
วันพุธที่ 17 พ.ย.นี้ ที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะลงมติวาระแรกว่าจะ รับหลักการ-ไม่รับหลักการ ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับภาคประชาชน หลังที่ประชุมร่วมรัฐสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีการอภิปรายถกเถียง-ดีเบต-เห็นด้วย-คัดค้าน เนื้อหาในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวตลอดทั้งวันอังคารที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่งบางช่วงบางตอนของการอภิปรายที่มีทั้งสนับสนุนและคัดค้านร่างแก้ไข รธน.ดังกล่าว ก็เป็นไปตามความคาดหมาย ที่มีสมาชิกรัฐสภาบางส่วนโดยเฉพาะ ส.ว. อย่างนาย กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ที่มีการปะทะฝีปาก-เชือดเฉือนคารมกับแกนนำกลุ่มรีโซลูชั่น ที่เป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวล่ารายชื่อประชาชน อย่าง ปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า-อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ อย่างดุเดือด-เผ็ดร้อน จนเกิดวิวาทะทำเอาห้องประชุมรัฐสภาร้อนระอุ ไม่ว่าจะเป็น เนรคุณแผ่นดิน-ล้มล้างสถาบันฯ-ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ที่ก็ไม่ผิดความคาดหมายอยู่แล้ว ที่จะเห็นซีนดังกล่าว เพราะรู้กันดีว่า แนวทางการเมืองของแกนนำกลุ่มรีโซลูชั่น อย่าง ปิยบุตร-พริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม และชลธิชา แจ้งเร็ว อยู่คนละขั้วกับกลุ่ม ส.ว.ชุดปัจจุบันและพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพลังประชารัฐอยู่แล้ว จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องการเชือดเฉือนคารมจนทำให้การประชุมร่วมรัฐสภา เรื่องการแก้ไข รธน.รอบนี้ มีสีสัน เข้มข้น และอัดแน่นด้วยข้อมูล ความเห็นเชิงรัฐศาสตร์-นิติศาสตร์ ที่น่าสนใจในหลายแง่มุม
อย่างไรก็ตาม มีการประเมินกันตั้งแต่ก่อนที่จะมีการประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแล้วว่า โอกาสที่ร่างแก้ไข รธน.ดังกล่าว ที่มีเนื้อหา
ล้ม-โละ-เลิก-ล้างระบอบประยุทธ์
และโครงสร้างอำนาจต่างๆ เช่น วุฒิสภา-ศาลรัฐธรรมนูญ-องค์กรอิสระ ไม่น่าจะไปไกลเกินกว่าแค่ได้เสนอต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวาระแรก เพราะด้วยเนื้อหาในร่างแก้ไข รธน.หลายประเด็น โดยเฉพาะที่พุ่งเป้าตรงไปที่การเสนอให้ประเทศไทยใช้ระบบ สภาเดี่ยว คือมีแต่สภาผู้แทนราษฎร ไม่ต้องมีวุฒิสภา ที่ก็คือการ ล้มกระดานสภาสูง ทั้งหมด ทำให้ ส.ว.ชุดปัจจุบันต้องพ้นสภาพ ไม่มีสถานะเป็นส.ว.ผู้ทรงเกียรติอีกต่อไป
จึงเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายแม้แต่คนในกลุ่มรีโซลูชั่นก็รู้ดีว่า ทำให้โอกาสที่จะเกิดแรงต้านในกลุ่ม ส.ว.ย่อมมีสูง เพราะส.ว.คงไม่โหวตรับร่างแก้ไข รธน.ที่ทำให้ตัวเองพ้นสภาพไป ดังนั้น ด้วยเงื่อนไขของการแก้ไข รธน.ที่นอกจากจะต้องได้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งจากสมาชิกรัฐสภาที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว ในเสียงเห็นชอบดังกล่าว ยังต้องได้เสียง ส.ว.ลงมติด้วยไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือประมาณ 84 เสียง จึงเป็นเรื่องที่ยากในการเข็นให้ได้ไปต่อในวาระสองและวาระสาม
ยิ่งเมื่อได้ยินได้ฟังเนื้อหาการอภิปรายทักท้วงร่างแก้ไข รธน.ดังกล่าว จาก ส.ว.ร่วมยี่สิบคนที่อภิปรายตลอดทั้งวัน โดยเน้นไปที่การอภิปรายท้วงติงข้อเสีย-จุดอ่อนของร่างแก้ไข รธน.ดังกล่าว ทั้งเรื่องผลเสียของข้อเสนอให้ฝ่ายนิติบัญญัติประเทศไทยใช้ระบบสภาเดี่ยว ไม่ต้องมีสภาพี่เลี้ยงอย่างวุฒิสภาอีกต่อไป-การไม่เห็นด้วยกับโครงสร้างและกระบวนการคัดเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและกรรมการองค์กรอิสระ-การยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ-การอภิปรายว่าผู้ทำพิมพ์เขียวร่างแก้ไข รธน.ดังกล่าว มีความแค้นส่วนตัวทางการเมืองกับกลุ่มองค์กรที่ถูกเสนอให้ ล้ม-โละ-เลิก-ล้าง เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเคยถูกตัดสินคดียุบพรรคและโดนตัดสิทธิการเมืองสิบปี เป็นต้น
หลังหลายคนเห็นท่าที-การอภิปรายของ ส.ว. ในห้องประชุม ต่างจับสัญญาณการเมืองไปในทางเดียวกันว่า โอกาส ส.ว.จะคว่่ำร่างแก้ไข รธน.ดังกล่าวจึงมีสูง
จนดูแล้ว เรื่องว่า ส.ว.คนไหนจะงดออกเสียงหรือจะลงมติไม่รับหลักการ ไม่น่าสนใจเท่าไหร่แล้ว แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ จะมี ส.ว.คนไหน ลงมติรับหลักการหรือไม่ ที่หากมีก็อาจทำให้ ส.ว.คนดังกล่าว ถูกเพื่อน ส.ว.ด้วยกันเองมีอาการตึงๆ เข้าใส่แน่นอน ส่วนจะมีหรือไม่ และจะเป็นใคร ก็ต้องรอลุ้น หรือสุดท้าย ส.ว.ทั้งหมด จะไม่มีใครแตกแถวเลยสักคนเดียว ให้รอดูการขานชื่อลงมติรายบุคคลกันต่อไป
แม้ก่อนเริ่มประชุมปิยบุตรและคณะจะไปแถลงข่าวดักทาง ส.ว.ไว้ก่อนแล้วว่า ควรเปิดใจกว้างลงมติรับหลักการร่างแก้ไข รธน.ดังกล่าว
"สำหรับ ส.ว. เข้าใจดีว่าอาจเป็นเรื่องยากลำบากที่จะโหวตเห็นชอบในชั้นรับหลักการได้ แต่เชื่อว่าคงมี ส.ว.ที่ตระหนักถึงประโยชน์ประเทศชาติ ประชาชนเป็นหลัก และ ส.ว.ดำรงตำแหน่งอย่างไม่ถูกต้องชอบธรรมมานานแล้ว บางคนเป็นมาตั้งแต่รัฐประหาร 2549 ถ้า ส.ว.ต้องการมีบทบาททางการเมืองต่อไป เรามีสนามทางการเมืองหลายสนาม รวมถึงการดำรงตำแหน่งในองค์กรต่างๆ ในอนาคต ในเมื่อที่มาของคุณไม่ชอบธรรม
ส.ว.ต้องเสียสละลงมติยุบ ส.ว.ทิ้งไป เข้ามาสู่ระบบปกติ อย่าปล่อยให้ ส.ว.แบบนี้ดำรงอยู่ต่อไป หลายคนบอกว่ายาก แต่ตนยังหวัง ถ้าประชาชนช่วยกันส่งเสียง อย่างน้อย ส.ว.ต้องฟัง ให้สมกับที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่า ส.ว.เป็นหนึ่งในผู้แทนของปวงชนชาวไทย” แกนนำกลุ่มรีโซลูชั่น ปิยบุตรแถลงไว้นอกห้องประชุมรัฐสภา
เช่นเดียวกันกับต้องจับตาดูว่า ท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาล จะมีการลงมติในร่างแก้ไข รธน.ฉบับนี้อย่างไร หลังพรรคร่วมฝ่ายค้านผนึกกำลังแน่น ประกาศจะลงมติรับหลักการร่างแก้ไข รธน.ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
โดยในส่วนของบางพรรคเช่น พลังประชารัฐ มีการคาดหมายกันว่า เสียงน่าจะออกมาในทางเดียวกัน ไม่น่ามีแตกแถว หลังแกนนำออกมาทักท้วงไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอในร่างแก้ไข รธน.หลายคน แม้จะพบว่ามี ส.ส.พลังประชารัฐบางคนเช่น วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ อภิปรายในเชิงสนับสนุนให้มีการรื้อ-ทบทวนอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญตามร่างที่เสนอมา แต่ไม่เห็นด้วยกับระบบสภาเดี่ยว และการยกเลิกมาตรา 279 ที่นิรโทษกรรมคณะ คสช.
ผลการลงมติออกเสียงของสมาชิกรัฐสภาทั้ง ส.ส.-ส.ว.ในวันที่ 17 พ.ย. จะออกมาแบบไหน จะมีใครลงมติแบบเซอร์ไพรส์หรือไม่ เป็นเรื่องน่าสนใจ แม้แวดวงการเมืองจะประเมินว่า เส้นทางร่างแก้ไข รธน.ฉบับดังกล่าวอาจฝ่าด่านสกัดลำบาก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ควันหลงซักฟอก 'อิ๊งค์' เสี่ยงขัดจริยธรรม ‘พรรคส้ม’ รุกฆาตหรือรอฮั้ว ‘พรรคแดง’
ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติโหวตญัตติในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยคะแนนเสียงไว้วางใจ 319 ต่อ 162 เสียง
แบ่งเค้ก“กาสิโน”ลงตัว เร่งเชื้อไฟ-ท้าทายปชช.
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....หรือร่างกฎหมายกาสิโน เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา
เปิดผลสอบ "แพทยสภา" ฟอกขาวหรือเอาผิด หมอรักษา "ทักษิณ"
ในการลุกขึ้นชี้แจงของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ในประเด็นเรื่อง ดีลปีศาจ-การกลับประเทศไทยของทักษิณ ชินวัตร บิดานายกรัฐมนตรี และการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ตำรวจ เป็นเวลา 6 เดือน ทำให้นายทักษิณไม่ต้องรับโทษติดคุกแม้แต่วันเดียว
‘อิ๊งค์’สะกดอารมณ์ฝ่าซักฟอก2วัน รอลุ้นคะแนนโหวต-งูเห่าสมทบ!
ผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ใช้เวลา 2 วัน 24-25 มีนาคม ก่อนลงมติวันนี้ 26 มีนาคม 2568 ซึ่งลีลาของ “นายกฯ อิ๊งค์” ในการแจงข้อซักฟอกถือว่าสามารถสะกดอารมณ์ได้ดี ไม่ปล่อยหมัดเด็ดตรงๆ ใส่ฝ่ายค้าน แต่ใช้ความนิ่งตอบเจ็บๆ ในบางช่วงเช่นกัน
‘ฝ่ายค้าน’ซักฟอก‘นายกฯอิ๊งค์’ ขยายแผล ปูทาง ยื่น 'ป.ป.ช.'
เปิดฉากกันไปแล้ว ศึกซักฟอก อุ๊งอิ๊ง-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้คอนเซปต์ ‘ดีลแลกประเทศ’ วันแรก ไฮไลต์สำคัญ ช่วงเช้าหนีไม่พ้นการเปิดหัวของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และการลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกของ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
10 นาที 'บิ๊กป้อม' ซัด 'ประเทศไม่ใช่เวทีมือสมัครเล่น' อึ้ง!อิ๊งค์ แจงแค่ 10 วินาที
“ประเทศชาติไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ” บิ๊กป้อม เปิดฉากอภิปราย 10 นาที ซัด“แพทองธาร” ไร้ความสามารถทั้งเศรษฐกิจ-ความมั่นคง-จริยธรรม ถูกครอบงำโดยคนในครอบครัว ด้านนายกฯ ชี้แจงสั้นๆ 10 วินาที แค่ประโยคเดียวว่า “ไม่เป็นความจริง”