แม้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะยังคงไม่สะเด็ดน้ำ เพราะอยู่ระหว่างขั้นตอนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่หลายพวกก็มั่นใจเสียแล้วว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะใช้สูตรหารร้อยแน่นอน จึงทำให้เห็นปรากฏการณ์พรรคขนาดเล็ก พรรคเกิดใหม่ ปรับกลยุทธ์กันใหญ่
หากสูตรหารร้อยได้ไปต่อ แปลว่าคะแนนเฉลี่ยที่ใช้สำหรับ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1 คน จะใช้คะแนนมากกว่าสูตรหารห้าร้อยแน่นอน หรือหมายความว่าทั้งพรรคเล็ก พรรคเกิดใหม่มีโอกาสน้อยมากที่จะมี ส.ส.ก้าวเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ถ้าไม่ดังเปรี้ยงปร้างก็หมดสิทธิ์
หรือแม้ปลายทางจะใช้สูตรหารห้าร้อย พรรคเล็กอาจได้ลุ้นมากกว่าสูตรหารร้อย แต่ทั้งหมดโอกาสได้ ส.ส.ก็น้อยกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 62 อยู่ดี เพราะกติการอบใหม่กำหนดให้มี ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียง 100 คน จากเดิมที่ให้มี 150 คน
ตัวอย่างพรรคเกิดใหม่ที่มีการปรับตัวอย่างเป็นรูปธรรมตอนนี้ ต้องยกให้ “พรรคกล้า” โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา “กรณ์ จาติกวณิช” เพิ่งไปจับไมค์แถลงข่าวคู่ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ประธานพรรคชาติพัฒนา ร่วมงานด้านเศรษฐกิจกับพรรคชาติพัฒนา และยืนยันชัดเจนไม่ได้เป็นการรวมพรรคแต่ประการใด
มีรายงานว่า ท้ายที่สุด “ทีมกรณ์” จากพรรคกล้าจะย้ายไปสังกัดพรรคชาติพัฒนาอยู่ด้วย ก็คงต้องรอดูในการประชุมใหญ่ของพรรคภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ที่ว่ากันว่าจะมีวาระพิเศษพิจารณารีแบรนดิงพรรค ทั้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริหารบางตำแหน่ง และอาจมีการเปลี่ยนชื่อพรรคด้วย
แม้ “กรณ์” จะปฏิเสธว่าสาเหตุการย้ายมาร่วมงานกับชาติพัฒนาไม่เกี่ยวกับสูตรหารร้อยก็ตาม แต่ดูเหมือนนาทีนี้ไม่มีใครเชื่อ เพราะต้องยอมรับว่าเรื่องนี้มีผลต่อยุทธศาสตร์ของพรรคการเมืองจริงๆ นอกจากนี้ยังมีข่าวซุบซิบอีกว่า นายทุนที่คอยสนับสนุนให้พรรคกล้าอ่อนล้าที่จะอัดฉีดพรรคแล้ว ด้วยประการฉะนี้ “กรณ์” ในฐานะหัวเรือใหญ่ จึงต้องปรับตัวหาทางหนีทีไล่ให้กับตัวเองและลูกพรรค
ทว่า การตัดสินใจลักษณะนี้ถือว่าเสียรางวัดไม่เบา อุตส่าห์ลาออกจาก “พรรคประชาธิปัตย์” มาตั้ง “พรรคกล้า” เพื่อเดินตามอุดมการณ์ทำการเมืองในแบบฉบับของตัวเอง แต่หม้อข้าวยังไม่ทันดำ ยังไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งแม้แต่ครั้งเดียวก็มีอันต้องระเห็จไปซบพรรคอื่นแทน ด้วยเหตุการณ์ทางการเมืองไทยที่พลิกไปพลิกมาตลอดเวลา
ไม่เพียงแต่พรรคกล้า หลังจากนี้ต้องคอยจับตาพรรคขนาดเล็ก พรรคเกิดใหม่อีกจำนวนมาก เช่น พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรครวมพลัง พรรคไทยภักดี พรรครวมแผ่นดิน พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคเศรษฐกิจไทย เป็นต้น จะปรับกลยุทธ์อย่างไร จะเอาแบบรวมหรือยุบกับพรรคใหญ่ หรือรวมกันเอง หรือเอาแบบใจๆ โดดลงสนามเลือกตั้งเดี่ยวๆ แบบนักเลง วัดใจกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
อย่างไรก็ตาม สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ บบหารร้อยนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่พรรคข้างต้น แต่ยังรวมถึง “พรรคก้าวไกล” ด้วย ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคนี้ผลงานท็อปฟอร์ม หลายเรื่องที่ขับเคลื่อนผ่านสภาฯ สร้างแรงปะทะแก่สังคม ทำให้ชื่อชั้นของพรรคเป็นที่คุ้นหูของคนส่วนใหญ่
แต่ถ้าสูตรหารร้อยได้บังคับใช้จริง “ก้าวไกล” ก็เป็นพรรคหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากกติกาออกแบบเน้นการชิงชัย ส.ส.แบบแบ่งเขต ที่มีถึง 400 ที่นั่ง ทว่า ถ้าส่องลงไปในระดับพื้นที่ ระดับเขตเลือกตั้ง ส.ส.ก้าวไกลยังอ่อนหัดนักเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ทั้งยังเคยมีวาทกรรม “เป็น ส.ส.หรือพระครับ วิ่งรอบออกงานศพขนาดนั้น? #ส.ส.ตลาดล่าง" ซ้ำอีก สะท้อนถึงทัศนคติของพรรคที่ไม่ค่อยจะเข้าใจการเป็น ส.ส.เขตที่ต้องผูกพันกับชีวิตราษฎรในท้องถิ่นนั้นๆ
แต่จะถึงขนาดต้องยุบพรรคไปรวมกับพรรคอื่นหรือไม่ คงไม่ใช่ เพราะเขามาไกลและเก๋ากว่านั้นแล้ว ต้นทุนฐานเสียงก็มีเป็นของตัวเองอยู่จำนวนหนึ่ง ดังนั้นการกระโดดลงสนามเลือกตั้งคราวหน้าจึงสมเกียรติ สมศักดิ์ศรีมากกว่า ยกเว้นแต่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับพรรคก่อนมีการเลือกตั้ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่
ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง
จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567
ยากจะขวาง‘โต้ง’นั่งปธ.บอร์ดธปท. แนวต้านขอสกัดจนนาทีสุดท้าย!
แม้จะมีข่าวว่า กรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเลือก เสี่ยโต้ง-นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ให้เป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่
โค้งสุดท้ายศึกนายกอบจ.อุดรฯ เดิมพันสูง พท.VSปชน.แพ้ไม่ได้
นับจากวันจันทร์ที่ 18 พ.ย.ก็เหลืออีกเพียง 7 วันเท่านั้น ก็จะถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ศึกนายกฯ อบจ.อุดรธานี ทำให้ตอนนี้ถือว่าเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายที่จะได้รู้กันแล้วว่า
‘แม้ว’ ย่ามใจไม่เลี้ยงหลาน ทำตัวเป็น ‘ส่วนหนึ่งของปัญหา’
แม้แต่ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังตั้งคำถามต่อ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี