ฤดูกาลเลือกตั้งมาปัญหาเกิด ทุกพรรคการเมืองล้วนเป็นเหมือนกัน โดยเฉพาะความวุ่นวายในการจัดลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ!
เพราะนักการเมืองโดยเฉพาะในส่วนของปาร์ตี้ลิสต์ล้วนวิเคราะห์ถึงความนิยมของพรรคที่ตนเองสังกัด เนื่องจากมีผลจะได้ไปต่อเดินเข้าสู่สภาฯ หรือไม่ จึงเห็นข่าวคราวแย่งชิงลำดับดีๆ กันเกิดขึ้น
ช่วงนี้ยกให้ ประชาธิปัตย์ และ พลังประชารัฐ จุดพลุผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อหนีตาย แต่ดูเหมือน พรรคพลังป้อม จะร้อนแรงน้อยกว่า ประชาธิปัตย์ เพราะดูเหมือนจะคุยกันได้
แต่สำหรับพรรคที่เป็นสถาบันทางการเมือง ขึ้นชื่อว่าอยู่มานาน ส.ส. อดีต ส.ส.ย่อมมีชั้นเชิงวิชามารมากกว่า เพื่อดิ้นรนให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ
กรณี ตั๊น-จิตภัสร์ กฤดากร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเคสหนึ่งที่ชัดเจน
มาดามตั๊น โพสต์เฟซบุ๊กเป็นนัยบอกว่า “อยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปี กับพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี วันนี้ตั๊นไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นบ้านหลังไหน ขอเพียงมีอุดมการณ์เดียวกัน และให้โอกาสเราได้ทำงาน เพราะตั๊นยังยึดมั่นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก”
งานนี้ทั้งคนในพรรค คนนอกพรรค ใคร่รู้เกิดอะไรขึ้น! “ตั๊น” เดินไปไหนมาไหน แบรนด์ “ประชาธิปัตย์” ก็หราเห็นแต่ไกล ถือเป็นลูกหม้อคนหนึ่ง
แต่จู่ๆ มาออกแนวตัดพ้อ เหมือนประชาธิปัตย์ที่เป็นเซฟโซนไม่เห็นค่า เกิดเป็นคำถาม “จิตภัสร์” จะย้ายพรรคหรือไม่ จะว่าไปเธอคนนี้ก็ไม่ใช่เป็นของตายของพรรคเสียทีเดียว ยังพอมีทางหนีทีไล่ให้ไป
ทั้งหัวหน้าพลังประชารัฐ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ที่รักและเมตตาเธอ หรือแม้แต่กับ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” สแกนหน้าคนในพรรคใช่อื่นไกล ก็พี่น้องที่เคยร่วมรบเป่านกหวีด ขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งนั้น
หาก “ประชาธิปัตย์” จัดให้ “จิตภัสร์” อยู่บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 20 ตามหลักของพรรคที่วางไว้ว่าทุกลำดับที่ 5 เป็นโควตาสตรี ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเผ่นไปพรรคอื่น ขณะเดียวกันก็ไม่ง่ายนักที่จะเข้าไปแทรกตัวในบ้านหลังใหม่ เพราะในบ้านใหม่แต่ละหลัง คนในก็ยังตบตีแย่งชิงลำดับปาร์ตี้ลิสต์อยู่เหมือนกัน
กระบวนการจากนี้ต้องจับตา “ผู้ใหญ่ ผู้บริหารพรรคในประชาธิปัตย์” จะจัดการปัญหาอย่างไร
ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 10 ลำดับที่ 15 และลำดับที่ 20 จะเป็นใคร ส่วนลำดับที่ 5 ต้องหลบให้คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เช็กทั้งความอาวุโสและหน้าตักต้องให้ผ่าน จะมีเสียงเรียกร้องของคนในพรรคอยู่บ้างว่าให้คุณหญิงพอแล้ว เพื่อหลบให้คนรุ่นหลังได้เป็น ส.ส.บ้าง
ส่วนลำดับที่ 10 ซึ่งเป็นเซฟโซน ต้องดูว่าจะเป็นใคร ระหว่าง “มัลลิกา บุญมีตระกูล” “วทันยา บุนนาค” หรือมาดามเดียร์ “จิตภัสร์” และ “รัชดา ธนาดิเรก” ซึ่งต้องบอกว่าข่าวล่าข่าวลือ ลำดับดังกล่าวจะตกเป็นของ “มาดามเดียร์” วทันยา เพราะเป็นดีลที่ผู้ใหญ่สัญญาไว้ตั้งแต่ก่อนจะเข้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว จึงต้องจับตาจะเป็นจริงหรือไม่
สำหรับลำดับที่ 15 เป็นลำดับที่เสียวไส้ ลุ้นกันหืดขึ้นคอจะได้ ส.ส. หรือจะร่วง เพระต้องยอมรับกระแสพรรคไม่ดีเหมือนก่อน โดยเฉพาะกับภาคใต้ที่เป็นฐานเสียงหลัก ในการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่มีอะไรการันตีว่าพี่น้องปักษ์ใต้จะแบ่งคะแนนให้ประชาธิปัตย์ เพราะตอนนี้ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้าไปครองใจเรียบร้อยแล้ว บัตร 2 ใบ เลือกคนที่ใช่ เลือกพรรคที่ชอบ “รวมไทยสร้างชาติ” อาจกินรวบ ไม่แบ่งให้ “ประชาธิปัตย์” เลยก็ได้ และแน่นอนว่าอันดับที่ 20 ทุกคนร้องยี้ ประเมินแล้วถ้าได้อยู่ตรงนี้จบเห่ชัวร์
ทว่า ความวุ่นวายนี้จะจบลง หากมี “วีรสตรี” คนหนึ่งเสียสละไปขึ้นอีกบัญชีหนึ่ง บัญชีที่ว่าคือ ตำแหน่งข้าราชการการเมือง เพราะหลายพรรคก็ทำแบบนั้น แต่อย่างว่า เรื่องนี้หลายคนยังประเมินไม่ออกและยังไกลไป เพราะขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้ง ถ้าได้เป็นร่วมรัฐบาลก็มีงานทำ แต่ถ้าเกิดได้เป็นฝ่ายค้านบัญชีข้าราชการการเมืองก็ต้องฝังกลบ ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากเอาชะตากรรมตัวเองไปผูกกับของที่ยังไม่แน่นอน
ท้ายสุด ก่อนวันที่ 4 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ กกต.เปิดรับสมัคร ส.ส.ทั้ง 2 แบบ และเป็นวันจับเบอร์ ทุกอย่างคงจบ
และเมื่อเห็นรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.อันดับที่ 10 แล้ว ผู้บริหารพรรคก็คงต้องตอบให้ได้ว่า ผู้สมัครหญิงผู้นั้นมีความเหมาะสมอย่างไร ทำงานให้พรรคได้ดีเพียงใด และต้องไม่ค้านสายตาของคนส่วนใหญ่ในพรรค ไม่เช่นนั้นก็จะโดนซุบซิบว่า “เธอมันเป็นเด็กเส้น”!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทักษิณไฟสุมขอน ‘รทสช.’ เขย่าบัลลังก์ ‘พีระพัง’
“สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง” มอตโตขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จนถึงปัจจุบัน จากพรรคน้องใหม่ตอนนี้ทำงานมากว่า 3 ปีแล้ว โดยการนำของ “ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค กุมทัพ 36 สส.ในปัจจุบัน
“รัฐบาล”ไฟลต์บังคับ “ทักษิณ”ได้แค่กร่าง
ดรามาปม “อีแอบ” อาจเป็นแค่ประเด็นโชว์กร่าง หวังกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลสยบยอม หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ ที่มีสถานะเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ได้พ่นไฟระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
“พ่อเลี้ยง”เปลี่ยนสนามรบเป็นทุน “ดับไฟใต้-สันติภาพเมียนมา”
“ฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง” นับเป็นภาพการเมืองในฝ่ายบริหารที่ “วิญญูชน” พึงประจักษ์ได้ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการขยับตัวและคำพูดของ “ทักษิณ ชินวัตร” วิทยากร-นักวิชาการของพรรคเพื่อไทย
47 เก้าอี้นายกฯอบจ. บ้านใหญ่ ลุ้นเข้าวิน-กินเรียบ!
คิกออฟ นับหนึ่งตั้งแต่จันทร์ที่ 23 ธ.ค.ที่เป็นวันแรกของการรับสมัครบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกฯ อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงที่ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ 76 จังหวัด
‘แม้ว’ ไล่ทุบ- ‘ภูมิใจไทย’ ไม่หมู ‘แดง-น้ำเงิน’ ทนอยู่แบบตบจูบ
นาทีนี้ศึกฝ่ายค้าน-รัฐบาลยังไม่เดือดเท่ากับศึกรัฐบาลด้วยกันเอง แรงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการขบเหลี่ยมของพรรคอันดับ 1 และพรรคอันดับ 2
ขวากหนามแก้รัฐธรรมนูญ คนกันเอง...เล่นเกมต่อรอง
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่เห็นชอบกับ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ฉบับคณะ กมธ.ร่วมกันพิจารณาเสร็จแล้ว