เชื้อกลายพันธุ์ โอไมครอน ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ กำลังสร้างความหวาดวิตกให้กับชาวโลกอย่างมาก หลังเริ่มพบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศแล้ว
ขณะที่ประเทศไทยเองแม้ยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าว แต่เริ่มมีปฏิกิริยาจากหลายภาคส่วน เพราะกังวลว่าจะเล็ดลอดเข้ามาได้
โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เน้นย้ำเรื่องนี้เป็นพิเศษ กำชับให้หน่วยงานด้านความมั่นคง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย เข้มงวดป้องกันการลักลอบเข้าประเทศทางบกตามแนวชายแดน
พร้อมกันนี้ บิ๊กตู่ ยังคาดโทษเรื่องการลักลอบเข้าเมือง กรณีพบเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการ จะดำเนินคดีถึงที่สุด รวมไปถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงิน
เสียงเตือนไปถึงเจ้าหน้าที่แสดงให้เห็นว่า ครั้งนี้ บิ๊กตู่ ค่อนข้างจริงจัง เนื่องจากการระบาดหลายครั้งที่ผ่านมา ล้วนมีเหตุมาจากการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังมีมติเห็นชอบแก้ไขมติ ศบค. เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ให้ปรับเปลี่ยนการตรวจหาเชื้อนักท่องเที่ยวต่างชาติ เทสต์แอนด์โก จาก RT-PCR มาเป็น ATK เพื่อความสะดวกรวดเร็ว โดยจะเริ่มใช้วันที่ 16 ธ.ค. ให้กลับมาใช้การตรวจแบบ RT-PCR เหมือนเดิม หลัง โอไมครอน ระบาด
แม้แต่เรื่องผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ ศบค.ยังไม่ผ่อนคลาย ยังมีรายงานว่า บิ๊กตู่ ส่งสัญญาณเตือนไปในหลายพื้นที่ว่า หากพบการลักลอบเปิดก่อนที่ ศบค.จะมีมติผ่อนคลาย ไม่ใช่เพียง 5 เสือในพื้นที่นั้นๆ ที่จะต้องเซ่นความรับผิดชอบ แต่เล่นถึงตัวใหญ่ ระดับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด
ถือเป็นแอ็กชันที่ค่อนข้างแรง แม้จะยังไม่พบเชื้อ โอไมครอน ในประเทศ นั่นเพราะ บิ๊กตู่ หมายมั่นปั้นมือจะคืนความสุขให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังอดฉลองเคาต์ดาวน์กันเมื่อสิ้นปีก่อน
ขณะที่ตลอดปี 64 นี้ ประเทศต้องตกอยู่ในภาวะหม่นหมอง หลังการแพร่ระบาดระลอกนี้กินระยะเวลายาวนานตั้งแต่ต้นปี เพิ่งจะเบาบางลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ที่สำคัญไทยเพิ่งจะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 63 ประเทศ เข้ามาได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น หากพลาดพลั้งปล่อยให้มีการระบาดอีกรอบ โดยเฉพาะหากพบเชื้อกลายพันธุ์ โอไมครอน ที่ไทยในช่วงปลายปี จะส่งผลกระทบต่อประเทศอย่างมาก
จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ จากที่กำลังจะเริ่มโงหัวขึ้น จะกลายเป็นดิ่งลงทันที
รัฐบาลให้ความสำคัญกับเคาต์ดาวน์ในปีนี้มากๆ ตั้งแต่การไม่ยอมผ่อนคลายผับ บาร์ คาราโอเกะ ก่อนกำหนด จากแพลนเดิมที่วางไว้ 16 ม.ค.65 เพื่อไม่ให้มีอะไรผิดพลาด
เพราะรู้ว่าประชาชนต้องการกลับภูมิลำเนา กลับไปเฉลิมฉลองกับครอบครัว รวมไปถึงผู้ประกอบการที่ต้องการลืมตาอ้าปากในช่วงเทศกาลนี้ หลังซบเซาย่ำแย่มาตลอดทั้งปี
ขณะเดียวกันยังต้องการโชว์ศักยภาพการรับมือโควิด-19 โดยหวังใช้เทศกาลปีใหม่เป็นตัวกวักมือเรียกนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยเพิ่มมากขึ้น หลังการทดลองนำร่องท่องเที่ยวใน 4 จังหวัด พบผู้ติดเชื้ออยู่ในปริมาณที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับอัตรานักท่องเที่ยวที่เข้ามา
ในส่วนของการฉีดวัคซีนเอง ถึงตรงนี้ถือว่ารัฐบาลทำได้ตามเป้าที่ประกาศไว้ว่าจะฉีดให้ได้ 100 ล้านโดสภายในปีนี้ เพราะขณะนี้มีการฉีดไปแล้ว 90 กว่าล้านโดส ด้านตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศก็เริ่มทรงตัวและลดลง อยู่ในหลัก 4-5 พันรายมาหลายวัน เป็นปริมาณที่ศักยภาพระบบสาธารณสุขรับได้
ดังนั้นจึงไม่ต้องการให้มีความผิดพลาดใดๆ
ต้องยอมรับว่า รอบนี้รัฐบาลตื่นตัวเร็ว แต่จะเพียงพอหรือไม่ ซึ่งน่าจับตา เพราะความเสี่ยงและช่องโหว่ยังมี เนื่องจากไทยยังเปิดประเทศอยู่ ในขณะที่บางประเทศที่พบเชื้อกลายพันธุ์ โอไมครอน ได้ประกาศปิดประเทศแล้ว
หากพบเชื้อตัวนี้ หรือเกิดการระบาดอีกครั้งในปลายปี จะส่งผลกระทบหลายๆ ด้าน รัฐบาลเองจะเจอศึกหนักมาก ทั้งการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ตลอดจนผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะหนักหนาสาหัส
วิธีการล็อกดาวน์จะได้รับการต่อต้าน เพราะรัฐบาลเป็นคนรับความเสี่ยงเปิดประเทศเอง
ช่วงเวลานับจากนี้จนถึงปีใหม่ บิ๊กตู่ รัฐบาล ศบค. จะอยู่ในอาการ ‘เกร็ง’ สุดๆ กับเชื้อกลายพันธุ์ที่ชื่อว่า โอไมครอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"
แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน
ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่
ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง
จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567
ยากจะขวาง‘โต้ง’นั่งปธ.บอร์ดธปท. แนวต้านขอสกัดจนนาทีสุดท้าย!
แม้จะมีข่าวว่า กรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเลือก เสี่ยโต้ง-นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ให้เป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่