ว่ากันว่า “คนไทยลืมง่าย” แต่สำหรับกรณี เหตุการณ์ความรุนแรงกรือเซะ และ เหตุการณ์สลายการชุมนุมตากใบ ยังคงตรึงอยู่ในใจและความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ของประเทศ
1-2 วันที่ผ่านมา เหตุการณ์กรือเซะ-ตากใบ ดังกระหึ่มขึ้นอีกรอบ เมื่อมีความเคลื่อนไหวจาก นายหัวเมืองตรัง ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา
ทักษิณ ชินวัตร ฟ้องคดีหมิ่นประมาท “ชวน” กรณีระบุว่า “ทักษิณ” ทำงานผิดพลาดเกี่ยวกับกระบวนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการบรรยายงานโรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2555
โดยนายชวนกล่าวตอนหนึ่งว่า "เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีกลับใช้คำว่าโจรกระจอก และมียกเลิกศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) หันมาใช้นโยบาย “ฆ่าหมดก็จบ” ตรงนี้คือที่มาของการนองเลือดในปัจจุบันนี้"
เวลาได้ล่วงเลยจนคดีเกือบจะหมดอายุความ ในวันที่ 28 ต.ค.2565 แต่ระหว่างนั้น ราเมศ รัตนะเชวง ศิษย์ก้นกุฏิประธานชวน ได้รับการติดต่อจากพนักงานสอบสวนว่า ให้ไปพบพนักงานอัยการในวันที่ 25 ต.ค.2565 เพื่อนำตัวส่งพนักงานอัยการเพื่อส่งตัวฟ้องศาล
ขณะที่ ชวน ก็ไม่ปล่อยให้คดีหมดอายุความ ทั้งที่สามารถหาช่องว่างทางกฎหมายประวิงเวลาได้ โดยชวนเปิดเผยว่า “ถ้าต้องรอหมาย คดีอาจจะขาดอายุความได้ และจะส่งผลให้ตำรวจและอัยการเสียหาย ส่วนตัวถือหลักว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเท่าเทียมกัน จึงได้ขอให้นายราเมศประสานตำรวจและอัยการ และขอให้อัยการดำเนินการฟ้องร้องตนเองเพื่อไม่ให้อายุความขาด และเมื่อถูกกล่าวหาก็มีหน้าที่สู้คดีไปตามกระบวนการ ทำให้ขณะนี้อัยการมีการสั่งฟ้องเป็นที่เรียบร้อย และได้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือในฐานะผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ส่วนกรณีหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาที่ยังไปไม่ถึงตนนั้น เพิ่งได้รับรายงานเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาว่าหมายดังกล่าวเพิ่งไปถึงที่บ้านที่จังหวัดตรัง”
ย้อนเหตุการณ์ความไม่สงบด้ามขวานไทย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เม.ย.2544 เกิดเหตุวางระเบิดที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ รัฐบาลขณะนั้นสั่งการให้จัดการกวาดล้างให้หมด ต่อมาวันที่ 4 ม.ค.2547 เกิดการปล้นปืนขึ้นที่ค่ายปิเหล็ง หรือกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
จากนั้นจึงเกิด เหตุล้อมยิงผู้ก่อความไม่สงบ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.47 ที่มัสยิดกรือเซะ จ.ปัตตานี ซึ่งในครั้งนั้นเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าทางการไทยทำเกินกว่าเหตุ
ขณะที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ในเวลานั้นเป็นรองผู้อำนวยการกองกำลังความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ซึ่งเป็นผู้สั่งการให้ลงมือใช้อาวุธยิงเข้าไปในมัสยิดกรือเซะ
หลังจากนั้นไม่นาน ความรุนแรงเกิดขึ้นอีกครั้ง ในวันที่ 25 ต.ค.47 สลายการชุมนุมที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ประชาชนบุกล้อมหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอ (สภ.อ.) ตากใบ เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) 6 คน เพราะถูกสงสัยว่าเกี่ยวพันกับอาวุธปืนที่หายไป แต่ชาวบ้านเห็นว่าไม่ผิด
สถานการณ์ตึงเครียดเกิดการปะทะกันของสองฝั่ง จนต้องสั่งสลายการชุมนุม ชาวบ้านถูกจับถอดเสื้อ มัดมือไขว้หลัง และโดนสั่งให้ขึ้นไปยังรถบรรทุกของทหารทีละคนและนอนทับๆ กันเป็นชั้น ระหว่างเดินทางไปค่ายอิงคยุทธบริหารมีคนหายใจไม่ออก และทำให้มีคนเสียชีวิต จำนวน 78 ราย
นับแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ยังมีความไม่สงบเกิดขึ้นเป็นระยะ
อย่างไรก็ตาม จากการที่ “ชวน” ยอมขึ้นศาลครั้งนี้ ข้อเท็จจริงทั้งหมดจะถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง โดย นายราเมศ ระบุว่า "งานนี้รับประกันน่าติดตามชมไม่น้อยกว่าคดียุบพรรค และคดีทุจริตจำนำข้าว เพราะข้อเท็จจริงทั้งหมดในสมัยรัฐบาลทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่กรือเซะ เหตุการณ์ที่ตากใบ เหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เหตุการณ์จากการปราบปรามยาเสพติด จะถูกยกขึ้นมาชำแหละอีกรอบหนึ่งผ่านคดีนี้อย่างแน่นอน"
นอกจากนี้ยังต้องจับตาว่า “ทักษิณ” จะถูกดำเนินคดีในข้อหาฆาตกรรมเพิ่มขึ้นอีกกี่คดีหรือไม่ อย่างไร ตามที่ ถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดีตั้งข้อสังเกตไว้
สำหรับการสืบพยานต่างๆ ในคดีหมิ่นประมาทนี้ เลี่ยงไม่ได้ว่าจะต้องพูดถึงพฤติกรรมโจทย์ระหว่างบริหารประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทั้ง เหุตการณ์กรือเซะ ตากใบ สงครามปราบปรามยาเสพติด อาจทำให้ความเป็นไปได้ของ “ทักษิณ” ที่ฝันอยากจะกลับบ้านมาเลี้ยงหลานห่างไกลออกไปจากเดิม เพราะประชาชนจะถูกสะกิดความรู้สึกถึง ตราบาป ของระบอบทักษิณขึ้นมาอีกครั้ง ยิ่งถ้าคำพิพากษาเป็นบวกกับจำเลย ก็จะเกิดเอฟเฟกต์ทางการเมือง ทำให้โอกาส “ทักษิณ” จะกลับบ้านมาเลี้ยงหลานยากขึ้น
นี่ยังไม่นับการที่ รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พรรคร่วมฝ่ายค้านเดียวกัน เปิดนโยบายของพรรค “จะนำรัฐบาลไทยให้สัตยาบันรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC เพื่อชำระสะสางคดีอาชญากรรมที่รัฐกระทำต่อประชาชน” ขืน “ก้าวไกล” ได้เป็นรัฐบาล ผลักดันเรื่องนี้จนสำเร็จ “โทนี่” คงชอกช้ำใจน่าดู
ดังนั้นคดีนี้จึงน่าสนใจ ความเคลื่อนไหวแรกนับจากนี้ โดย “ราเมศ” เผยว่า วันที่ 14 พ.ย.นี้ ได้มีการนัดตัวแทนของ 2 ฝ่ายพูดคุยเรื่องคดี และวันที่ 16 ม.ค.2566 นัดให้ฝั่งจำเลยยื่นเอกสาร ส่วนเรื่องสืบพยานนัดแรกศาลจะเป็นผู้กำหนด
เขาทิ้งท้ายด้วยว่า บัณฑิต ศิริพันธุ์ (ฉายา 'ทนายเทวดา") จะรับเป็นทนายความในคดีนี้ และมีตนเป็นผู้ช่วยทนาย
งานนี้ต้องจับตาอย่ากะพริบ!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'จักรภพ' ดิ้น! แจงวาทกรรม 'ผู้มีอำนาจเดิม' หมายถึง ระบบราชการ
นายจักรภพ เพ็ญแข ได้โพสต์ข้อความอธิบายถึงประเด็นดังกล่าวอีกว่า งานตัดต่อคำพูดยาวๆ ให้ลดเหลือเพียง 1-2 ประโยคของเนชั่นทีวีเมื่อวันก่อน ทำให้มีคนเข้าใจผิดผมมากอยู่ เพราะประโยคที่เหลือนั้นมีใจความว่า
ปักหมุด‘ครม.สัญจร’เชียงใหม่ กู้ศก.-ฟื้นท่องเที่ยวหลังภัยพิบัติ
ประเดิมนัดแรก “ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่” หรือ “ครม.สัญจร” ของรัฐบาล “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จังหวัดเชียงใหม่ บ้านเกิดตระกูลชินวัตร
ตั้งแท่นงบฯเรือฟริเกตทร. จับตาเกมเตะถ่วง"เรือดำน้ำ"
แม้กระแสข่าวเล็กๆ ที่สร้างความชุ่มชื่นหัวใจให้กับกองทัพเรือ (ทร.) ว่ารัฐบาลอาจจะไฟเขียวเดินหน้า “เรือดำน้ำจีน” ต่อไป หลังจาก “อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม
'เทพไท' ชี้เป้า 200 ส.ส. ของทักษิณ เป็นไปได้ยาก
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" ระบุว่า ผล อบจ.อุดรธานี ไม่ได้ชี้วัดเป้า200 ส.ส.ของทักษิณ
ติดสลักกม.ประชามติ รธน.ใหม่ส่อลากยาว
สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ได้ข้อสรุปหลักเกณฑ์ที่จะใช้สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรียบร้อย โดยให้ยึดเสียงข้างมาก 2 ชั้น กล่าวคือ 1.ต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด และ 2.ต้องได้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ์