหมายกันว่า น่าจะรู้ผลการนับคะแนนในหลายจังหวัดทั่วประเทศแบบไม่เป็นทางการ ประมาณไม่เกิน 4 ทุ่มคืนวันดังกล่าว แต่บางจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดขนาดใหญ่มากนัก ก็น่าจะรู้ผลเร็วกว่านั้นพอสมควร โดยหนึ่งในบริบทการเมืองที่หลายคนรอติดตามก็คือ จะเป็นศึกเลือกตั้งที่จะมีการ
ล้มช้าง-ล็อกถล่ม ของแต่ละจังหวัดหรือไม่?
ที่ก็คือบรรดาตัวเต็ง-ตัวตึงทั้งหลาย ในแต่ละจังหวัดจะสอบตกหรือไม่นั่นเอง
โดยเฉพาะพวก บ้านใหญ่-ตระกูลดังการเมือง ในแต่ละจังหวัด ที่ต้องดูว่า จะยังได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่ ให้คนในเครือข่ายบ้านใหญ่ชนะเลือกตั้ง หรือจะเลือกคนอื่น-พรรคอื่น
จะพบว่า หากสแกนรายจังหวัดจริงๆ เกือบทุกจังหวัดมีเครือข่ายบ้านใหญ่อยู่ด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่จะมีบทบาทในพื้นที่มากน้อยแค่ไหน แต่บ้านใหญ่ที่ดังๆ ไม่ใช่แค่ในจังหวัด แต่ดังในระดับชาติ พบว่ามีบ้านใหญ่หลายหลังเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น สมุทรปราการ ที่ทุกคนต้องนึกถึง บ้านใหญ่ม้าทองคำ-อัศวเหม ที่ยังปักหลักอยู่ที่พลังประชารัฐ กับบิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ
รอบนี้บ้านใหญ่อัศวเหม ถูกจับตามองว่าจะได้รับผลกระทบจากการไม่มีเสาหลัก ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม มากน้อยแค่ไหน และแบ็กอัพที่มีอยู่ในการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรปราการ โดยเฉพาะ สะใภ้บ้านใหญ่ ทั้ง 2 คน คือ นันทิดา อัศวเหม นายกฯ อบจ.สมุทรปราการ และประภาพร อัศวเหม นายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ จะช่วยทำให้กลุ่มบ้านใหญ่อัศวเหมประสบความสำเร็จในศึกเลือกตั้งเหมือนตอนปี 2562 ได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ไม่ใช่แค่สมุทรปราการกำลังรอติดตาม แต่คอการเมืองทั่วประเทศก็รอดูเช่นกัน
สำหรับคนในตระกูลอัศวเหมที่ลงเลือกตั้งระบบเขต มีทั้งสิ้น 3 คนคือ อัครวัฒน์-วรพร- ต่อศักดิ์ และปาร์ตี้ลิสต์ 1 คน คือ พิม อัศวเหม อันดับ 8 ส่วนอีกคนคือ ชนม์ทิดา อัศวเหม ลูกสาวชนม์สวัสดิ์ ไปลงปาร์ตี้ลิสต์ภูมิใจไทย ด้วยเหตุผลส่วนตัว
ศึกนี้ กลุ่มปากน้ำ-บ้านใหญ่อัศวเหมมีภารกิจสำคัญต้องทำให้ลูกทีมทั้งหมดสู้เพื่อเอาชนะให้ได้มากที่สุดจาก 8 เก้าอี้ ซึ่งเดิมทีมองกันว่า คู่ต่อกรหลักน่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย ที่คุมทีมโดย ประชา ประสพดี อดีต รมช.มหาดไทย และสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต รมช.พาณิชย์ และบางเขตสู้กับรวมไทยสร้างชาติ โดยเฉพาะเขต 7 ที่่ส่ง ไพลิน เทียนสุวรรณ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พปชร.ที่ย้ายไปรวมไทยสร้างชาติ ที่พลเอกประยุทธ์ นายกฯ ลงพื้นที่หาเสียงให้เป็นการเฉพาะ เมื่อวันศุกร์ที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา
แต่ปรากฏว่า ช่วงหลังกระแส พรรคก้าวไกล มาแรงมากหลายจังหวัด รวมถึงที่สมุทรปราการด้วย จนเริ่มมีการพูดกันเยอะว่า ก้าวไกลอาจเจาะได้บางเขต เลยทำให้บ้านใหญ่อัศวเหมตอนนี้ต้องแบกน้ำหนักสู้รอบทิศ และน่าจะปรับกำลังปรับกลยุทธ์สู้อยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย
นอกจากนี้บ้านใหญ่อีกหลายจังหวัดก็กำลังถูกจับตามองว่าจะได้รับผลกระทบจาก กระแสก้าวไกล มาแรงในช่วงนี้หรือไม่
อย่างที่ ชลบุรี เดิมทีก็เป็นการสู้กันแบบ รบแตกหัก-ศึกแห่งศักดิ์ศรี ระหว่าง บ้านใหญ่คุณปลื้ม ของสนธยา คุณปลื้ม จากเพื่อไทย กับ บ้านใหม่เมืองชลฯ สุชาติ ชมกลิ่น จากรวมไทยสร้างชาติ แต่หลังกระแสก้าวไกลมาแรงในโซนภาคตะวันออก
เลยมองกันว่า ไม่แน่ คะแนนที่จะไปลงที่ก้าวไกล ซึ่งหากคะแนนของก้าวไกลชนะไม่ขาด ก็จะไปตัดคะแนนของบ้านใหญ่คุณปลื้ม จนไปเข้าทางฝ่ายสุชาติ-รวมไทยสร้างชาติ เลยทำให้ ตอนนี้บ้านใหญ่คุณปลื้ม นอกจากต้องสู้กับกลุ่มสุชาติแล้ว ยังต้องพะวงหนักกับกระแสของก้าวไกลในชลบุรี เลยกลายเป็นว่าแค่สู้กับกลุ่มสุชาติก็หนักแล้ว ยังต้องมาคอยต้านกระแสก้าวไกลที่จะมาตัดคะแนนกลุ่มตัวเองอีก
ส่วนที่ โคราช-นครราชสีมา ผู้คนก็จับจ้องกันว่า บ้านใหญ่-รัตนเศรษฐ ของวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำพลังประชารัฐ ที่รอบนี้คนในเครือข่ายลงเลือกตั้งกันถึง 7 คน
แยกเป็นปาร์ตี้ลิสต์ ที่ก็อยู่อันดับต้นๆ คือ อธิรัฐ รมช.คมนาคม อันดับที่ 4 ส่วนวิรัช อันดับที่ 9 ส่วนระบบเขต ส่งลง 5 คน คือ ทัศนียา ภรรยาวิรัช-ทวิรัฐ ลูกชาย-อรัชมน ภรรยา อธิรัฐ-ทัศนาพร เกษเมธีการุณ น้องภรรยาวิรัช-ตติรัฐ ลูกชายอีกคนของวิรัช
คาดกันว่าหากวิรัชพาลูกทีมคนในบ้านใหญ่ของตัวเองเข้าสภาฯ ได้ทั้งหมด แล้วพลังประชารัฐเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โควตารัฐมนตรียังไงบิ๊กป้อมจัดให้บ้านใหญ่รัตนเศรษฐแน่นอน แต่ศึกนี้ก็ไม่ง่าย เพราะต้องสู้หนักกับทั้งเพื่อไทย-ภูมิใจไทย
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลาย บ้านใหญ่ให้ต้องติดตามกันว่า รอบนี้จะผงาดหรือกลายเป็นช้างล้ม ไม่ว่าจะเป็นเช่นที่นครปฐม ซึ่งรอบนี้ บ้านใหญ่-สะสมทรัพย์ ยังคงส่งชุดใหญ่ลงทำศึกในเสื้อพรรคชาติไทยพัฒนา ทั้ง เผดิมชัย-อนุชา-พาณุวัฒณ์ ส่วนที่ อุทัยธานี บ้านใหญ่ตระกูลไทยเศรษฐ์ยังคงเป็น 2 คนเดิม คือ ชาดา กับเจเศรษฐ์ หลานชาย ซึ่งหากภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล คาดว่ารอบนี้ ชาดาคงขอเป็นรัฐมนตรีเองแล้ว หลังให้น้องสาว มนัญญา เป็น รมช.เกษตรฯ มา 4 ปีเต็ม
ส่วนที่ สระแก้ว ก็น่าติดตามว่า บ้านใหญ่เทียนทอง ของ ขวัญเรือน เทียนทอง ที่ลาออกจากนายกฯ อบจ.สระแก้ว มาลงสมัคร ส.ส.แล้วให้ลูกชาย ฐานิสร์ ไปลงนายกฯ อบจ.สระแก้วแทน และชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย รอบนี้บ้านใหญ่เทียนทองยุคเจ๊ขวัญเรือน ที่ลง ส.ส.ครั้งแรกในชีวิต หลังอยู่เบื้องหลังกลุ่มเทียนทอง-วังน้ำเย็นที่สระแก้วมาหลายสิบปี โดยลงพร้อมลูกสาว ตรีนุช-รมว.ศึกษาธิการ
รอดูกัน เจ๊ขวัญเรือน จะทำให้พลังประชารัฐชนะยกจังหวัดแบบปี 2562 ได้อีกหรือไม่ ส่วนการแข่งกับเสนาะ เทียนทอง คนตระกูลเดียวกันนั้น รอบนี้เทียนทองสายเสนาะไม่หวังอะไรแล้ว ขอลุ้นแค่เขตเดียวคือเขต 3 ที่ส่ง สรวงศ์ อดีต รมช.สาธารณสุข ลูกเสนาะ ได้กลับไปเป็น ส.ส.อีกรอบ แต่ข่าวว่า เจ๊ขวัญเรือนไม่ยอม ยังไง พปชร.ต้องชนะยกจังหวัด ไม่มีทางอ่อนข้อให้เสนาะเด็ดขาด แม้จะเป็นเครือญาติกันก็ตาม!
และอีกจังหวัดติดกันกับสระแก้ว คือ ปราจีนบุรี ก็น่าติดตามว่า บ้านใหญ่วิลาวัลย์ ของโกทร-สุนทร วิลาวัลย์ นายกฯ อบจ.ปราจีนบุรี ซึ่งปีที่แล้วเจอวิบากกรรมหนักทั้งตัวเองและลูกสาว กนกวรรณ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ในคดีบุกรุกที่ป่าสงวนฯ ถึงตอนนี้ต้องดูกันว่า บารมีของสุนทร บ้านใหญ่วิลาวัลย์ในจังหวัดปราจีนบุรี จะทำให้ภูมิใจไทยชนะเลือกตั้งยกจังหวัดกวาด 3 เก้าอี้แบบปี 2562 จนอนุทินให้โควตารัฐมนตรีกับกลุ่มปราจีนบุรีมาแล้ว ส่วนครั้งนี้จะทำได้อีกหรือไม่ รอติดตาม
ข้างต้นคือการยกตัวอย่าง บ้านใหญ่การเมือง ในบางจังหวัดมาให้เห็นเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงยังมีบ้านใหญ่อีกหลายจังหวัดที่น่าติดตามไม่แพ้กันว่า ศึกเลือกตั้งนี้รอบนี้จะสามารถชนะเลือกตั้งหรือไม่ ขณะเดียวกัน ว่าไปแล้วบ้านใหญ่การเมืองก็ไม่ได้มีแค่ที่ต่างจังหวัด อย่างใน กรุงเทพมหานคร ก็มีบางโซนเช่นกัน อย่างฝั่งธนบุรี แถวๆ บางขุนเทียน-จอมทอง-บางบอน เป็นที่รู้กันว่า ตระกูล ม่วงศิริ ที่อยู่ในแวดวงการเมืองระดับชาติและท้องถิ่นมาหลายสิบปี ถือว่าเป็นบ้านใหญ่การเมืองของฝั่งธนบุรีได้เช่นกัน โดยตอนนี้ บ้านใหญ่ม่วงศิริ ปักหลักอยู่ที่ประชาธิปัตย์
ซึ่งล่าสุด คนของม่วงศิริชนะเลือกตั้ง ส.ก.กรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2565 สองคนคือ สารัช ม่วงศิริ ส.ก.บางขุนเทียน และณรงค์ศักดิ์ ม่วงศิริ ส.ก.บางบอน ส่วนเลือกตั้ง ส.ส.รอบนี้ ก็ส่งคนในตระกูลลงสมัคร ส.ส.เขต กทม.ประชาธิปัตย์ พร้อมกัน 3 คนรวดคือ สุวัฒน์-สากล-วณิชชา ที่ก็เป็นตัวความหวังของ ปชป.ในฝั่งธนบุรีพอสมควร
ส่วนว่า บ้านใหญ่-บ้านไหน จะผงาดหรือกลายเป็นช้างล้มในศึกเลือกตั้งรอบนี้ ดึกๆ วันที่ 14 พ.ค.มารอดูกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทักษิณไฟสุมขอน ‘รทสช.’ เขย่าบัลลังก์ ‘พีระพัง’
“สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง” มอตโตขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จนถึงปัจจุบัน จากพรรคน้องใหม่ตอนนี้ทำงานมากว่า 3 ปีแล้ว โดยการนำของ “ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค กุมทัพ 36 สส.ในปัจจุบัน
“รัฐบาล”ไฟลต์บังคับ “ทักษิณ”ได้แค่กร่าง
ดรามาปม “อีแอบ” อาจเป็นแค่ประเด็นโชว์กร่าง หวังกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลสยบยอม หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ ที่มีสถานะเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ได้พ่นไฟระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
“พ่อเลี้ยง”เปลี่ยนสนามรบเป็นทุน “ดับไฟใต้-สันติภาพเมียนมา”
“ฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง” นับเป็นภาพการเมืองในฝ่ายบริหารที่ “วิญญูชน” พึงประจักษ์ได้ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการขยับตัวและคำพูดของ “ทักษิณ ชินวัตร” วิทยากร-นักวิชาการของพรรคเพื่อไทย
47 เก้าอี้นายกฯอบจ. บ้านใหญ่ ลุ้นเข้าวิน-กินเรียบ!
คิกออฟ นับหนึ่งตั้งแต่จันทร์ที่ 23 ธ.ค.ที่เป็นวันแรกของการรับสมัครบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกฯ อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงที่ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ 76 จังหวัด
‘แม้ว’ ไล่ทุบ- ‘ภูมิใจไทย’ ไม่หมู ‘แดง-น้ำเงิน’ ทนอยู่แบบตบจูบ
นาทีนี้ศึกฝ่ายค้าน-รัฐบาลยังไม่เดือดเท่ากับศึกรัฐบาลด้วยกันเอง แรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการขบเหลี่ยมของพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2
ขวากหนามแก้รัฐธรรมนูญ คนกันเอง...เล่นเกมต่อรอง
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่เห็นชอบกับ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ฉบับคณะ กมธ.ร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว