รหัส "ดิน ฟ้า อากาศเปลี่ยน" วินวินอำนาจ "สมศักดิ์-เพื่อไทย"

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายทางการเมืองของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้การหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมือง โดยเฉพาะการเดินสายลงพื้นที่ หรือแถลงนโยบายพรรคในการหาเสียง หลังจากนี้จะได้เห็นการเปิดฉากขับเคี่ยวต่อสู้กันอย่างเข้มข้นของพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะมีมากขึ้น

โดยเฉพาะพรรคใหญ่ หัวหอกพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย ที่เร่งเครื่องเต็มสูบ หลังทักษิณ ชินวัตร ส่งลูกสาวคนเล็ก หัวแก้วหัวแหวน อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร โหมแรง ปลุกกระแสแลนด์สไลด์อย่างหนัก ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง ตะวันออก ภาคใต้

ยิ่งตอนนี้อุ๊งอิ๊งและเพื่อไทยกำลังคึก เพราะประเมินว่าหลังเปิดตัว เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน ประกบอุ๊งอิ๊ง และคณะเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงร่วมกัน โดยชิมลางไปแล้วที่พิจิตรและพิษณุโลกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเพื่อไทยมองว่าทั้งอุ๊งอิ๊งและเศรษฐาสามารถเรียกคะแนนให้พรรคเพื่อไทยได้ เลยทำให้เพื่อไทยกำลังคึกเต็มที่ วาดฝันว่าแลนด์สไลด์ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน และหลังจากนี้จะเร่งโหมโรงหาเสียงหนักขึ้นเรื่อยๆ

ที่น่าจับตากับอีเวนต์การเมืองของเพื่อไทยก็คือ วันที่ 17 มี.ค.ที่จะถึงนี้ พรรคเพื่อไทยจัดงานใหญ่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ภายใต้คอนเซปต์ “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” โดยมีไฮไลต์คือ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครบ 400 เขต และตีปี๊บนโยบายพรรคที่จะใช้หาเสียง  เพื่อนำไปสู่เป้าหมายใหญ่ 310 ที่นั่ง แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

 ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองว่า งานใหญ่ของพรรคเพื่อไทยในวันดังกล่าว นอกจากเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ระบบเขต 400 คนแล้ว ในงานจะมีการเปิดโฉมหน้าคนเก่าคนแก่ที่เคยอยู่กับทักษิณมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย เข้าแถวกลับคืนเรือนกันอีกระลอกมากน้อยแค่ไหน

โดยเฉพาะคนเก่าคนแก่อย่าง สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กลุ่มสามมิตร ที่ก่อนหน้านี้โบกมือลา “บิ๊กป้อม” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไปซบพรรคเพื่อไทย จนบิ๊กป้อมประกาศ ถ้าจะไปก็ไป ที่ข่าวว่าจะลาออกจากตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่คอนเฟิร์มว่าจะไปร่วมปรากฏตัวในงานของพรรคเพื่อไทยวันที่ 17 มี.ค.นี้หรือไม่ แต่ข่าวบางกระแสก็บอกว่าน่าจะไป

ทั้งนี้ หากจับย่างก้าวของ สมศักดิ์ นั้นแสดงอาการก้าวขาตีตัวออกห่างมาสักระยะ เป็นชั้นเชิงทางการเมือง ความเก๋าเกม มองขาดบรรยากาศการเมือง ที่ดูเหมือนจะส่งท้ายภารกิจสำคัญในฐานะ รมว.ยุติกรรม ในการเดินทางตรวจเยี่ยมเรือนจำที่ จ.พิจิตร

"รัฐบาลกำลังจะหมดวาระ ซึ่งผมก็คงจะไปอยู่พรรคใหม่ แต่นโยบายต่างๆ ที่ผมให้ไว้ ก็คงจะดำเนินต่อไป แต่ผมจะไปพรรคไหนนั้น ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ เวลา 14.00 น. จะจัดแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง เพราะวันนี้ ดิน ฟ้า อากาศเปลี่ยน เราก็ต้องดำเนินการให้เข้ากับสภาพอากาศ โดยก็ขอให้ทุกท่านรอติดตาม"

อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวของ สมศักดิ์ นั้น ก็ล้อไปวงเดียวกันกับเวทีใหญ่ของเพื่อไทย ซึ่งทางหนึ่ง แกนนำพรรคเพื่อไทยเองก็ไล่หลังกระชั้นชิด พยายามกดดันให้กลุ่มสามมิตร อย่าลีลา โก่งค่าตัว 

จึงทำให้กลุ่มสมศักดิ์เลยต้องรีบตัดสินใจย้ายมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมมือกับทักษิณและแกนนำเพื่อไทยในการต่อสู้ศึกเลือกตั้ง โดยกลุ่มสมศักดิ์ก็จะเข้าไปเป็นหนึ่งในองคาพยพของเหล่าแม่ทัพนายกองพรรคเพื่อไทย ที่ทักษิณวางขุมกำลังไว้ ซึ่งกลุ่มสมศักดิ์ที่จะไปเพื่อไทย ก็ยังมี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ อดีต ส.ส.ชลบุรี, นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย พลังประชารัฐ น้องสาวของนายสมศักดิ์

น่าสนใจที่ทางของ กลุ่มสามมิตร ในการกลับบ้านเก่าพรรคเพื่อไทยอีกรอบครั้งนี้ หากดิน ฟ้า อากาศเปลี่ยน นักพยากรณ์อากาศการเมืองมือฉมังอย่าง สมศักดิ์ ได้สิ่งใดตอบแทนในการสานฝันครอบครัวเพื่อไทย ชินวัตร สู่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล 

โดยหากแกะรอย รหัสลับ ดิน ฟ้า อากาศ เปลี่ยน ที่ สมศักดิ์ ส่งสัญญาณปิดฉากฟากฝั่งฝ่ายรัฐบาล ที่กอดคอกันมาช่วงเวลาหนึ่งนั้น มีจุดแตกหักหรือเปลี่ยนแปรตรงไหน นั่นก็คงคงเริ่มต้นตั้งแต่ ช่วงฤดูมรสุม ปลายรัฐบาลของบิ๊กตู่

โดยกลุ่มสามมิตรเลือกรักษาอำนาจไว้ในมือ ด้วยการส่งผู้เล่นแบบดาวกระจาย แยกย้ายไปอยู่พรรคอื่น เป็นมือไม้ไปเกาะเกี่ยวขั้วอำนาจทางการเมืองไว้

  ทั้งส่ง อนุชา นาคาศัย ไปอยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เกี่ยวขาไว้กับบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยรู้กันทางการเมืองว่า เสี่ยแฮงค์-อนุชา คือคนในกลุ่มสามมิตร แต่ที่ไม่ได้ย้ายกลับไปเพื่อไทยพร้อมกับสมศักดิ์ ก็เพราะเพื่อเป้าหมายการเมืองของกลุ่มสามมิตร ที่รอบนี้วางแผนแยกกันทำงานทางการเมือง ภายใต้ยุทธศาสตร์เน้นทำการเมืองแบบให้มีความยืดหยุ่น วันนี้เลือกสลายกลุ่มเพื่อสร้างใหม่ ไม่ยอมกอดคอพากันตาย

นาทีนี้สมศักดิ์ชี้่ชัดบรรยากาศการเมืองก่อนที่จะมีการเลือกตั้งอีกไม่กี่อึดใจว่า ดิน ฟ้า อากาศเปลี่ยน แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือความฝันของเขาไม่เคยเปลี่ยน

เพราะจะพบว่า ยังคงต้องการเดินหน้าปัดฝุ่น โคล้านตัว ซึ่งได้ประกาศชัดเจนตอนลงพื้นที่ภาคใต้ก่อนหน้านี้

  “ความคิดของผมยังทันสมัย...พรรคไหนจะได้ตัวผมไปขับเคลื่อนเรื่องนี้ ก็ต้องรอติดตามดู”

ที่พบว่า สมศักดิ์ไม่เคยวางมือเรื่องการผลักดันโครงการโคล้านตัว ที่ปลุกปั้นโครงการมากับมือ ที่เป็นความฝันมาตั้งแต่สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย

และตอนเข้าไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ก็พยายามผลักดันเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้งปี 2562 แต่ปรากฏว่าจัดตั้งรัฐบาลออกมา พลังประชารัฐ ต้องให้กระทรวงเกษตรฯ กับประชาธิปัตย์ ส่วนตัวสมศักดิ์ต้องไปนั่งเป็น รมว.ยุติธรรม แต่สมศักดิ์ก็ยังไม่ปล่อยวางความฝันเรื่องโครงการนี้ 

 อย่างช่วงเป็น รมว.ยุติธรรม เดินทางมาตรวจราชการภาคใต้ 16 ครั้งแล้ว และเคยระบุไว้ว่า

 “ที่ผ่านมา ผมมางานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน งานสร้างการรับรู้ประมวลกฎหมายยาเสพติด และการปลดล็อกพืชกระท่อม แต่วันนี้ผมนำเรื่องที่ชอบมาบอกคือ วัวชน” 

ซึ่งความมุ่งมั่นนี้ไม่ได้มาอย่างเลื่อนลอย ในจังหวะที่ประจวบเหมาะ แม้จะข้ามฟากไปอยู่ฝั่ง 3 ป. แต่ใช่ว่าจะตัดรากถอนโคนในสายสัมพันธ์ กับเจ๊แดง-เยาวภา ชินวัตร น้องสาวทักษิณ ที่ยังมีบทบาทหลังฉากในเพื่อไทยสูง

โดยมีข่าวว่า เจ๊แดง-ขาใหญ่เพื่อไทย คือคนที่เปิดดีล เจรจากับสมศักดิ์ในการให้ย้ายกลับเพื่อไทย โดยมีข้อเสนอคือ จะให้สมศักดิ์ นักการเมืองจอมเก๋า ลงไปคุมทัพพื้นที่เลือกตั้งภาคใต้ให้เพื่อไทย เพราะตอนนี้เพื่อไทย ไม่มีขุนพลนำทัพในภาคใต้ที่ชัดเจน เมื่อเพื่อไทยยื่นข้อเสนอที่ มิอาจปฏิเสธได้ทางการเมือง

และเส้นทางข้างหน้าปูทางสู่การรีเทิร์นเก้าอี้เสนาบดีกระทรวงเกษตรฯ นั่นหมายถึงโคล้านตัวรีเทิร์นอาจไม่ไกลเกินเอื้อม สำทับกับบรรยากาศมรสุมทางการเมืองที่ผันผวนของ 3 ป. ที่สมศักดิ์คงมองว่าอยู่ช่วงขาลง มีความเสี่ยงสูงที่หากอยู่พลังประชารัฐต่อไปอาจเป็นฝ่ายค้าน 

เมื่อดิน ฟ้า อากาศ ในมุมสมศักดิ์มองว่ามันเปลี่ยนไปจากเดิม จึงทำให้สมศักดิ์พาทีมกลับเพื่อไทย กับความฝันนั่งเป็น รมว.เกษตรฯ หากเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล.