'ปชป.-ภท.' มองต่างมุม หลังเอเปกร่าง พ.ร.บ.กัญชาเดือดอีก

ไล่เรียงปฏิทินเดือน พ.ย.นี้ วงงานสภาผู้แทนราษฎรไฮไลต์พิจารณาร่างกฎหมายสำคัญอีกฉบับหนึ่งที่สังคมให้ความสนใจ คือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระสองและวาระสาม ซึ่งคาดว่าที่ประชุมสภาจะได้พิจารณาภายหลังจากที่ไทยประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) เรียบร้อยแล้ว โดยการประชุมเอเปกจะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์หน้า

สำหรับร่างกฎหมายกัญชาฯ ค้างคาตั้งแต่สมัยประชุมรัฐสภาครั้งที่แล้ว โดยที่ประชุมสภาเสียงข้างมากมีมติให้ถอนร่าง เพื่อนำกลับไปทบทวนและปรับปรุงมาตรการป้องกันการใช้กัญชาให้รัดกุม แต่ท้ายที่สุดทางคณะ กมธ.ก็ไม่ได้ปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้แต่อย่างใด แม้พรรคการเมืองต่างๆ ที่ทักท้วงจะทำข้อเสนอไปยัง กมธ.ว่าต้องปรับปรุงอะไรบ้างแล้วก็ตาม

โฟกัสที่ความเคลื่อนไหวของ พรรคประชาธิปัตย์ ส่งตัวพ่อ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง เป็นตัวแทนพรรคจุดพลุก่อหวอดคว่ำร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ โดยระบุไว้เมื่อวันที่ 14 ก.ย. แถลงว่า “แม้ที่ผ่านมาพรรคจะเห็นด้วยและรับหลักการร่างกฎหมายนี้ แต่เราหวังว่าจะมีมาตรการรับมือที่เข้มแข็ง โดยให้กัญชาเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ แต่เมื่อพิจารณาร่างกฎหมายที่ กมธ.ทำมาแล้ว เห็นว่ายังมีความหละหลวมอยู่มาก นอกจากนี้ พรรคเห็นว่าร่างกฎหมายดังกล่าวยังเป็นกฎหมายที่ส่งเสริมสนับสนุนเรื่องการปลูกกัญชา และยังอนุญาตให้บุคคลทั่วไปสามารถจดแจ้งปลูกกัญชาได้  ซึ่งเรื่องนี้พรรคเห็นว่าไม่ได้เป็นประโยชน์ทางการแพทย์ แต่อาจจะเป็นเรื่องการเสพเพื่อสันทนาการที่จะเกิดผลกระทบต่อสังคมในระยะยาว” 

เมื่อ กมธ.ถอนร่างออกไปแล้ว “ประชาธิปัตย์” ทำข้อเสนอถึง กมธ. ให้ทบทวนทั้งหมด 13 ข้อ อาทิ ขอให้การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในครัวเรือนต้องเป็นไปตามการวินิจฉัยของแพทย์ กำหนดมาตรการที่เข้มงวดในการขออนุญาตต่างๆ ทั้งคุณสมบัติผู้ขอที่อาจเกี่ยวพันกับการค้ายาเสพติดมาก่อน แต่ไม่เคยต้องโทษร้ายแรง การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ทบทวนการขออนุญาตปลูกกัญชาในครัวเรือนต้องเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังต้องป้องกันการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน กำหนดอายุขั้นต่ำของผู้ที่ได้รับการบำบัดด้วยกัญชาและผู้ที่สามารถสูบกัญชา กัญชง ทบทวนอำนาจรัฐมนตรีสามารถสั่งไม่อนุญาตหรือไม่ต่อใบอนุญาต ต้องไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปซื้อกัญชา สารสกัดกัญชาได้โดยเสรี รวมทั้งจะต้องมีกฎหมายควบคุมการซื้อขายอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสูบกัญชา เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขณะนี้ กัญชา ถูกปลดออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 เรียบร้อยแล้ว แต่ยังติดแหง็กกับร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว เพราะฝั่ง พรรคภูมิใจไทย พรรคต้นตำรับนโยบายนี้ เห็นว่ามีมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างดีรัดกุมแล้ว เวลาเดียวกัน หลายพรรคท้วงติงว่ายังหละหลวม โดยเฉพาะ “ประชาธิปัตย์” และ “เพื่อไทย” มีความเป็นห่วงเรื่องการใช้กัญชาในครัวเรือนได้อย่างเสรี ไร้การควบคุม เพราะอนุญาตให้ปลูกได้ครัวเรือนละ 15 ต้น ซึ่งจะกลายเป็นการใช้สำหรับสันทนาการไม่ใช่เพื่อทางการแพทย์อย่างที่ “ภูมิใจไทย” ตั้งใจไว้ 

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ แม้มีข้อห้ามไม่ให้เสพในที่สาธารณะก็ตาม แต่เกิดคำถามว่า การอนุญาตให้ปลูกกัญชาไว้หลังบ้าน เสมือนเป็นพริก ข่า ตะไคร้ สะดวกจะเก็บเมื่อไหร่ก็ได้นั้น ในภาคปฏิบัติมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่รัฐจะควบคุมได้ ไม่ให้ใช้เพื่อสันทนาการ 

เท่ากับว่าตอนนี้ใครใคร่ปลูกปลูก ใครใคร่เสพเสพ ใครใคร่ขายขาย ใครใคร่ยำยำ จน “ส.ส.สาทิตย์” ชี้ว่าเป็นกัญชาเสรี “สุดขั้ว” นี่ยังไม่นับปัญหาการวางขายกัญชาและอุปกรณ์การเสพเกลื่อนถนน

ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้คือ การที่ภาคเอกชนตลอดจนประชาชนรายย่อยลงทุนปลูกกัญชาหลักแสนหลักล้านบาทเพื่อรอกฎหมาย จะทำอย่างไร เรื่องนี้ “สาทิตย์” กล่าวไว้ว่า “กระทรวงสาธารณสุขส่งสัญญาณผิดพลาดไปยังประชาชน ส่งเสริมให้ปลูก โดยนำตัวเลขรายได้มาชักจูงใจ แต่สุดท้ายเมื่อไปขายให้กับโรงพยาบาลกลับไม่ได้ตามที่พูดไว้

ทั้งนี้ สาทิตย์ เผยด้วยว่า ในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ที่จะมาถึง จะอภิปรายให้นำกัญชากลับเข้าไปในบัญชียาเสพติดเหมือนเดิม และก็ไม่ต้องห่วง เพราะแม้จะกลับไปเป็นยาเสพติดก็ยังใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ เนื่องจากของเดิมๆ ไทยก็อนุญาตให้ใช้ในทางการแพทย์อยู่แล้ว แต่เขาทำด้วยความระมัดระวังเท่านั้น รวมถึงจะเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขออกระเบียบเปิดเผยด้วยว่ามีใครบ้างที่จะปลูก

ท้ายสุด “สาทิตย์” บอกให้ติดตามเรื่องนี้ให้ดี เพราะในการอภิปรายจะมีเปิดเผยเบื้องหลังอะไรบางอย่าง!!!

ขณะที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีการประชุมที่ผ่านมาแล้ว คือ เห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมาก เพียงแต่ย้ำว่ากฎหมายฉบับดังกล่าวมีการแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนมาก จึงเปิดโอกาสให้ ส.ส.แสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ มติจะเป็นอย่างไรก็ต้องฟังเหตุผลในสภา 

“อยากให้พิจารณาโดยรอบคอบ โดยไม่เอาผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นตัวตั้ง แต่ยึดหลักกฎหมายพิจารณากฎหมายให้เกิดกับประชาชนในระยะยาวเป็นตัวตั้ง ทุกฝ่ายต้องเคารพมติสภา หากชนะก็ส่งให้ ส.ว. หากไม่ชนะก็ตกไป” รองประธานวิปรัฐบาลกล่าว

จับตาหลังประชุมเอเปก ที่ประชุมสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ เดือดระอุอีกแน่!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล

การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า

'ต๊ะ นารากร' หวังเป็นม้ามืด ปชป. ปักธงเขต 1 เชียงใหม่ แม้สู้กันดุเดือด

น.ส.นารากร ติยายน ให้สัมภาษณ์ถึงการลงสมัครเลือกตั้ง สส.เชียงใหม่เขต 1 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนพึ่งตัดสินใจในการลงสมัคร สส. หลังจากที่มีการยุบสภา คิดมาเป็นปีที่จะมีการลงเล่นการเมือง เพราะที่ผ่านมาเคยไปสมัคร สว. มาแล้วแต่ตกรอบ

ภูมิใจไทยพลัส-เปิดเกมใหญ่ ชูรัฐมนตรีคนนอก ลุยเลือกตั้ง

บรรยากาศการเมืองปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 เดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดรับสมัคร สส.ปลายเดือนธันวาคม ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวผู้สมัคร นโยบายหาเสียง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย

เซอร์ไพรส์! พิธีกรดัง 'นารากร ติยายน' สวมเสื้อ ปชป. ชิง สส.เชียงใหม่

นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคพื้นที่เหนือ เปิดเผยว่า ในส่วนผู้สมัครสส.ภาคเหนือ ที่ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหาร(กก.บห.)พรรคฯ เรียบร้อยแล้ว มีดังนี้