ถึงตอนนี้ เท่ากับโควตารัฐมนตรีของ พรรคภูมิใจไทย ในรัฐบาล ว่างไปแล้ว 2 เก้าอี้ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
เก้าอี้แรกของ กนกวรรณ วิลาวัลย์ ที่หลุดจาก รมช.ศึกษาธิการอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ในคดีเรื่องข้อกล่าวหารุกป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ หลังก่อนหน้านี้ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเลือกที่จะซื้อใจ บ้านใหญ่ปราจีนบุรี-ตระกูลวิลาวัลย์ ด้วยการไม่ปรับกนกวรรณออกจาก ครม.หลังถูกศาลฎีกาฯ สั่งให้หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เมื่อ 26 ส.ค.2565 และหลังกนกวรรณหลุดจาก รมช.ศึกษาธิการไปแล้ว ภูมิใจไทยก็ไม่ได้แสดงท่าทีจะขอปรับ ครม.แต่อย่างใด แม้จะสามารถทำได้ เพราะกฎหมายเปิดช่องให้ปรับ ครม.ได้ แม้จะเป็น รัฐบาลรักษาการ หลังยุบสภาฯ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งกว่าจะเลือกตั้ง-ตั้งรัฐบาลใหม่ ก็ใช้เวลาอีกร่วมๆ เกือบ 4 เดือน แต่ภูมิใจไทยก็ไม่ได้แสดงท่าทีจะขอปรับ ครม.แต่อย่างใด
และล่าสุด ก็อีกหนึ่งตำแหน่ง แถมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกรดเออย่างคมนาคมเสียด้วย หลัง ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ต้องหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ จากคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อศุกร์ที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ในคำร้องที่ ส.ส.ฝ่ายค้านเข้าชื่อกันยื่นคำร้องให้ศาลวินิจฉัยว่า ศักดิ์สยาม รมว.คมนาคม อาจมีหุ้นส่วนอยู่ใน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งฝ่ายค้านเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ห้างหุ้นส่วนดังกล่าวได้งานรับเหมาก่อสร้าง ของกระทรวงคมนาคมไปหลายโครงการ ที่ฝ่ายค้านชี้ว่าอาจเป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 ประกอบ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 มาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170
โดยหลังศาลรับคำร้องไว้วินิจฉัย ก็สั่งให้ศักดิ์สยามหยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม ทันทีเมื่อศุกร์ที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย
ทำให้ตอนนี้ศักดิ์สยามเหลือตำแหน่งการเมืองคือ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ที่ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะยุบสภาฯ แล้วจึงไม่ได้มีความหมายอะไร แต่การเป็น รมว.คมนาคมสำคัญกว่ามาก แม้ต่อให้เป็นในช่วงรัฐบาลรักษาการก็ตามที
ประเมินแล้ว อนุทิน-เนวิน และศักดิ์สยาม ชิดชอบ คงไม่เสนอให้มีการปรับ ครม. 2 ตำแหน่งในช่วงต่อจากนี้ จึงทำให้ภูมิใจไทย พรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียง ส.ส.เป็นอันดับ 2 รองจากพลังประชารัฐ ยอมปล่อยให้โควตารัฐมนตรีของภูมิใจไทย 2 เก้าอี้ ในที่ประชุม ครม.ว่างไปแบบนี้
ซึ่งคำร้องคดีศักดิ์สยาม คาดการณ์ว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะใช้เวลา ไต่สวน-หาข้อเท็จจริง พอสมควร ประเมินกันว่าอาจใช้เวลาร่วม 2-3 เดือนเป็นอย่างต่ำ
เนื่องจากคำร้องดังกล่าวไม่ใช่แค่ดูข้อกฎหมายอย่างเดียว เหมือนกับคำร้องคดี 8 ปี พลเอกประยุทธ์ ที่ใช้เวลาค่อนข้างเร็วก็ตัดสินได้แล้ว เพราะเป็นเรื่องข้อกฎหมายอย่างเดียว แต่คำร้องคดีศักดิ์สยาม รูปคดี เป็นเรื่องที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต้องไต่สวนหาข้อเท็จจริงให้ได้จนสิ้นกระแสความว่า ศักดิ์สยามมีหุ้นส่วนอยู่ใน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ตามที่ฝ่ายค้านกล่าวอ้างจริงหรือไม่
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสามารถเรียกข้อมูลจากหลายฝ่ายมาพิจารณาได้ รวมถึงข้อมูลจากหน่วยงานราชการ เช่น กระทรวงคมนาคม, กรมทางหลวงชนบท, กระทรวงพาณิชย์, กรมสรรพากร เพื่อดูข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลการเสียภาษีของคนที่เกี่ยวข้อง เช่น ศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ ที่ฝ่ายค้านเคยอภิปรายไว้ว่า ถือหุ้นแทนให้กับศักดิ์สยาม ใน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น
เดิมพันของคำร้องคดีดังกล่าว เรื่องตำแหน่ง รมว.คมนาคม ของศักดิ์สยาม คงไม่ใช่เรื่องที่เนวิน-ศักดิ์สยาม-อนุทินหนักใจ เพราะเหลือเวลาการเป็นรัฐมนตรีอีกแค่ไม่กี่เดือน แต่น่าจะเป็นเรื่องระยะยาวมากกว่า เพราะหากศาลชี้ว่าศักดิ์สยามมีหุ้นส่วนดังกล่าวจริง ก็จะทำให้นอกจากต้องพ้นจากการเป็น รมว.คมนาคมอย่างเป็นทางการแล้ว ยังถูก ห้ามเป็นรัฐมนตรีภายใน 2 ปี นับจากวันที่ศาลมีคำวินิจฉัย ซึ่งหากหลังเลือกตั้ง ภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล ก็อาจทำให้ศักดิ์สยามไม่สามารถกลับมาเป็นรัฐมนตรีได้ ต้องเว้นไว้ 2 ปี แต่คำร้องดังกล่าวไม่มีผลทำให้ศักดิ์สยาม โดนตัดสิทธิ์การเมือง-การลงสมัครรับเลือกตั้ง คือยังสามารถลงสมัคร ส.ส. เป็น ส.ส.ได้อยู่ แม้หากแพ้คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมาตรา 187 ที่ร้องไปไม่มีเรื่องของการให้ตัดสิทธิ์การเมือง
กระนั้นก็มีข่าวว่า ส.ส.ฝ่ายค้านกำลังเร่งล่ารายชื่อ ส.ส.ให้ได้จำนวน 1 ใน 10 ของ ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่เพื่อยื่นคำร้องโดยตรงถึงศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 เพื่อให้วินิจฉัยว่า มีการนำงบคมนาคมไปให้ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งหากยื่นตามช่องทางนี้ จะมีเรื่องของการให้ เพิกถอนสิทธิ์การสมัครรับเลือกตั้ง ไว้อยู่ด้วย
จุดนี้เป็นเรื่องน่าหนักใจของ ศักดิ์สยามและภูมิใจไทยมากกว่า อีกทั้งก็ยังมีคดีลักษณะดังกล่าวค้างอยู่ที่สำนักงาน ป.ป.ช.อีก 1 แห่ง แต่กระบวนการของ ป.ป.ช.กว่าจะสิ้นสุดต้องใช้เวลาอีกเป็นปี ที่จะมีผลเร็วกว่าคือที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะเรื่องความเสี่ยงกับการถูกเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้ง
มันจึงเป็นเดิมพันคดีที่สูงมากของศักดิ์สยาม-พรรคภูมิใจไทย ที่ต้องสู้เพื่อให้ชนะคดีในศาลรัฐธรรมนูญให้ได้ โดยเฉพาะกับ บ้านใหญ่ตระกูลชิดชอบ เพราะปัจจุบันถือว่าศักดิ์สยามคือตัวหลักของตระกูลชิดชอบในแวดวงการเมืองแทนพี่ชาย เนวิน ที่วางมือทางการเมืองเด็ดขาดไม่คัมแบ็ก ซึ่งหากศักดิ์สยามเกิดต้องหลุดวงโคจรการเมืองไปหลายปี ย่อมมีผลทางการเมืองกับภูมิใจไทยตามมาด้วยเช่นกัน
เมื่อเป็นแบบนี้ ทำให้คาดได้ว่า บ้านใหญ่ตระกูลชิดชอบ ที่ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 2 รุ่นคือ รุ่น 1 ชัย ชิดชอบ อดีตประธานสภาฯ รุ่น 2 เนวินและศักดิ์สยาม
และต่อจากนี้ถึงคิวรุ่น 3 ที่เปิดตัวเข้าการเมืองมาระยะหนึ่งแล้ว นั่นก็คือ ไชยชนก ชิดชอบ บุตรชายเนวิน ที่ถูกวางตัวให้ลงสมัคร ส.ส.เขต บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น
หลังไปเปิดตัวสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา และยิ่งกับสถานการณ์เวลานี้ กับคำร้องคดีศักดิ์สยาม ที่ยังคาดการณ์ได้ยาก ผลจะออกมาอย่างไร
มันเป็นจุดเร่งทำให้บ้านใหญ่ตระกูลชิดชอบต้องดันให้แถว 3 อย่างไชยชนกเข้าสู่การเมืองเต็มตัวเร็วขึ้นแน่นอน เพื่อที่จะได้รับไม้ต่อจากศักดิ์สยาม ผู้เป็นอาเร็วขึ้น
สำหรับ ไชยชนก ชิดชอบ เติบโตและใช้ชีวิตส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้ที่ประเทศอังกฤษ โดยไปเรียนและอยู่ที่อังกฤษนานร่วม 17 ปี และหลังเรียนจบกลับมาไทย ก็เข้ามาทำงานช่วยบิดา-เนวิน ด้วยการไปช่วยบริหารทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และสนามแข่งรถสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์ กับตำแหน่งรองผู้อำนวยการสายงานการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จํากัด โดยบุกเบิกสายงานใหม่ๆ ให้กับธุรกิจของครอบครัว เช่น ตั้งทีม ESports โดยนําทีม ESports ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ประเทศไทย เป็นต้น
ด้วยโปรไฟล์และภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา กับวัยเพียงแค่ 30 ต้นๆ จึงไม่แปลกที่ภูใจไทยจะดันให้ ไชยชนก ชิดชอบ เป็นหนึ่งใน
นักการเมืองรุ่นใหม่-เจนใหม่ทางการเมือง
ของภูมิใจไทย พร้อมๆ กับ เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม ลูกสาว ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม และนันทิดา แก้วบัวสาย ที่จะลงปาร์ตี้ลิสต์อันดับต้นๆ ของภูมิใจไทยในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น
ส่วนไชยชนก รุ่น 3 ตระกูลชิดชอบ-บ้านใหญ่บุรีรัมย์และอีสานใต้ของภูมิใจไทย จะมีบทบาททางการเมืองหลังจากนี้มากน้อยแค่ไหน กาลเวลาบนถนนการเมืองคงเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ระหว่างนี้บ้านใหญ่ชิดชอบและภูมิใจไทย คงลุ้นให้ศักดิ์สยามชนะคดีในศาลรัฐธรรมนูญให้ได้ก่อน ส่วนก้าวย่างของรุ่น 3 ชิดชอบบนถนนการเมืองไทยจะเป็นอย่างไร คงต้องดูกันยาวๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่
ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง
จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567
ยากจะขวาง‘โต้ง’นั่งปธ.บอร์ดธปท. แนวต้านขอสกัดจนนาทีสุดท้าย!
แม้จะมีข่าวว่า กรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเลือก เสี่ยโต้ง-นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ให้เป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่
โค้งสุดท้ายศึกนายกอบจ.อุดรฯ เดิมพันสูง พท.VSปชน.แพ้ไม่ได้
นับจากวันจันทร์ที่ 18 พ.ย.ก็เหลืออีกเพียง 7 วันเท่านั้น ก็จะถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ศึกนายกฯ อบจ.อุดรธานี ทำให้ตอนนี้ถือว่าเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายที่จะได้รู้กันแล้วว่า
‘แม้ว’ ย่ามใจไม่เลี้ยงหลาน ทำตัวเป็น ‘ส่วนหนึ่งของปัญหา’
แม้แต่ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังตั้งคำถามต่อ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี