ภท.ตอกเสาเข็มเมืองหลวง สู่พรรคหลักต้นขั้วการเมือง

แม้ในที่สาธารณะจะยังไม่มีการยอมรับอย่างเป็นทางการ  หลังมีกระแสข่าวว่า  "เสี่ยบี"  นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) และอดีตแกนนำกทม. พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ขออาสามาตอกเสาเข็มพื้นที่กรุงเทพฯ ให้แก่พรรคภูมิใจไทย  ขณะที่ตัว "เสี่ยบี" ก็ยังไม่ออกมายืนยัน หรือปฏิเสธ กับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น    

แต่ในแวดวงการเมือง กระบวนการดังกล่าวมีการประสานและพูดคุยกันสักระยะ เพื่อรองรับเลือกตั้งในอีก 5-6 เดือน สะท้อนได้จากหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรองนายกฯและรมว.สาธารณสุข  ยอมรับว่าได้พูดคุยกับ  "เสี่ยบี" จริง   และหวังใช้บริการมาอุดช่องว่าง และ จุดอ่อน ในพื้นที่เมืองหลวง  

" ตอนนี้ยังคุยทั่วไปกันอยู่ ยังไม่ลงรายละเอียด และต้องดูว่านายพุทธิพงษ์ มีข้อจำกัดอะไรหรือไม่ และถ้าคุยกันแล้วช่วยงานกันได้ไม่มีข้อจำกัด หรือหากมีข้อจำกัดก็สามารถช่วยงานได้ในฐานะคณะทำงาน และหากทำแล้วเกิดประโยชน์กับพรรค และบ้านเมืองก็ไม่น่าเป็นการเสียเวลาที่จะคุย"  หัวหน้าพรรรคภูมิใจไทย กล่าว 

อย่างไรก็ตาม แม้พรรคเลือดน้ำเงิน ที่ผ่านมาจะมี ส.ส.กทม. อยู่บ้าง  แต่ก็ไม่ได้เกิดจากผลผลิตและกระบวนการเลือกตั้งของพรรค    แต่มาเพราะแรงดูดหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ   และ ส.ส.เหล่านี้แม้จะทำพื้นที่ ในเวลานี้ แต่ก็ไม่แน่ใจจะได้กลับมาหรือไม่ เพราะเที่ยวที่แล้วเข้ามาในสภาฯได้เพราะกระแสพรรคพลังส้ม 

ฉะนั้น การมาของ “เสี่ยบี" จึงตอบโจทย์  ที่ตรงสเปค เพราะกำลังหาคน ที่อาสามาปักหมุดพื้นที่เมืองหลวง สู่เป้าหมายพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่จำเป็นจะต้องส่ง ส.ส. ให้ครบทั้งประเทศทั้งระบบเขต และ บัญชีรายชื่อ

สอดรับกับการทำงานของพรรคผ่านกระทรวงคมนาคม ก็ผลักดันงานต่างๆให้แก่คนกรุงเทพ  อาทิ ผลักดันรถเมล์ไฟฟ้า  รถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน   ตรวจสอบสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว  และไม่ยอมเสียค่าโง่โฮปเวลล์ หลายหมื่นล้านบาท 

เช่นเดียวกับ ความต้องการของ แกนนำกทม.สายกปปส. ผู้นี้  ก็ต้องการหาพรรคใหม่  หวังต่อท่ออำนาจทางการเมือง  หลังโบกมือลาระบอบพี่น้อง 3 ป. เพราะเจ็บปวด เมื่อต้องเดินเข้าเรือนจำ ในคดีเป็นแกนนำ กปปส. ชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์   และทำให้ตัวเอง ต้องหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรี และ พ้นสภาพการเป็น ส.ส. อีกด้วย

ส่วนสาเหตุที่ของมาที่นี่ เพราะมองว่า ภูมิใจไทย เป็นพรรคที่เป็นเอกภาพ  ไม่มีความขัดแย้ง หรือแทงหลังกันเอง  ระบอบการบริหารจัดการและท่อน้ำเลี้ยงในพรรคดีเยี่ยม

ที่สำคัญกติกาชัดเจน "พูดแล้วทำ"  หากผู้ใด หาจำนวน ส.ส.ได้ตามเป้าหมาย หรือ ได้ ส.ส.ยกจังหวัด    ก็ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีตอบแทน 

 ดังที่ "อนุทิน" รับคำท้าและเคยประกาศเอาไว้ เมื่อไปเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในหลายพื้นที่อาทิ  ศรีสะเกษ  พิจิตร   ขอนแก่น  กระบี่ พังงา   ลพบุรี เป็นต้น   จึงทำให้เป็นพรรคที่เนื้อหอมที่สุด มีแต่เลือดไหลเข้า ไร้เลือดไหลออก  แตกต่างจากพรรคการเมืองปีกขั้วรัฐบาล 

ซึ่ง "เสี่ยบี" ก็รู้เงื่อนไขของพรรคเลือดน้ำเงินเป็นอย่างดี  จำเป็นจะต้องมี  ส.ส. ในมือเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย   แม้ตัวเอง จะยังคลุมเครือว่าขาดคุณสมบัติจะลงสมัคร ส.ส.ได้หรือไม่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีตัวแทนมาทำงานให้

ตามข่าวก็มีอย่างน้อย 3  ส.ส. พปชร. ประกอบด้วย นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. (บางพลัด) นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส.กทม. (ลาดพร้าว) นายประสิทธ์ มะหะหมัด ส.ส.กทม.(สะพานสูง) เป็นต้น มาจะเดินตามมาด้วย 

เนื่องจาก ส.ส.เหล่านี้ และ อีกหลายคนในพปชร.   ต้องหาทางหนีทีไล่  หลังเผชิญความนิยมตกต่ำเพราะติดภาพของระบอบสืบทอดอำนาจ   การเลือกตั้งซ่อมกทม. หรือ เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ก็แพ้แบบถล่มถลาย  

ประกอบกับความไม่ชัดเจนของพี่น้อง 3 ป.  โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะตัดสินอนาคตทางการเมืองอย่างไร หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นับอายุการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่ปี 2560 และคาดว่าจะสามารถเป็นนายกฯได้ถึงปี 2568 หรือ เป็นได้อีก 2 ปีเท่านั้น แตกต่างแคนดิเดตพรรคการเมืองอื่นๆมีอายุใช้งานได้ 4 หรือ 8 ปี   ท่ามกลางกระแสข่าวพี่น้อง3 ป.แตกกันแล้วใช่หรือไม่

กลับมาที่เป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย ในพื้นที่ กรุงเทพฯ ก็ยังไม่หยุดแค่นี้ ตามข่าวก็ยังมี  น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. (ปทุมวัน) ที่จ่อย้ายเช่นกัน ด้วยคอนเนคชั่นพิเศษ   ก็ต้องดูว่าดิวจะลงตัว และ ส่งลง ส.ส.เขตกทม.หรือไม่  หรือ จัดวางตำแหน่งรูปแบบอื่นๆอย่างเหมาะสม ภายใต้กติกา และ ความน่าเชื่อถือของผู้ใหญ่ในพรรค  ที่บริหารจัดการพรรคให้เกิดเอกภาพมาถึงบัดนี้  

เช่นเดียวกับ  นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย  ที่ไม่กลัวกระแสแลนด์สไลด์  กล้าถอดเสื้อแดง เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน   ผ่านการเดินทางมาร่วมอวยพรงานวันเกิดปีที่ 64 ของ นายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ของพรรค ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพราะเชื่อว่าการย้ายมาอยู่พรรคแห่งนี้มีโอกาสเป็นรัฐบาล และกระโดดหนีความแห้งเหี่ยวกับบทบาทฝ่ายค้าน ที่มีแนวโน้มจะสืบทอดต่อไป เพราะคนกรุงกลัวผีระบอบทักษิณ   ที่จะพากลับบ้านโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม   

ดังนั้น กระแสข่าวบรรดา  ..กทม. ไหลเข้ามาอาจยังไม่หยุดเท่านี้ และเชื่อว่ายกระดับจากพรรคระดับภูมิภาคเป็นพรรคระดับชาติ ตอกย้ำเป้าหมาย "อนุทิน" อยากเห็น ภูมิใจไทย เป็น  พรรคหลักต้นขั้วการเมือง  ด้วย ส.ส. 120 เสียง  ขณะที่ "ครูใหญ่"ก็อยากเห็น "ลูกศิษย์" มีโอกาสเป็นนายกฯ.  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แรงต้าน'เสี่ยโต้ง'คุมธปท.แรง ลือสลับไพ่เปลี่ยนตัวปธ.บอร์ด

การที่คณะกรรมการคัดเลือกประธานธนาคารแห่งประเทศและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ธปท. ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เลื่อนประชุมลงมติเลือก ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และกรรมการ ธปท.ผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 ตำแหน่ง จากวันที่ 4 พ.ย.ออกไปอีก 1 สัปดาห์เป็นวันจันทร์ที่ 11 พ.ย. วิเคราะห์ไว้ว่าอาจเกิดจาก 2 สาเหตุ

'อนุทิน' ชี้ MOU 44 ไทย-กัมพูชา ต้องเจรจาจัดสรรทรัพยากรใต้ทะเล ไม่เกี่ยวเกาะกูด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ว่า มีการหารือเรื่องเอ็มโอยู 44

เอ็มโอยู44-เอื้อนายทุน จุดจบรัฐบาลไม่ครบเทอม

หากอ้างอิงข้อมูลจากนิด้าโพลเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา หัวข้อ รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ อยู่ครบเทอมหรือไม่ โดยประชาชนมากกว่า 57.71% มองว่าอยู่ไม่ครบเทอม ประกอบด้วยสัดส่วนร้อยละ

ระแวง-ระวัง “ประโยชน์ทับซ้อน” ถกขุมทรัพย์ไทย-กัมพูชาไปถึงไหน?

การเคลื่อนไหวต่อต้านบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดนและแผนพลังงานเมื่อปี 2544 หรือ MOU44 และการปลุกกระแสการเสียเกาะกูดให้กัมพูชา ถ้ามีการเจรจาผลประโยชน์ระหว่างรัฐบาล 2 ชาติ

"ดีเอสไอ" รับเผือกร้อนต่อ สางคดี "ดิไอคอน" ไม่ใช่เรื่องง่าย

คดีดิไอคอนกรุ๊ปถือเป็นหนึ่งในคดีฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงินที่ใหญ่ระดับประเทศ โดยมีความเสียหายสูงถึงเกือบ 3,000 ล้านบาท จากการที่บริษัทดังกล่าวชักชวนประชาชนให้ลงทุนในสินค้าผลิตภัณฑ์ในลักษณะที่เป็นเครือข่าย