ปัญหารอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลเวลานี้ ระหว่างพรรค ภูมิใจไทย VS ประชาธิปัตย์ จากกรณีการขวางลำชิงเหลี่ยมการเมืองกลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชงฯ ที่ตามคิวเป็นการประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ สภาผู้แทนราษฎร ในวาระสองและวาระสาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทันจะได้พิจารณาสักมาตรา ก็สะดุดเสียก่อน เพราะเสียงข้างมากในที่ประชุมสภาเห็นควรให้กรรมาธิการนำร่างกลับไปทบทวนใหม่ จนสุดท้ายเลยไม่ได้มีการพิจารณาตามระเบียบวาระการประชุม
ดังนั้น หลังจากนี้ต้องดูกันว่า ปมปัญหารอบนี้จะบานปลายจนทำให้สถานการณ์ระหว่างสองพรรคร่วมรัฐบาล จากที่ปริร้าวในเวลานี้ จะบานปลายจนส่งผลต่อสั่นคลอนต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น เห็นชัด แกนนำและ ส.ส.ภูมิใจไทย ไม่พอใจอย่างแรง ที่ถูก ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่นำโดยสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง จับมือกับ ส.ส.ในพรรคร่วม 30 เสียง เคลื่อนการเมืองในสภา จนทำให้ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ถูกถอนออกจากระเบียบวาระการประชุมสภา เมื่อ 14 กันยายนที่ผ่านมา ชนิดภูมิใจไทยตั้งหลักพลิกแก้เกมไม่ทัน
หลังฝ่าย ส.ส.ประชาธิปัตย์หักดิบกลางสภา ด้วยการยกเหตุผลในการขวางลำว่าร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีกรรมาธิการซึ่งเป็นคนจากปีกภูมิใจไทยเป็นตัวหลักในการคุมการยกร่าง พ.ร.บ.ทั้งฉบับ ฝ่ายประชาธิปัตย์ ชี้ว่า หลายมาตราในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีปัญหา โดยเฉพาะที่เขียนเพิ่มเติมขึ้นมาหลายมาตราจากตอนที่รับหลักการในวาระแรกเขียนออกมาไม่รัดกุมเพียงพอต่อการควบคุมการใช้กัญชา จึงอาจเกรงเกิดผลกระทบต่อสังคม หากรีบตรากฎหมายโดยไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
เรียกได้ว่า ยกเหตุผลหล่อๆ มาโชว์ต่อสังคม เตะตัดขา ดิสเครดิตภูมิใจไทยกลางที่ประชุมสภาไปแบบเต็มๆ
เลยไม่แปลกที่ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ควันออกหู เลยทิ้งบอมบ์ส่งไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ 16 กันยายนที่ผ่านมา
“ดีเสียอีกที่เป็นแบบนี้ พรรคร่วมรัฐบาลไม่สนับสนุนกันเอง ใกล้เลือกตั้ง ไอ้ที่จะต้องเกรงใจอะไรกัน ก็ไม่ต้องเกรงใจ”
อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้ง รอยร้าว ของภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์ครั้งนี้ มีผลต่อเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาลระดับหนึ่งแน่นอน แต่วงการเมืองยังประเมินว่า ไม่น่าจะบานปลายถึงขั้นมีพรรคหนึ่งพรรคใดถอนสมอ-ถอนตัว จากการร่วมรัฐบาล เพราะในทางการเมืองทุกพรรคการเมืองล้วนต้องการเป็นรัฐบาลทั้งสิ้น
เว้นเสียแต่สถานการณ์นี้ร้าวลึก และแกนนำทั้งสองพรรคต่างไม่อยากเสียหน้า เสียฟอร์มการเมือง จนเป็นรอยร้าวเกินกว่าที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รักษาการนายกฯ และผู้จัดการรัฐบาล จะแก้ไขได้
ส่วนที่คนการเมืองเชื่อว่า แม้ต่อให้ประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยออกหมัดการเมืองทิ่มใส่กันแบบไม่ยั้งตอนนี้ แต่สุดท้าย ก็ยังจะกอดคอทำงานกันต่อไปในพรรคร่วมรัฐบาล ก็เพราะมองกันว่า ยังไงเสียแกนนำภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ต่างรู้สภาพการเมืองดี ไม่มีพรรคการเมืองใดอยากออกจากการเป็นพรรครัฐบาล ยิ่งหลังจากนี้อีกประมาณ 7 เดือน สภาก็ครบวาระ ต้องมีการเลือกตั้งหลังมีนาคมปีหน้า
การเป็นพรรครัฐบาล มีรัฐมนตรีของพรรคคุมอำนาจรัฐ มีกลไกรัฐอยู่ในมือในช่วงเลือกตั้ง มันคือความได้เปรียบ ที่ถือไพ่เหนือกว่าพรรคการเมืองที่ไม่ได้เป็นพรรคฝ่ายรัฐบาล
ด้วยเหตุนี้ แวดวงการเมืองต่างมองตรงกัน ดูมุมไหน มันก็ยากที่แกนนำภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์จะทิ้งหม้อข้าวตัวเองออกจากการเป็นรัฐบาล กลายเป็นพรรคการเมืองขาลอย
ดูง่ายๆ มีตัวอย่างให้เห็นกันเวลานี้ ที่ ธรรมนัส พรหมเผ่า จากที่เคยมีอำนาจมากสมัยเป็นรัฐมนตรีช่วยเกษตรและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แต่พอไม่ได้เป็นรัฐมนตรี และออกไปตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย กลายเป็นพรรคขาลอย ทำให้เศรษฐกิจไทยสถานการณ์ยามนี้ร่อแร่เต็มที จนมีข่าวธรรมนัสถอดใจ ไม่อยากเข็นพรรคเศรษฐกิจไทย เพราะรู้ดีว่าเข็นไปลำบาก ลงเลือกตั้งไปสุดท้ายก็กลายเป็นพรรคเล็ก เลยมีข่าวกระเส็นกระสายเตรียมระเห็จขอย้ายกลับพลังประชารัฐ หากสุดท้ายพลเอกประยุทธ์ต้องหลุดจากวงโคจรการเมืองจากผลคดี 8 ปีในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ
กรณีธรรมนัสกับพรรคเศรษฐกิจไทยคือความจริงทางการเมืองที่เห็นกันชัดๆ ที่แสดงให้เห็นแล้วว่า การเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาลย่อมดีกว่า โดยเฉพาะในช่วงเลือกตั้ง หลายคน จึงเชื่อว่าที่เห็นขบเหลี่ยม แลกหมัดกันไปมา ระหว่างภูมิใจไทยกับประชาธิปัตย์ แต่สุดท้ายก็ยังน่าจะกอดคอกันไปให้นานที่สุด แกนนำทั้งสองพรรคคงไม่อยากมีใครทุบหม้อข้าวตัวเองจากการเป็นพรรครัฐบาล
ทางออกเรื่องนี้ ระยะยาววิธีที่ดีที่สุด คงไม่พ้นการใช้กลไกในสภา แก้ปัญหาด้วยการที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ที่มีศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและแกนนำภูมิใจไทยเป็นประธานกรรมาธิการฯ อาจต้องยอมปรับแก้ไขเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ให้ออกมาเป็นที่ยอมรับของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ที่คัดค้านร่างดังกล่าวให้มากที่สุด เพื่อให้มีโอกาสผ่านสภาวาระสองและสาม หลังสภาเปิดรอบหน้า ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน โดยการถอยบางก้าว แก้บางมาตรา ที่มีแรงต้านสูง
โดยล่าสุดผลการประชุมด่วนของกรรมาธิการเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา กรรมาธิการมีมติให้ส่งหนังสือถึงพรรคการเมืองแต่ละพรรคที่เห็นควรให้กรรมาธิการทบทวนเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ เพื่อต้องการทราบความเห็นของแต่ละพรรคว่า ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ในส่วนใด และต้องการให้แก้ไขทบทวนเนื้อหาออกมาอย่างไร
รอดูกันว่าเรื่องนี้จะเคลียร์กันในชั้นกรรมาธิการได้หรือไม่ได้ โดยหากทางฝ่ายภูมิใจไทยยืนกรานไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขทบทวนเนื้อหาหลักๆ ในร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ หากออกมาแบบนี้ มองไปข้างหน้า ดูแล้วมีความเป็นไปได้สูง ที่ถึงตอนสภาเปิดแล้วมีการนำร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ เข้าสภา กลับมาพิจารณาใหม่อีกรอบ
เรื่องนี้จะเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ของพรรคร่วมรัฐบาล และในสภา ที่อาจถึงขั้น วงแตก จนเสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอนหนัก
เว้นเสียแต่อาจจะไปไม่ถึงจุดนั้น ถ้าผลคำตัดสิน ของศาลรัฐธรรมนูญในคดีพลเอกประยุทธ์ 30 กันยายน ผลออกมาไม่เป็นคุณกับบิ๊กตู่ การเปลี่ยนแปลงภายในพรรคร่วมรัฐบาลอาจเกิดขึ้นก่อน 1 พฤศจิกายน ก็เป็นได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่
'อนุทิน' เช็กสัญญาณ ครม.อิ๊งค์ ปมศาลรธน.นัดถกรับ-ไม่รับคำร้อง คดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง
ที่ด่านพรมแดนบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นายอนุชิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่ในวันพรุ่งนี้(22 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้อง
ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง
จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567
'อนุทิน' ยันไม่คิดเอาคืนใคร ปมที่ดินเขากระโดงอย่าโยงการเมือง ไม่อย่างนั้นก็หมดสภาฯ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย
'อนุทิน' เผยค่าแรง 400 บาท เป็นของขวัญปีใหม่หรือไม่ ขึ้นกับคณะกรรมการไตรภาคี
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงค่าแรง 400 บาท ที่กระทรวงแรงงานป