2566 ปีแห่งการเลือกตั้ง สรุป 3 เรื่องใหญ่การเมืองปี 65

อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปีปฏิทิน 2565 ที่เป็นปีขาล เข้าสู่ปีใหม่ 2566 ที่เป็นปีเถาะ หรือปีกระต่าย

ในส่วนของ การเมืองไทยปี 2565 พบว่ามีฉากการเมืองที่สำคัญๆ ดังนี้

1.คดี 8 ปี การเป็นนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ

ที่เรียกได้ว่า เป็นคำร้องคดีการเมืองที่ร้อนแรงที่สุดของปีนี้  เพราะถูกจับตามอง และเป็นที่พูดถึงทั้งในเชิง นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ด้วยมุมมองจากฝ่ายต่างๆ ที่เห็นแตกต่างกันไปว่า บิ๊กตู่-พลเอกประยุทธ์ สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีต่อได้อีกหรือไม่ หลัง 24 สิงหาคม 2565 หลังฝ่ายค้านและนักกฎหมายหลายคนมองว่า ไม่สามารถเป็นต่อได้ เพราะการนับวาระ 8 ปีการเป็นนายกฯ ของพลเอกประยุทธ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรคสี่ ต้องนับจาก 24 สิงหาคม 2557 ดังนั้น 8 ปีจึงต้องครบ 24 สิงหาคม 2565 จนเป็นที่มาของการที่ฝ่ายค้านยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

เส้นทางของคดี ตั้งแต่ยื่นคำร้องจนกระทั่งถึงวันที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติและอ่านคำวินิจฉัย ทำเอาการเมืองไทยลุ้นกันสุดตัวว่า บิ๊กตู่จะหลุดจากเก้าอี้นายกฯ หรือไม่ เพราะตลอดเส้นทางคดี เข้มข้น-เร้าใจมาก

 ตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเฉียดฉิว 5 ต่อ 4 ให้พลเอกประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นก็เกิดกรณี เอกสารรั่ว กลางศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งเอกสารของพลเอกประยุทธ์ และมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ. ที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้การวินิจฉัยคดี 8 ปีพลเอกประยุทธ์ยิ่งตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าสุดท้ายตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็มีมติ 6 ต่อ 3 ให้พลเอกประยุทธ์ไม่หลุดจากเก้าอี้ เมื่อ 30 กันยายน 2565

โดยผลคำวินิจฉัยที่ให้นับวาระการเป็นนายกฯ ของพลเอกประยุทธ์นับแต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันประกาศใช้เมื่อ 6 เมษายน 2560 ที่หากไปถึงตอนเลือกตั้งปีหน้า 2566 เท่ากับพลเอกประยุทธ์จะเหลือเวลาการเป็นนายกฯ อีก 2 ปี ยังส่งผลต่อทิศทางการเมืองในภาพรวมตามมา โดยเฉพาะการตัดสินใจของพลเอกประยุทธ์ ที่สุดท้าย แยกตัวออกมาจากพลังประชารัฐไปอยู่กับรวมไทยสร้างชาติ ที่ได้ประกาศไปเมื่อ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา

2.การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์

ชัยชนะของชัชชาติในการเลือกตั้งเมื่อ 23 พ.ค.2565 ว่าไปแล้วไม่เหนือความคาดหมาย เพราะกระแสการตอบรับของชัชชาติก่อนการเลือกตั้งนำโด่งมาตลอดร่วมปี จึงทำให้ชัชชาติชนะเลือกตั้งแบบม้วนเดียวจบ แต่ที่หลายคนคงคาดไม่ถึงก็คือ ชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ที่กวาดคะแนนไปถึง 1,386,215 คะแนน คิดเป็นถึง 51.85% ของคะแนนทั้งหมด ที่ก็คือ คะแนนของผู้สมัครคนอื่นๆ ทั้งหมดที่ลงเลือกตั้ง รวมกันแล้วยังแพ้ชัชชาติ คนเดียว จนทำให้เกิดกระแสชัชชาติฟีเวอร์ช่วงหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม การทำงานของชัชชาติจนถึงปัจจุบันยังเป็นเรื่องที่หลายคนตั้งคำถามกันมากว่า เขาเหมาะสมกับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ และหลายเรื่องที่หาเสียงไว้ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีอะไรเป็นรูปธรรมจับต้องได้

3.กลเกมการเมือง การชิงไหวชิงพริบเพื่อแย่งชิงอำนาจกันในพรรคการเมืองและในรัฐสภา

ตลอดทั้งปีนี้พบว่า การเมืองที่เป็นเรื่องของอำนาจ มีการต่อรอง ชิงไหวชิงพริบ และวางหมากการเมืองกันแบบหลายชั้นให้เห็นหลายฉากตลอดช่วงปีนี้

 เหตุการณ์เด่นๆ ก็เช่น ปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ ระหว่างกลุ่มก๊วนการเมืองภายในพรรคที่แย่งชิงอำนาจกันอย่างเข้มข้น จนสุดท้ายกลุ่มธรรมนัส พรหมเผ่า ต้องระเห็จออกจากพลังประชารัฐ ไปตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย แต่เมื่อการทำพรรคเศรษฐกิจไทยล้มเหลว กลุ่มธรรมนัสก็คัมแบ็กกลับมาพลังประชารัฐอีกครั้งในช่วงเดือนธันวาคมนี้

ตลอดช่วงที่ธรรมนัสไปอยู่เศรษฐกิจไทย ก็ทำให้การเมืองไทยอยู่ในความร้อนแรงตลอด เพราะพยายามจะรวมเสียง ส.ส.พรรคเล็ก ฝ่ายรัฐบาลเพื่อให้โหวตไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์กลางสภาฯ ตอนศึกซักฟอกรอบล่าสุด แต่ไม่สำเร็จ ทำให้ธรรมนัสหมดราคา จนต้องซมซานขอกลับพลังประชารัฐอย่างที่เห็น

นอกจากนี้ตลอดปีนี้พบว่า มีการเคลื่อนไหวต่อรอง พลิกเกมการเมืองกันในรัฐสภาแบบเข้มข้นหลายรอบ แต่การเคลื่อนไหวที่มีผลทางการเมืองสูงก็คือเรื่อง การแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่พลิกไปพลิกมา จาก 100 หาร มาเป็น 500 หาร ได้สำเร็จตอนพิจารณาวาระ 2 แต่สุดท้ายหลังบิ๊กพลังประชารัฐเปลี่ยนใจ ไม่เอาหาร 500 ก็ใช้วิธีทำให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาล่มถึง 4 ครั้งติดต่อกัน จนรัฐสภาพิจารณาร่าง กม.เลือกตั้ง ส.ส.ไม่ทัน ต้องกลับไปใช้หาร 100 ที่จะมีผลต่อการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลในปีหน้าอย่างแน่นอน

ฉากการเมืองที่ยกมาข้างต้น คือหนังตัวอย่างที่ฉายให้เห็นชัดว่า การเมืองไทยปี 2565 กลเกมการเมืองเพื่อแย่งชิงอำนาจเร้าใจยิ่งนัก

สำหรับการเมืองไทยปีหน้า 2566 ก็แลเห็นเด่นชัดมาแต่ไกล ว่าคือ ปีแห่งการเลือกตั้ง เพราะด้วยเงื่อนไข-กติกาตามรัฐธรรมนูญ ที่สภาฯ จะครบ 4 ปี 23 มีนาคม 2566 ทำให้แม้พลเอกประยุทธ์ไม่ยุบสภา สภาก็หมดวาระเดือนมีนาคมปีหน้า และไปเลือกตั้ง 7 พ.ค.2566 ตามที่ กกต.ปักหมุดไว้ แต่หากนายกฯ ยุบสภา ก็จะทำให้การเลือกตั้งเกิดเร็วขึ้น แต่หลายปัจจัยการเมืองก็บ่งชี้ว่า พลเอกประยุทธ์อาจลากยาวครบเทอมก็ได้ เพื่อให้รวมไทยสร้างชาติที่พลเอกประยุทธ์จะไปอยู่ด้วย มีความพร้อมในการเลือกตั้งมากที่สุด

การเมืองไทยตั้งแต่ต้นปีหน้า 2566 ก่อนจะไปถึงวันเลือกตั้ง มีหลายเรื่องให้ติดตาม โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของแต่ละพรรคการเมืองในการเตรียมพร้อมเลือกตั้ง เช่น การวางยุทธศาสตร์เลือกตั้ง-การออกนโยบายพรรคที่จะใช้ในการหาเสียง-การกำหนดตัวแคนดิเดตนายกฯ

 แต่ที่หลายคนสนใจมากที่สุด คงไม่พ้นเรื่องการย้ายพรรค-การหาสังกัดพรรคลงเลือกตั้ง ที่พบว่าบางพรรคก็นิ่งแล้ว เช่น เพื่อไทย คงไม่มีขยับอะไรมาก เพราะคนที่จะย้ายออก ตอนนี้ก็ออกไปเกือบหมดแล้ว แต่ที่หลายคนกำลังจับตาก็คือ กลุ่มการเมืองจากพรรคอื่นที่จะเข้ามาที่เพื่อไทย เช่น กลุ่มสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ กลุ่มสนธยา คุณปลื้ม เป็นต้น

แต่ที่น่าจะมีการขยับกันมากก็คือ พรรคพลังประชารัฐที่จะเชื่อมโยงมาถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เรียกกัน พรรคลุงป้อม-พรรคลุงตู่ ที่การขยับของ 2 พรรคนี้ น่าจะเกิดขึ้นสูงในช่วงตั้งแต่ต้นปีหน้า หลังบิ๊กตู่ประกาศไปอยู่รวมไทยสร้างชาติ ที่อาจทำให้เกิดแรงกระเพื่อมภายในพลังประชารัฐตามมา โดยเฉพาะหากการกลับเข้าพลังประชารัฐของ ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่จะเปิดตัวปีหน้า คงทำให้บางคนที่อยู่ในพลังประชารัฐและไม่กินเส้นกับธรรมนัส อาจต้องตัดสินใจว่า จะเดินออกจากพลังประชารัฐไปอยู่พรรคอื่นหรือไม่ ที่หากออกกันไปหลายคน คงทำให้พลังประชารัฐแกว่งพอสมควร 

การเมืองไทยตลอดทั้งปีหน้า 2566  บอกได้คำเดียว จะมีจุดพีกหลายรอบ โดยเฉพาะการช่วงชิงการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง น่าจะลุ้นกันมันส์หยด!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อบงการ ลูกตามสั่ง

“พ่อบงการ ลูกตามสั่ง” ผ่าน “รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร” คงไม่เกินเลยความเป็นจริง เพราะเมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ มีคำบัญชาผ่านเวทีต่างๆ รัฐบาลชุดนี้ก็สนองนโยบายทันที โดยไม่สนใจว่ารัฐบาลจะขาดความน่าเชื่อถือ และยำเกรงต่อกฎหมายมิให้คนนอกเข้ามาครอบงำแต่อย่างใด”.

ทักษิณไฟสุมขอน ‘รทสช.’ เขย่าบัลลังก์ ‘พีระพัง’

“สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง” มอตโตขับเคลื่อนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จนถึงปัจจุบัน จากพรรคน้องใหม่ตอนนี้ทำงานมากว่า 3 ปีแล้ว โดยการนำของ “ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค กุมทัพ 36 สส.ในปัจจุบัน

“รัฐบาล”ไฟลต์บังคับ “ทักษิณ”ได้แค่กร่าง

ดรามาปม “อีแอบ” อาจเป็นแค่ประเด็นโชว์กร่าง หวังกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลสยบยอม หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ ที่มีสถานะเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ได้พ่นไฟระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา

“พ่อเลี้ยง”เปลี่ยนสนามรบเป็นทุน “ดับไฟใต้-สันติภาพเมียนมา”

“ฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง” นับเป็นภาพการเมืองในฝ่ายบริหารที่ “วิญญูชน” พึงประจักษ์ได้ว่าเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการขยับตัวและคำพูดของ “ทักษิณ ชินวัตร” วิทยากร-นักวิชาการของพรรคเพื่อไทย

'ทักษิณ' ถึงเชียงใหม่ ช่วยหาเสียงนายก อบจ. 'สว.ก๊อง' คึกมั่นใจชนะล้านเปอร์เซ็นต์

'ทักษิณ' ถึงเชียงใหม่ 'เจ๊แดง-สมชาย-พิชัย' ต้อนรับ แวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านมิชเชอร์ลิน 7 ปีซ้อน ก่อนช่วงเย็นขึ้นปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ. 'สว.ก๊อง' ลั่นมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์

47 เก้าอี้นายกฯอบจ. บ้านใหญ่ ลุ้นเข้าวิน-กินเรียบ!

คิกออฟ นับหนึ่งตั้งแต่จันทร์ที่ 23 ธ.ค.ที่เป็นวันแรกของการรับสมัครบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกฯ อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงที่ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ 76 จังหวัด