คว่ำร่าง รธน.ฉบับไอติม เข้าทางม็อบ-ก้าวไกล

ไม่เหนือความคาดหมายสำหรับมติที่ประชุมรัฐสภา ไม่เห็นชอบหลักการร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ....ที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แกนนำกลุ่ม Re-solution กับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 135,247 คน เป็นผู้เสนอ             

ผลการลงมติปรากฏว่า เห็นชอบกับหลักการของร่างรัฐธรรมนูญ 206 เสียง ไม่เห็นชอบ 473 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง

จากการอภิปราย 1 วัน 1 คืน ประมวลผลความเห็นของ ส.ส.เสียงข้างมาก และ ส.ว. พบว่าเสียงข้างมากในรัฐสภาเห็นว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหาสุดโต่งเกินไป ไม่มองบริบทการเมืองของประเทศที่แท้จริง

ลำพังแค่การเสนอให้เหลือเพียงสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียว และยุบวุฒิสภาทิ้ง ทั้งที่การจะทำให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านในวาระแรกนั้น ยังต้องอาศัยเสียงของ ส.ว.ถึง 84 เสียง ก็ว่าเป็นเรื่องในอุดมคติอยู่บนหิ้ง นำสู่การปฏิบัติไม่ได้แล้ว

ยังมีอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะการเสนอให้มีผู้ตรวจการกองทัพ ผู้ตรวจการศาลและศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ตรวจการองค์กรอิสระ ที่กำหนดให้ผู้ตรวจการแต่ละประเภท มาจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 5 คน จาก ส.ส.ฝ่ายค้าน 5 คน

ผู้ตรวจการกองทัพ 10 คน ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบประมาณ โครงการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ และคัดมา 2 คน ไปเป็นสมาชิกสภากลาโหม

ผู้ตรวจการศาลและศาลรัฐธรรมนูญ 10 คน ทำหน้าที่ตรวจสอบงบประมาณ ให้ความเห็นเรื่องแนวทางการบริหารแก่ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ศึกษาวิเคราะห์ประเมินผลกระทบที่เกิดจากคำตัดสินและคำวินิจฉัย อย่างไรก็ตาม ยังให้คัดจากผู้ตรวจการศาล 10 คน 1 คนให้ไปเป็นกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม และอีก 1 คน ไปเป็นกรรมการตุลาการศาลปกครอง

ผู้ตรวจการองค์กรอิสระ 10 คน ให้มีหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ ให้ความเห็นแก่ประธานองค์กรอิสระต่างๆ เกี่ยวกับแนวทางการบริหาร และศึกษาวิเคราะห์ ประเมินคุณภาพ และผลกระทบของคำวินิจฉัย คำสั่ง หรือการใช้อำนาจขององค์กรอิสระ

ฝ่ายผู้เสนออ้างว่าเพื่อตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน ส่วนฝั่งที่ไม่เห็นด้วยมองว่าแนวคิดนี้คือการล้วงลูกก้าวก่าย เหมือนที่ “วันชัย สอนศิริ” ส.ว. อภิปรายไว้ตอนหนึ่งว่า “ข้อเสนอรัฐธรรมนูญที่เสนอมานั้น มาจากชุดความคิดสองประการ ประการแรก คือคิดว่าคนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นคนดีที่สุด เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในแผ่นดินนี้

ประการที่สอง คนที่ทำรัฐประหารเป็นคนเลว ต้องล้มล้างให้หมด ต้องปฏิเสธศาล ประชาชนต้องลุกมาต่อต้าน ทุกภาคส่วนต้องลุกขึ้นมาเหยียบย้ำ ผู้เสนอมองโลกด้านเดียว โลกสวย มองบริบททางการเมืองอุดมการณ์เกินจริง ไม่ใช่บริบททางการเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้”

ทว่า สมาชิกในสภาส่วนหนึ่งมองว่า “ไอติม” พริษฐ์ และ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เล็งเห็นผลแล้วว่าถึงอย่างไรรัฐสภาตีตกแน่นอน แต่หวังผลทางการเมืองมากกว่า หวังให้ม็อบมีมุกใช้สำหรับการเคลื่อนไหว

“ปิยบุตร” ตอบคำถามภายหลังทราบผลการออกเสียงว่า ไม่อาจประเมินความรุนแรงจากผลการลงมติครั้งนี้ได้ เพราะไม่ใช่ผู้กำกับ ไม่ใช่คนตัดสินหรือควบคุม แต่เชื่อว่าสังคมหรือแม้กระทั่งสมาชิกรัฐสภาก็คงคาดได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมาหรือไม่อย่างไร เพราะว่าหลายเรื่องเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน หลายเรื่องการชุมนุมเขาก็เรียกร้องในเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญ จนถึงวันนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว สำเร็จหรือไม่ประชาชนคงเห็นได้ เราแก้เพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างระบบเลือกตั้งเท่านั้น”

ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.พรรค แถลงภายหลังรัฐสภามีมติไม่รับคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า "การอภิปรายนานกว่า 16 ชั่วโมง ไม่ถือว่าสูญเปล่าเสียทีเดียว วันหนึ่งเมื่อเรามองมาจากอนาคต ไม่ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง คิดว่าเป็นโอกาสทองหรือโกลเดน โมเมนต์ ที่ทำให้มีวาระที่เราสามารถถกแถลงอย่างเป็นทางการอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน คิดว่าประชาชนที่ได้ฟังคำชี้แจงและเหตุผลของทั้งสองฝ่ายก็น่าจะพอพิพากษาหรือตัดสินใจได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรจะเป็นอนาคตของประเทศนี้ในการแก้ปัญหา

   "พรรคก้าวไกล และผมในฐานะหัวหน้าพรรค พร้อมที่จะนำข้อเสนอ โดยอยากให้ฝ่ายนโยบายของพรรคเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง เอาข้อเสนอของประชาชนฉบับนี้เป็นนโยบายทางการเมืองในการหาเสียงต่อไป และหวังว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนที่เชื่อและเห็นด้วยกับสิ่งที่ผู้ยื่นได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้เข้ามา และเราจะผลักดันแก้ไขให้ความฝัน ความหวัง ของทุกคนเป็นจริงได้ในสักวันหนึ่ง"  นายพิธากล่าว

จากประโยคนี้ ฟันธงได้ว่าหลังจากนี้จะมีการหยิบยกประเด็นการตีตกรัฐธรรมนูญนี้ไปเคลื่อนไหวต่อ อย่างน้อยๆ มีประเด็นว่า เป็นการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ไม่ยอมให้ ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนเป็นผู้ตรวจการตรวจสอบกองทัพ ศาลยุติธรรม ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายรัฐบาลก็เคลื่อนไหวดักคอไว้ว่า “ปิยบุตร” กับ  “พริษฐ์” ต้องรู้จักถอดบทเรียนหาสาเหตุที่ร่างรัฐธรรมนูญนี้ถูกตีตก เมื่อตกผนึกได้แล้วก็สามารถเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาใหม่ ไม่จำเป็นต้องลงถนนเรียกร้องแต่อย่างใด

หากสังเกตให้ดีจะพบว่าแนวร่วมเห็นด้วยให้ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และการปฏิรูปประเทศ มีอยู่มาก เพราะเวลาได้พิสูจน์แล้วว่ารัฐบาลขาดความจริงใจที่จะทำ และไม่มีความคืบหน้า ฉะนั้น ถ้าในอนาคตเคลื่อนไหวเรื่องนี้ส่งร่างรัฐธรรมนูญ ขอแก้ไขให้ยุบหมวดดังกล่าวมีโอกาสสำเร็จ

ในทางกลับกัน ถ้าเลือกลงถนนทำให้เกิดความรุนแรงเพื่อให้ได้สิ่งที่เรียกร้อง ต้องคิดให้ดีว่า 1.ม็อบจะจุดติดหรือไม่ 2.จะเสียแนวร่วมเพิ่มอีกหรือไม่

การเปลี่ยนแปลงต้องอาศัยความใจเย็น สุขุม ลุ่มลึก อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า มันถึงจะประสบผลสำเร็จ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวต่อไป ‘รทสช.’ ปี 2568 ติดสปีดผลงาน-โกยคะแนน

ต้องฝ่าฟันมรสุมกันระลอกใหญ่ส่งท้ายปี 2567 สำหรับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จากพรรคน้องใหม่จนถึงปัจจุบันสู่ปีที่ 3 แล้ว ภายใต้การนำของ “พี่ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค ซึ่งพรรคได้โควตาร่วมทัพรัฐบาลเพื่อไทย และได้กระทรวงที่หมายปองมาครอบครองสมใจ

การเมืองไทยปี 68 เข้มข้น-ขับเคี่ยว-ร้อนแรง ซักฟอกมี.ค.-ปรับครม.กลางปี

การเมืองไทยไม่ว่าปีไหนๆ ก็มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นได้ตลอด บางเรื่องเกิดขึ้นตามปฏิทินการเมือง แต่บางประเด็นเป็นความร้อนแรงที่แทรกขึ้นมาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

'ปชน.'ถอย'ม.112'แลกอุดมการณ์ เพิ่มคะแนนนิยม'เท้ง'เฉือน'อิ๊งค์'

ผลสำรวจความเห็นของประชาชน 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หัวข้อ ความนิยมทางการเมือง ในไตรมาส 4 ปลายปี 2567 ให้ผลที่น่าสนใจ เมื่อ 'เท้ง’- นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) เป็นนักการเมืองที่ประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุดอันดับ 1

ปี67‘อดีตสว.’ขยับสะเทือนถึงรัฐบาล ถอดถอน‘เศรษฐา’ที่มาของหลายเรื่อง

การเมืองรอบปี 2567 เหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดต้องยกให้กับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้ “แพทองธาร ชินวัตร” กลายเป็นนายกฯ หญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย และทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นตามมา วันนี้จึงขอบันทึกเรื่องราวนี้ไว้ ยกให้เป็นเหตุการณ์แห่งปี

สวมบท'อินฟลูอาเซียน' จุดเสี่ยงใช้ประเทศเดิมพัน?

ยืนยันชัดเจนจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หลังโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Anwar Ibrahim พร้อมรูปภาพคู่กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี