ถึงเวลาปรับครม.ประยุทธ์2/5 โควตาปชป. 'นริศ' มาแรง

โผปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) “ประยุทธ์ 2/5” มีออกมารายวัน ตามที่แต่ละสำนักจะได้ยินมาอย่างไร จะวัดว่าใครเฮี้ยนกว่ากันก็วันที่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น

เดิมเก้าอี้เสนาบดีว่างลง 2 ตำแหน่ง โดยเป็นเอฟเฟกต์มาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อปี 64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ปรับฟ้าผ่าเปรี้ยง ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อเป็นการกำราบ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันยังคงไม่ได้แต่งตั้งใครเข้ารับตำแหน่งดังกล่าว

กระทั่งในศึกซักฟอกที่เพิ่งผ่านมาเมื่อครั้งปี 65 ฝ่ายค้านจัดหนัก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีพฤติกรรมส่วนตัวไม่เหมาะสม ทำร้ายจิตใจภรรยา สบช่องอีกฝั่งเขย่าเก้าอี้   

รวมถึง “บิ๊กป๊อก”-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถ้ายังจำกันได้ เขาได้รับคะแนนไม่ไว้วางใจมากที่สุด อันเนื่องมาจาก ส.ส.กลุ่มปากน้ำของพรรคพลังประชารัฐโผล่ลงมติสวน โหวตไม่ไว้วางใจ

เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็นโควตาของ “พลังประชารัฐ” ฉะนั้นเวลานี้ภายในพรรคก็กำลังรวบรวมพลังภายในแย่งชิงกันอยู่ แต่สุดท้ายจะมีการปรับหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับ “พล.อ.ประยุทธ์” อยู่ดี

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง “พรรคภูมิใจไทย” แม้ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลจากกรณีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขต จ.ปราจีนบุรี และมีเสียงเรียกร้องให้ออกจากตำแหน่ง “เสมา 3”

แต่แว่วว่า “หัวหน้าหนู”-อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ไม่อยากปรับ เพราะเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงที่ “ครูโอ๊ะ-กนกวรรณ” เป็นรัฐมนตรี แต่ได้เกิดขึ้นนานกว่า 20 ปี อีกทั้งคิดว่าไม่ใช่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ แต่เป็นรัฐมนตรีช่วยฯ ซึ่งไม่กระทบกับภาพรวมการทำงานของรัฐบาล

ขณะที่ตำแหน่ง “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย” มท.3 ที่ นายนิพนธ์ บุญญามณี ลาออกตัดหน้าก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ จากคดีชะลอการจ่ายเงินฮั้วประมูลรถซ่อมบำรุงทาง สมัยยังเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) นั้น เก้าอี้นี้เป็นโควตาพรรคประชาธิปัตย์

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้าพบนายกฯ ประยุทธ์ แจ้งความประสงค์ขอปรับรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม ตามธรรมเนียมของประชาธิปัตย์ บุคคลที่จะเข้าข่ายได้รับการพิจารณามีด้วยกัน 5 คน เนื่องจากเป็น ส.ส.มาแล้ว 5 สมัย ได้แก่ ประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช, กันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา, นริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง, มนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และ รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม

แต่ด้วยเป็นที่เข้าใจกันเองว่าโควตานี้เป็นสัดส่วนของภาคใต้ ฉะนั้น บุคคลที่เข้าข่ายต้องมาจากภาคใต้ ก็เท่ากับว่าเหลือ อ.ประกอบ, มด กันตวรรณ และนริศ

มีรายงานว่าใน 3 รายชื่อนี้ “นริศ ผู้แทนฯ เมืองลุง” มาแรงที่สุด เนื่องจากเมื่อครั้งสรรหาบุคคลไปเป็นรัฐมนตรีที่แล้ว “นริศ” พ่ายให้กับ “สินิตย์ เลิศไกร” ในเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ครั้นโอกาสนี้มาถึงก็ต้องยกให้กับ “นริศ” ประกอบกับเป็น ส.ส.พัทลุงหนึ่งเดียวของพรรคที่ลุยไฟผ่านเข้าสภามาได้ 

ขณะเดียวกัน ในตำแหน่งอื่นๆ ของพรรคมีการประเมินว่าจะไม่ปรับตำแหน่งอื่น เพราะจะกลายเป็นแรงกระเพื่อมโดยไม่จำเป็น อีกทั้งเวลารัฐบาลก็เหลือน้อยเต็มที ถ้าอยู่ครบเทอมก็มีเวลาทำงานอีกเพียง 4-5 เดือนเท่านั้น

ล่าสุด “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งแล้วว่า 12 ต.ค.นี้ เวลา 14.30 น. จะนัดประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อหารือถึงการปรับ ครม.แทนตำแหน่งที่ว่างลง จากนั้นจะได้นำชื่อบุคคลที่เหมาะสมเสนอต่อที่ประชุม ส.ส.ของพรรค เพื่อพิจารณาความเหมาะสมต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

1ประเทศ2นายกฯ ระวังจบซ้ำรอยเดิม?

มีหลายส่วนในสังคม คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกอึดอัดกับท่าทีของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่พ้นโทษออกมาโดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว แต่ทำตัวเปรียบเหมือนเป็นเจ้าของรัฐบาล

เหลี่ยม"ทักษิณ"หาเสียงนายกอบจ. ก้ำกึ่ง สุ่มเสี่ยง ผิดกฎหมายเลือกตั้ง

การปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง ทั้งสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพาดพิงคู่ปรับทางการเมืองอย่างดุเดือด

'คุมขังนอกเรือนจำ'ความหวังใหม่ ระบบยุติธรรมหรือประตูสู่ความลำเอียง

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบยุติธรรม โดยในปี 2568 กรมราชทัณฑ์จะเริ่มใช้ ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อลดความแออัดในเรือนจำ

‘แม้ว’ห้าว!ผ่านสนาม อบจ. ท่าทีมั่นใจ‘ความปลอดภัย’

ห้าวทุกเวที! 4 จังหวัด อุดรธานี อุบลราชธานี เชียงใหม่ เชียงราย ที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ไปช่วยผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ.หาเสียง

ก้าวต่อไป ‘รทสช.’ ปี 2568 ติดสปีดผลงาน-โกยคะแนน

ต้องฝ่าฟันมรสุมกันระลอกใหญ่ส่งท้ายปี 2567 สำหรับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จากพรรคน้องใหม่จนถึงปัจจุบันสู่ปีที่ 3 แล้ว ภายใต้การนำของ “พี่ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค ซึ่งพรรคได้โควตาร่วมทัพรัฐบาลเพื่อไทย และได้กระทรวงที่หมายปองมาครอบครองสมใจ

การเมืองไทยปี 68 เข้มข้น-ขับเคี่ยว-ร้อนแรง ซักฟอกมี.ค.-ปรับครม.กลางปี

การเมืองไทยไม่ว่าปีไหนๆ ก็มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นได้ตลอด บางเรื่องเกิดขึ้นตามปฏิทินการเมือง แต่บางประเด็นเป็นความร้อนแรงที่แทรกขึ้นมาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน