หากในวันที่ 7 เมษายน ที่ศาลปกครองกลางนัดตัดสินกรณีคำร้องให้เพิกถอนประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีแบ่งเขตเลือกตั้ง การเลือกตั้งจะยังมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม เหมือนเดิม
ขณะที่ห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นสัปดาห์สุดท้ายก่อนจะไปสมัครรับเลือกตั้งกับ กกต. มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญของแต่ละพรรคมากมาย โดยเฉพาะการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์
เกือบทั้งหมดใส่รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 1 อาทิ พรรคพลังประชารัฐ ที่ใส่ชื่อของ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พรรคภูมิใจไทย ที่ใส่ชื่อ "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค
ยกเว้นพรรคเส้นขนาน ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงในสนามเลือกตั้งหนนี้คือ "พรรคเพื่อไทย" เลือกที่จะไม่ใส่ชื่อ "อุ๊งอิ๊ง" น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ เสี่ยนิด-นายเศรษฐา ทวีสิน กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ไม่ใส่ชื่อ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค เอาไว้ในบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
ถือว่ามีนัยทางการเมือง เพียงแต่นัยทางการเมืองของ 2 พรรคนี้จะแตกต่างกัน สำหรับ "บิ๊กตู่" นั้นไม่ได้ประสงค์จะเป็น ส.ส.แต่แรกอยู่แล้ว แต่ต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น หากแพ้ ไม่ได้ดังที่ตั้งใจ มีทางเลือกเดียวคือ เก็บฉากเก็บกระเป๋ากลับบ้าน
ในขณะที่พรรคเพื่อไทยนั้นเป็นเรื่องของการไต่ระดับความเสี่ยง แม้นายเศรษฐาจะออกมาชี้แจงว่าต้องการทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัติ จึงไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ก็ตาม
พรรคเพื่อไทยค่อนข้างระมัดระวังกับก้าวย่างทางการเมืองของตัวเอง เพราะมีบทเรียนมาแล้วกับอดีตนายกรัฐมนตรี 3 คน ที่เดิมพันใช้คนในครอบครัวชินวัตรไปเป็นตัวชูโรง ได้แก่ นายทักษิณ ชินวัตร, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนต้องถูกคดีความ
การอยู่ในสถานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะทั้งของ น.ส.แพทองธารและนายเศรษฐา อย่างน้อยทำให้ยังอยู่ในเซฟโซน
เพราะสถานการณ์การเมืองเอาแน่เอานอนไม่ได้ ต่อให้พรรคเพื่อไทยจะชนะถล่มทลาย แต่ไม่ได้หมายความว่าบั้นปลายจะจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ ตราบใดที่ ส.ว.ยังมีสิทธิ์ยกมือโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ตรงกันข้าม การให้ น.ส.แพทองธารและนายเศรษฐาไปลง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ไม่ต่างอะไรกับการผลักทั้งคู่เข้าไปอยู่ในคิลลิงโซน เพราะระดับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคต้องอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ ที่มีโอกาสเป็น ส.ส.สูงอยู่แล้ว
ซึ่งไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะลงเอยด้วยการเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่ทันทีที่ทั้งสองคนได้เป็น ส.ส. นั่นคือการนำเข้าสู่ระบบการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญเหมือนๆ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช., กกต., ศาลรัฐธรรมนูญ, ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ
แล้วยุคนี้ยังมีเรื่องของการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ที่ใช้เวลาตัดสินคดีอย่างรวดเร็ว มันอาจทำให้ทั้งสองคนตกอยู่ในความเสี่ยง โดยเฉพาะนายเศรษฐา ที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เกี่ยวกับบ้าน ที่ดิน วันหนึ่งอาจะถูกขุดคุ้ยอดีตขึ้นมาเล่นงานได้
เรื่องการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงถือเป็นโทษที่ขอบเขตค่อนข้างกว้าง ที่สำคัญโทษหนักถึงขั้นเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
ฉะนั้น มันไม่ใช่เรื่องจะทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร แต่มันเป็นการเซฟตี้ตัวเองในกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่สมหวังในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งสองคนก็ยังปลอดภัย ไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ แต่หากสมหวัง นั่นเป็นความเสี่ยงที่ค่อยยกระดับในตอนนั้นก็ยังทัน
กรณีนี้มันยังสะท้อนให้เห็นด้วยว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ไว้วางใจสถานการณ์การเมืองภายหลังการเลือกตั้งแต่อย่างใด เพราะถ้าหากมั่นใจ ไม่จำเป็นต้องบริหารจัดการความเสี่ยง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ อิ๊งค์บอกตำรวจอยากดูแล ปท.แบบคนรุ่นใหม่มีอะไรคุยกันได้
นายกฯ มอบนโยบายตำรวจ ขอดูแลปชช.ช่วงปีใหม่ เชื่อ ตร.ภายใต้การนำ ”บิ๊กต่าย“ ทำให้ประชาชนอยู่อย่างมีความสุข-ปลอดภัย บอกอยากดูแลประเทศแบบคนรุ่นใหม่ มีอะไรคุยกันได้
งานหลัก! นายกฯ อิ๊งค์ไปกดปุ่มเปิดนิทรรศการตำรวจ
นายกฯ เปิดนิทรรศการของขวัญปีใหม่ตร. เน้นย้ำแก้ภัยไซเบอร์ พร้อมสวัสดีปีใหม่ผบ.ตร.
'เท้งเต้ง' เซ็ง 'แพทองโพย' เบี้ยวกระทู้สดชงสภาแก้ข้อบังคับการประชุม
'หัวหน้าเท้ง' หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม หลัง 'นายกฯ' เลี่ยงตอบแล้ว 3 หน ปมค่าไฟแพง เหน็บเมื่อวานนักข่าวถามจะไปสภาหรือไม่ 'อิ๊งค์' กลับตอบ 'เมอร์รี่คริสต์มาส'
'ลุงป้อม' เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่
'ลุงป้อม' สดใส เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ รับอวยพรปีใหม่ ย้ำพระราชเสาวนีย์พระพันปีหลวง ปกป้องป่าให้ลูกหลาน ด้าน ผบ.เหล่าทัพ ทยอยอวยพร 3 ป. วานนี้
ทักษิณไฟสุมขอน ‘รทสช.’ เขย่าบัลลังก์ ‘พีระพัง’
“สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง” มอตโตขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จนถึงปัจจุบัน จากพรรคน้องใหม่ตอนนี้ทำงานมากว่า 3 ปีแล้ว โดยการนำของ “ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค กุมทัพ 36 สส.ในปัจจุบัน
30บาทรักษาทุกที่เฟส4 เริ่ม1ม.ค.ลดแออัดรพ.
นายกฯ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟส 4 ครอบคลุมทั่วไทย 1 ม.ค.68