ขณะที่สภาชุดปัจจุบันกำลังนับถอยหลังเตรียมหมดวาระ และใกล้ปิดสมัยประชุมสภา 28 ก.พ.นี้ แต่กลางสัปดาห์นี้ 15-16 ก.พ. ที่ประชุมสภาจะมีฉากเดือดส่งท้ายก่อนจากลา นั่นก็คือ การประชุมสภาเพื่อเปิดอภิปรายรัฐบาลทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่จะเป็นเวทีดวลเดือดเวทีสุดท้ายของฝ่ายค้านกับรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนไปเจอกันที่สนามเลือกตั้ง
การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ที่ฝ่ายค้านใช้ชื่อ ยุทธการถอดหน้ากากคนดี ฝ่ายค้านได้เวลาการอภิปรายทั้งสิ้น 24 ชั่วโมง และรัฐบาลได้เวลา 8 ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนว่าดีกรีความเข้มข้นคงสู้ศึกซักฟอกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะเป็นแค่การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ที่ไม่ได้มีการต้องลงคะแนนเสียงไว้วางใจ-ไม่ไว้วางใจ ทำให้การต่อรองคะแนนเสียงอะไรต่างๆ ของรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายพาดพิงจึงไม่มี
ที่สำคัญ สภาพของสภาปัจจุบันอยู่ในช่วงนับถอยหลัง มี ส.ส.ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้านทยอยลาออกไปจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศสภาเงียบเหงา ไม่คึกคัก ส่งผลให้การอภิปรายครั้งนี้จะไม่ร้อนแรงแบบที่ผ่านมา อีกทั้งพรรคการเมืองฝ่ายค้านเอง ตอนนี้หลักๆ ก็มุ่งไปที่การเตรียมพร้อมเลือกตั้งทั้งการทำนโยบายพรรค การคัดเลือกตัวผู้สมัคร ส.ส.-การวางแผนหาเสียงเลือกตั้ง ทำให้การที่จะเก็บข้อมูล ประเด็นต่างๆ มาอภิปราย โดยเฉพาะข้อมูลเชิงลึก ก็มีไม่มากนัก เพราะไม่มีเวลา อีกทั้ง ส.ส.ฝายค้าน ในใจลึกๆ ก็ไม่รู้ว่าการอภิปรายจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ จะมีการใช้แท็กติกทำให้องค์ประชุมล่ม จนการอภิปรายหยุดชะงัก ไปต่อไม่ได้หรือไม่ ส.ส.ฝ่ายค้านหลายคน โดยเฉพาะพวก รุ่นใหญ่-ตัวตึง เลยเกรงจะเหนื่อยเปล่า จึงไม่ได้ทุ่มสุดตัวให้กับการอภิปรายรอบนี้มากนัก
อย่างไรก็ตาม เวทีอภิปรายครั้งนี้ ในทางการเมืองก็ทำให้ฝ่ายค้านใช้เป็นเวที ล่อเป้า-ถล่มการเมือง รัฐบาล โดยเฉพาะพลเอกประยุทธ์ ก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เพื่อหวังผลในเรื่องการดิสเครดิตพลเอกประยุทธ์และพรรคฝ่ายรัฐบาลได้
โดยมีการเก็งข้อสอบทางการเมืองกันว่า ประเด็นที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายน่าจะมีเช่น เรื่อง ทุนจีนสีเทา ที่เป็นข่าวครึกโครมมาร่วม 2-3 เดือน โดยคาดว่าจะมีการอภิปรายพลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นประธาน ก.ตร. ในประเด็นว่า ปล่อยปละละเลยเรื่องดังกล่าว และก่อนหน้านี้ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.ก้าวไกล เคยออกมาแถลงข่าวเรื่องความเชื่อมโยงของธุรกิจทุนจีนสีเทา ในเรื่องการจัดหารถทัวร์ หลังได้ข้อมูลจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มาแล้ว ซึ่งตอนนั้นนายรังสิมันต์โยงถึงหลานพลเอกประยุทธ์ ทำให้คาดว่า ส.ส.ฝ่ายค้านจะอภิปรายประเด็นดังกล่าวเชื่อมไปถึงพลเอกประยุทธ์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ต้องตั้งการ์ดระวังตัวไม่ใช่น้อยหากจะอภิปรายเรื่องทุนจีนสีเทา เพราะอาจโดนโต้กลับกรณีเครือข่าย ตู้ห่าว กว้านซื้อบ้านจัดสรรหลายหลังที่ซอยลาซาล-บางนา ที่เป็นบ้านในโครงการของบริษัท บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) ที่มีตระกูล "ชินวัตร-ดามาพงศ์" ถือหุ้นใหญ่ 64% โดยมี "อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร" ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ถือมากสุด 28.82%
ทำให้เพื่อไทยต้องระวังไม่ใช่น้อย เพราะหากเปิดหน้าเรื่องทุนจีนสีเทา แล้วถูกฝ่ายพลเอกประยุทธ์สวนกลับ อาจทำให้ คุณหนูแพทองธารของ ส.ส.เพื่อไทย ชื่อโดนลากเข้าสภาฯ เสียเอง แต่เรื่องนี้ซึ่งไม่ได้เกี่ยวโยงอะไรถึงคนในพรรคก้าวไกล ทำให้ก้าวไกลพร้อมจะจัดหนักอภิปรายพลเอกประยุทธ์ประเด็นทุนจีนสีเทาแน่นอน
รวมถึงคาดว่า ส.ส.ฝ่ายค้านอาจมีการอภิปรายเรื่อง เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ที่ทำให้ลูกเรือเสียชีวิตหลายนาย ที่จะอภิปรายพลเอกประยุทธ์ในฐานะ รมว.กลาโหม ที่เกี่ยวข้องโดยตรง แต่คาดว่าพลเอกประยุทธ์จะให้ พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นผู้ตอบหลัก ในงานที่เกี่ยวกับกระทรวงกลาโหม
ขณะเดียวกัน ข่าวว่า ส.ส.ฝ่ายค้านจะอภิปรายอีกหลายเรื่อง เช่น ความล้มเหลวของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ เช่น ฝุ่น pm2.5 เรื่องปัญหาเศรษฐกิจค่าครองชีพ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้พรรคฝ่ายค้านจะมีการเตรียม ส.ส.และประเด็นที่จะอภิปรายกันไว้แล้ว เช่นเดียวกับฝ่ายรัฐบาลก็มีข่าวว่า พลเอกประยุทธ์สั่งให้ทีมงานส่วนตัวคอยเตรียมข้อมูลที่จะชี้แจงตอบโต้ฝ่ายค้าน รวมถึงข้อมูลเรื่องผลงานรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา เพื่อจะใช้เวทีอภิปรายครั้งนี้เป็นเวทีชี้แจงผลงานรัฐบาลควบคู่กันไปด้วย ก็มีข่าวเช่นกันว่ารัฐมนตรีอีกหลายคนก็สั่งให้ทีมงานในกระทรวงเตรียมข้อมูลไว้สำหรับคอยชี้แจงหากถูกฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิงไว้เช่นกัน
แต่กระนั้น ก็ยังมีกระแสข่าวการเมืองว่าให้จับตาการประชุมสภา 15-16 ก.พ.กันให้ดี เพราะไม่แน่เหมือนกันว่า การประชุมจะดำเนินไปโดยตลอดรอดฝั่งหรือไม่ หลังที่ผ่านมาสภาล่มติดต่อกันมาทุกสัปดาห์ จนกลายเป็นเรื่องปกติ
เพราะแม้การอภิปรายทั่วไปครั้งนี้ที่ฝ่ายค้านเป็นเจ้าภาพหลัก ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน จะขอเป็นองค์ประชุมให้แน่นอน แต่ก็มีกระแสข่าวว่า มีคนในพรรคฝ่ายรัฐบาลบางพรรค ก็ไม่อยากให้รัฐมนตรี-แกนนำพรรคของตัวเอง โดนฝ่ายค้านถล่มหลายชั่วโมง เลยจะใช้วิธีอยากให้สภาล่ม!
ด้วยการล็อบบี้ ส.ส.รัฐบาล ไม่ให้เข้าประชุม แล้วมีการส่งซิกให้ ส.ส.รัฐบาลใช้วิธีขอนับองค์ประชุมในจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งหาก ส.ส.รัฐบาลเล่นเกมนี้ด้วยจำนวนมาก ก็อาจทำให้สภาล่มได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดกรณีสภาล่ม ขึ้นมากลางทางระหว่างการปะชุมกำลังดำเนินไป โดยพบว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลหายไปจำนวนมากโดยไม่มีเหตุผล ผลในทางการเมือง ฝ่ายที่จะเสียหายหนักก็คือ ฝ่ายรัฐบาล ทั้งที่ตัวพลเอกประยุทธ์อาจไม่ได้รู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะพร้อมจะชี้แจงสู้กับฝ่ายค้านอยู่แล้ว แต่อาจจะมีใครบางคนในฝ่ายพรรครัฐบาล วางแผนซ้อนแผน ทำให้สภาล่ม จนพลเอกประยุทธ์รับหนักคนเดียว โดนถล่มว่าหนีการถูกฝ่ายค้านอภิปราย
จึงต้องจับตาดูกันให้ดี อาจมีการเดินเกมที่ล้ำลึก จนพลเอกประยุทธ์และคนในสายรวมไทยสร้างชาติคาดไม่ถึงก็ได้ แต่ก็คาดว่า ส.ส.รัฐบาลหลายคนก็คงไม่อยากร่วมมือในการทำให้สภาล่ม
เพราะต้องไม่ลืมว่า หากสภาล่มขึ้นมา สื่อมวลชนต้องนำรายชื่อ ส.ส.รัฐบาลที่ไม่เข้าประชุมหรือเซ็นชื่อเข้าประชุม แต่ไม่อยู่ตอนกดบัตรแสดงตนตอนนับองค์ประชุม ซึ่งหาก ส.ส.รัฐบาลคนไหนโดนสื่อนำชื่อมาประจาน ว่าเป็นสาเหตุทำให้สภาล่ม ส.ส.คนนั้นและพรรคการเมืองก็ย่อมถูกตำหนิและวิจารณ์ในทางลบ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับตัวเองและพรรคต้นสังกัด ในช่วงที่การเลือกตั้งใกล้จะมาถึง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"
แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
เทพไท จี้ 'เพื่อไทย' ใจกว้าง ไม่ฟ้องปิดปากประชาชน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" ว่า พรรคเพื่อไทย ต้องใจกว้าง
'ดร.ณัฏฐ์' ชี้กรณี 'ทักษิณ-พท.' รอดคดีล้มล้างฯ ไม่ตัดอำนาจ 'กกต.' ไต่สวนยุบพรรคได้
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน กล่าวถึงกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยว่าการกระทำของนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยเป็นการ
'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน
ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
'วิสุทธิ์' เผยฝ่ายกฎหมายเพื่อไทย ร่างคําฟ้องเช็กบิล 'ธีรยุทธ' แล้ว
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการฟ้องร้องผู้ยื่นคําร้องกล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยล้มล้างการปกครอง ว่า ตนได้คุยกับนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
'จตุพร' ปลอบและปลุก อดทนเฝ้าคอยยังมีอีกหลายยก!
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ยอมรับว่า ประเมินสถานการณ์ศาล รธน.รับคำร้องคลาดเคลื่อน แม้ถูกเย้ยหยันหน้าแตก แต่ถัดจากนี้ไปขอให้ประชาชนอดทนเฝ้ารอสถานการณ์