ปี่กลองการเลือกตั้งที่จะหย่อนบัตรกันวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. ถึงตอนนี้เริ่มบรรเลงอย่างเป็นทางการตั้งแต่สัปดาห์นี้ เพราะช่วงวันที่ 3-7 เมษายน เป็นสัปดาห์แห่งการรับสมัครผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ ทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมืองที่ส่งคนลงเลือกตั้ง ต้องไปยื่นใบสมัครและยื่นรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ตามสถานที่ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศไว้
อย่างสนามเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขต กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กำหนดให้มีการรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง กรุงเทพมหานคร เขต 1-33 ในวันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2566 ถึงวันศุกร์ที่ 7 เมษายน 2566เวลา 08.30-16.30 น. ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง
โดยผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ต้องเตรียมเอกสารและหลักฐานให้พร้อมดังนี้ 1.หนังสือรับรองการส่งผู้สมัครของหัวหน้าพรรคการเมือง 2.หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 3 ปี (ปีภาษี 2563, 2564 และ 2565) 3.ค่าธรรมเนียมการสมัคร คนละ 10,000 บาท 4.เอกสารและหลักฐานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด
ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ กำหนดให้ยื่นรายชื่อ วันที่ 4-7 เม.ย.นี้ ตั้งเวลา 08.30-16.00 น. เป็นวันสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติจะเสนอต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยยื่นรายชื่อสมัคร ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แขวงดินแดง
ทั้งนี้ เมื่อไปดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลงสมัครรับเลือกตั้งของ ส.ส.ระบบเขตและบัญชีรายชื่อ พบว่า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 41 และมาตรา 42 ได้บัญญัติคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดังต่อไปนี้
คุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (มาตรา 41)
เช่น เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิด-มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคการเมืองเดียวเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในกรณีที่มีการเลือกตั้งทั่วไปเพราะเหตุยุบสภา ระยะเวลา 90 วันดังกล่าวให้ลดลงเหลือ 30 วัน
ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ด้วย เช่น มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นบุคคลซึ่งเกิดในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง เคยรับราชการหรือปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ หรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง แล้วแต่กรณีเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปี เป็นต้น
ลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง
พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 42 บัญญัติไว้หลายข้อ เช่น เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่า เป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เป็นต้น
ซึ่งการรับสมัครผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขตและบัญชีรายชื่อ ส่วนใหญ่ผู้สมัครและพรรคการเมืองต่างๆ จะไปสมัครกันตั้งแต่วันแรก เพื่อจะได้เลขหรือเบอร์ประจำตัว เบอร์พรรค ที่เป็นเลขหรือเบอร์สวยๆ ที่จำง่าย เพื่อจะได้นำไปหาเสียงกับประชาชนให้จดจำได้ง่าย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ล้วนอยากได้เบอร์ที่จำง่าย เบอร์ที่เป็นเลขเดี่ยวกันทั้งสิ้น เช่น เบอร์ 1 เบอร์ 5 เบอร์ 9 หรือหากเป็นเลขคู่ ก็เป็นเลขคู่ที่จำง่าย เช่น เบอร์ 11 เป็นต้น
โดยพบว่าในช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ 1 และ 2 เมษายนที่ผ่านมา ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ได้มีการเตรียมพร้อมในการรับสมัครในช่วงสัปดาห์นี้ไว้แล้ว และหลายพรรคการเมือง ก็มีการแจ้งตารางเวลาของแกนนำพรรค ที่จะนำลูกทีมไปยื่นสมัคร ส.ส.ระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ออกมา
เช่น พรรคเพื่อไทย ที่แจ้งตารางเวลาความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ในการรับสมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ณ ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น วันที่ 3 เม.ย.2566 นี้ไว้ว่า จะมีแกนนำพรรคจะไปร่วมให้กำลังใจและนำผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขต กทม.ไปยื่นสมัคร โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยไปร่วมด้วย อาทิ แพทองธาร ชินวัตร ชัยเกษม นิติสิริ ภูมิธรรม เวชยชัย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ดนุพร ปุณณกันต์ ซึ่งได้มีการนัดหมายเจอกัน ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ตีห้าครึ่ง
จากนั้นทั้งหมดจะร่วมกันเดินทางโดยขบวนรถเมล์ EV จาก พรรคเพื่อไทย ไปยังศูนย์เยาวชน ไทย-ญี่ปุ่น และช่วง 07.30-08.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะถ่ายภาพร่วมกับแกนนำพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และเมื่อเสร็จสิ้นการรับสมัครแล้ว ทั้งหมดจะเดินทางด้วยรถเมล์ EV ไปยังศาลหลักเมือง เพื่อไหว้ศาลหลักเมือง เอาฤกษ์เอาชัยในการเลือกตั้ง และเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรม ผู้สมัครแต่ละเขตแยกย้ายไปแห่เบอร์ตามเขตเลือกตั้งของตัวเองต่อไป
ส่วนพรรคอื่นก็มีการนัดหมายกิจกรรมในวันรับสมัคร ส.ส.ระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยเช่นกัน
สีสันการรับสมัคร ส.ส.ทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ไฮไลต์จริงๆ ก็คงอยู่ที่ 2 วันแรก คือ 3 เมษายน และ 4 เมษายน ที่เป็นวันรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยพบว่า แกนนำแต่ละพรรคก็จะร่วมเดินทางไปกับผู้สมัครทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ ในวันยื่นสมัครกันเกือบหมด ที่รวมถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่แม้จะไม่ลงสมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ รวมไทยสร้างชาติ แต่ก็ลงสมัครแคนดิเดตนายกฯ รวมไทยสร้างชาติ โดยมีรายงานว่า พลเอกประยุทธ์จะไปร่วมให้กำลังใจคนในพรรคในการยื่นสมัครกับ กกต.ด้วย
เช่นเดียวกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และแคนดิเดตนายกฯ ของพลังประชารัฐ ก็จะนำรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพลังประชารัฐไปยื่นกับ กกต. ในวันที่ 4 เม.ย.นี้เช่นกัน
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 4 เม.ย. ที่ปกติจะประชุมกันตอนเช้า แต่รอบนี้เลื่อนไปประชุมกันช่วงบ่าย 2 เพื่อเปิดทางให้ รัฐมนตรีแต่ละคนที่ส่วนใหญ่เป็นแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ ได้ไปยื่นสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และร่วมทำกิจกรรมหาเสียงเลือกตั้งหลังแต่ละพรรคการเมืองได้เบอร์แล้วกันให้เต็มที่นั่นเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทักษิณไฟสุมขอน ‘รทสช.’ เขย่าบัลลังก์ ‘พีระพัง’
“สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง” มอตโตขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จนถึงปัจจุบัน จากพรรคน้องใหม่ตอนนี้ทำงานมากว่า 3 ปีแล้ว โดยการนำของ “ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค กุมทัพ 36 สส.ในปัจจุบัน
“รัฐบาล”ไฟลต์บังคับ “ทักษิณ”ได้แค่กร่าง
ดรามาปม “อีแอบ” อาจเป็นแค่ประเด็นโชว์กร่าง หวังกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลสยบยอม หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ ที่มีสถานะเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ได้พ่นไฟระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
“พ่อเลี้ยง”เปลี่ยนสนามรบเป็นทุน “ดับไฟใต้-สันติภาพเมียนมา”
“ฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง” นับเป็นภาพการเมืองในฝ่ายบริหารที่ “วิญญูชน” พึงประจักษ์ได้ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการขยับตัวและคำพูดของ “ทักษิณ ชินวัตร” วิทยากร-นักวิชาการของพรรคเพื่อไทย
'ทักษิณ' ถึงเชียงใหม่ ช่วยหาเสียงนายก อบจ. 'สว.ก๊อง' คึกมั่นใจชนะล้านเปอร์เซ็นต์
'ทักษิณ' ถึงเชียงใหม่ 'เจ๊แดง-สมชาย-พิชัย' ต้อนรับ แวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านมิชเชอร์ลิน 7 ปีซ้อน ก่อนช่วงเย็นขึ้นปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ. 'สว.ก๊อง' ลั่นมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์
47 เก้าอี้นายกฯอบจ. บ้านใหญ่ ลุ้นเข้าวิน-กินเรียบ!
คิกออฟ นับหนึ่งตั้งแต่จันทร์ที่ 23 ธ.ค.ที่เป็นวันแรกของการรับสมัครบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกฯ อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงที่ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ 76 จังหวัด
‘แม้ว’ ไล่ทุบ- ‘ภูมิใจไทย’ ไม่หมู ‘แดง-น้ำเงิน’ ทนอยู่แบบตบจูบ
นาทีนี้ศึกฝ่ายค้าน-รัฐบาลยังไม่เดือดเท่ากับศึกรัฐบาลด้วยกันเอง แรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการขบเหลี่ยมของพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2