นับตั้งแต่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เปิดศึกภายใน ก่อนจะจูบปากกันในเวลาอันรวดเร็ว กลยุทธ์การหาเสียงของพรรคก้าวไกลดูเข้มข้นขึ้น
สำหรับแนวทางของ นายปิยบุตร นั้น ต้องการให้พรรคก้าวไกลไปแบบสุดซอย เพราะมองว่ามันเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้พรรคก้าวไกลประสบความสำเร็จในสนามเลือกตั้ง
และต้องประสบความสำเร็จแบบที่ไม่ได้เป็นเพียงไม้ประดับ เพราะไม่ได้ต้องการเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งของรัฐบาล ที่นำโดย พรรคเพื่อไทย เท่านั้น
โดยนายปิยบุตรเองเคยโพสต์เรื่องนี้ ในหัวข้อ "แลนด์สไลด์" ที่พรรคก้าวไกลแก้ไม่ออก ก่อนที่จะมีการเคลียร์ใจกับนายพิธา ในลักษณะว่า แนวทางของพรรคก้าวไกลเหมือนว่าจะ เกาะพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แล้วเอาโควตารัฐมนตรี 2-3 ตำแหน่ง
กระทั่งเกิดวิวาทะเดือดผ่านโซเชียลมีเดีย จนต้องนั่งเปิดใจกัน จากนั้นเป็นต้นมาแนวทางของพรรคก้าวไกลกลับมา ‘สุดโต่ง’ ตามที่ปิยบุตรชี้นำว่า เป็นการสู้กันระหว่าง “พลังเก่า” vs “พลังใหม่” และพรรคก้าวไกลคือตัวแทนของพลังใหม่ ซึ่งเหมือนกับยุคพรรคอนาคตใหม่ ที่นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรค
โดยการเปิดปราศรัยของพรรคก้าวไกลที่ผ่านมา ซึ่งมีอดีตผู้นำพรรคอนาคตใหม่ ประกอบด้วย นายธนาธร นายปิยบุตร และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช เป็นผู้ช่วยหาเสียงนั้น เนื้อหาดุเดือดเลือดพล่าน
ทั้งข้อเสนอและเนื้อหาคำปราศรัยที่เข้มข้น ยกระดับว่าพวกเขาต้องการเป็นผู้นำในฝ่ายประชาธิปไตย อย่างเมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ที่ จ.อุดรธานี เมืองหลวงของคนเสื้อแดง นายปิยบุตร ชำแหละ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในประเด็นก้าวข้ามความขัดแย้งว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2552-2553
“แม้แต่ พล.อ.ประวิตร ที่วันนี้เสนอตัวมาเป็นนายกฯ เป็นโซ่ข้อกลางก้าวข้ามความขัดแย้ง ก็เป็นผู้อำนวยการ ศอฉ.วันนั้น ทำหน้าที่ปราบปรามสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ใครก็ตามที่ไปร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประวิตรได้ คือคนที่เหยียบหน้าคนเสื้อแดงทั้งประเทศ พรรคก้าวไกลชัดเจนมาตลอดว่าจะไม่เข้าร่วมกับพรรคทหารจำแลงไม่ว่าพรรคไหนทั้งนั้น ถ้า ครม.วันข้างหน้ามีพรรคทหารจำแลงอยู่ในนั้นเมื่อไร พรรคก้าวไกลพร้อมเป็นฝ่ายค้านทันที”
เช่นเดียวกับ นายพิธา ที่ขยับเป็นสายฮาร์ดคอร์ขึ้น พยายามดิสเครดิต พล.อ.ประวิตร ที่พยายามเสนอตัวเป็นนายกฯ ว่า เป็นการฟอกขาวตัวเอง
“วันนี้ผมต้องเตือนความจำทุกคนว่า พล.อ.ประวิตร ที่วันนี้อ้างว่าต้องการมาสร้างความปรองดอง แท้จริงแล้วเป็นเพียงการฟอกขาวตัวเอง เพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนั้น พล.อ.ประวิตรก็เป็นผู้สร้างมันขึ้นมากับมือ ตัวเองเป็นผู้อำนวยการ ศอฉ. ต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ประวิตรคือคนที่มีส่วนร่วมฆ่าประชาชนในวันนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ต้องได้รับการแสวงหาข้อเท็จจริง เอาคนผิดมารับโทษ จึงจะสร้างการปรองดองได้”
มันดูเหมือนว่าพรรคก้าวไกลกำลังขย้ำ พล.อ.ประวิตร แต่หากสังเกตดีๆ จะพบว่า พวกเขากำลังประจานบางพรรคการเมืองที่เดินเคียงบ่าเคียงไหล่กันในฝ่ายค้านอย่าง เพื่อไทย ทางอ้อม
ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยมีข่าวออกมาตลอดว่า ดีลกับพรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยแล้ว เพราะมองว่าจะช่วยสร้างเสถียรภาพในรัฐบาลชุดหน้าได้ ตลอดจนมีเสียง ส.ว.ตามมาสนับสนุนด้วย
พรรคเพื่อไทยถูกถามหลายครั้งว่า จะสามารถจับมือกับพรรคพลังประชารัฐของ ‘บิ๊กป้อม’ ได้หรือไม่ แต่พวกเขากลับแทงกั๊ก ไม่ชัดเจน จนเพิ่มน้ำหนักให้กับข่าวลือข้างต้น
ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐชูนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง สามารถจับมือได้กับทุกขั้ว ประหนึ่งเปิดทางว่า สามารถย้ายไปจับกับพรรคเพื่อไทยได้
‘พรรคก้าวไกล’ ถูกมองว่าเป็นพรรคเดียวที่จะถูกลอยแพภายหลังการจัดตั้งรัฐบาล
ดังนั้นวิธีเดียวที่จะทำให้พรรคก้าวไกลแชร์คะแนนจากพรรคเพื่อไทยมาได้คือ การแฉให้เห็นถึงกระบวนการสมรู้ร่วมคิดนี้ เพื่อดึงคนที่ชัดเจน ไม่ต้องการ 3 ป. ให้เทมาทางนี้
ซึ่งมันดูเหมือนค่อนข้างจะได้ผล เพราะหลายคนแม้จะเชียร์พรรคเพื่อไทย แต่ไม่สามารถยอมรับกับการเมืองแบบเก่าๆ และการไปสังฆกรรมกับอดีตนายทหารชุดปฏิวัติ
ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยพยายามแก้เกมนี้ แต่ไม่ค่อยจะได้ผล จนกว่าพวกเขาจะประกาศชัดว่า จะไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐของ พล.อ.ประวิตร
เนื่องจากสำหรับคนพวกนี้ การประกาศแค่ไม่เอา บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไม่เพียงพอ เพราะสุดท้ายแล้วภาพของ ‘บิ๊กป้อม’ ไม่สามารถแยกออกจาก ‘บิ๊กตู่’ ได้
ตอนนี้พรรคก้าวไกลไม่ได้มองพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือพรรคพลังประชารัฐเป็นคู่แข่งในสนาม เพราะคนละฐานคะแนนกัน
แต่พรรคก้าวไกลกำลังจะขอท้าเข็มขัดแชมป์ฝ่ายประชาธิปไตยจากพรรคเพื่อไทย!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดร่างรธน. ฉบับเพื่อไทย ไม่แตะหมวด 1-2 โละทิ้งเสียงสว. 1 ใน 3 แก้รธน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) ซึ่งแก้ไข มาตรา 256 และเพิ่มหม
‘สรวงศ์’ โต้รัฐบาลรับลูกพ่อนายกฯ อ้างเป็นแค่วิสัยทัศน์อดีตผู้นำ
ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร การกา
‘แม้ว’ห้าว!ผ่านสนาม อบจ. ท่าทีมั่นใจ‘ความปลอดภัย’
ห้าวทุกเวที! 4 จังหวัด อุดรธานี อุบลราชธานี เชียงใหม่ เชียงราย ที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ไปช่วยผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ.หาเสียง
เปิดคิวเดินสายรัวๆ ‘ทักษิณ-พท.’ ลุยหาเสียงทั่วปท. หวังยึดเก้าอี้ นายกอบจ.ครบ 16 จว.
ทักษิณ-พท.โหมหนัก ลุยหาเสียงทั่วประเทศ ยึดเก้าอี้นายกฯอบจ. ครบ 16 จังหวัด เปิดคิวเดินสายรัวๆ ขึ้นรถม้าลำปางอาทิตย์นี้ จากนั้น ถึงคิวอีสานสะเทือน เปิดหน้า ชนสีน้ำเงิน
เพื่อแม้วประสานเสียง 'ทักษิณ' ปราศรัยเดือดเชียงราย ทำได้ไม่ขัดระเบียบ กกต.
'วิสุทธิ์' ป้อง 'ทักษิณ' ปราศรัยเดือดเชียงราย อ้างไปแล้วไม่พูดหาเสียงจะไปทำไม 'ชูศักดิ์' เสริมอีกแรง ตามระเบียบจะพูดอะไรก็ได้ แจ้ง กกต. เรียบร้อย
ก้าวต่อไป ‘รทสช.’ ปี 2568 ติดสปีดผลงาน-โกยคะแนน
ต้องฝ่าฟันมรสุมกันระลอกใหญ่ส่งท้ายปี 2567 สำหรับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จากพรรคน้องใหม่จนถึงปัจจุบันสู่ปีที่ 3 แล้ว ภายใต้การนำของ “พี่ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค ซึ่งพรรคได้โควตาร่วมทัพรัฐบาลเพื่อไทย และได้กระทรวงที่หมายปองมาครอบครองสมใจ