“สมคิด” เล่นบทรุก เปิดตัวชิงนายกฯ หลังกระแสพรรค สอท.ไม่กระเตื้อง

การเมืองไทยช่วงนี้ ทุกบริบทความเคลื่อนไหว จุดศูนย์กลางอยู่ที่คดีคำร้อง 8 ปี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

 เพราะผลจากคดีไม่ว่าพลเอกประยุทธ์จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป หรือจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ล้วนมีผลเชื่อมโยงกับการเมืองทุกภาคส่วน ที่ก็คาดว่าภายในกันยายนนี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติและอ่านคำวินิจฉัยแน่นอน

ผนวกกับอายุของสภา หากไม่มีการยุบสภาเกิดขึ้น ก็เหลือเวลาอีกแค่ประมาณ 7 เดือน สภาก็หมดวาระในเดือนมีนาคมปีหน้า ทำให้เข้าสู่ช่วงเตรียมนับถอยหลังเลือกตั้งกันแล้วสำหรับทุกพรรคการเมือง ส่งผลให้ ตลาดการเมืองตอนนี้เริ่มคึกคักมากขึ้น 

อย่างสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีการประกาศจับมือกันทางการเมืองระหว่าง สุวัจน์ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาตัวจริงกับ กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ที่มีข่าวว่า หากไม่มีอะไรพลิกโผ อังคารที่ 6 ก.ย.นี้จะมีการประชุมพรรคชาติพัฒนา ที่จะมีการดันให้กรณ์ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค และหลังจากนั้นอาจจะมีการควบรวม และเปลี่ยนชื่อพรรคให้สอดคล้องกันระหว่างชาติพัฒนากับพรรคกล้า เช่น พรรคกล้าพัฒนา หรือกล้าพัฒนาชาติ เป็นต้น

ขณะเดียวกัน เหลียวมองไปที่ พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ที่มี อุตตม สาวนายน เป็นหัวหน้าพรรค พบว่านับแต่มีการเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนปีนี้ มาถึงปัจจุบัน ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า กระแสพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้แรงอย่างที่หลายคนคาดคิด

อย่างการเปิดแถลงข่าวใหญ่ของพรรคสร้างอนาคตไทยเมื่อ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ใช้ชื่องาน “เปิดยุทธศาสตร์ เราพร้อม เปลี่ยนอนาคตประเทศไทย” ที่แกนนำพรรคไปร่วมงานดังกล่าวอย่างคับคั่ง   

โดยมีคำประกาศจาก “อุตตม-หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย” ว่าสร้างอนาคตไทยมีพันธกิจรีเซตประเทศไทย 5 แก้ไข คือ 1.แก้ปัญหาที่สั่งสมเป็นปัญหารุนแรง คือ ฉ้อราษฎร์บังหลวงต้องหยุดทุกระดับ 2.ปราบปรามยาเสพติด 3.สร้างความเท่าเทียม ลดการผูกขาด เพิ่มการแข่งขัน 4.ลดขนาดราชการ และ 5.ยกระดับให้เกษตรกรทันสมัย รวมถึงภารกิจ 5 สร้าง คือ 1.สร้างเศรษฐกิจฐานราก 2.สร้างเศรษฐกิจใหม่ 3.สร้างสังคมเกื้อกูล 4.สร้างคนและโครงสร้างพื้นฐานพร้อมก้าวสู่สังคมยุคใหม่ และ 5.สร้างการเมืองที่สร้างสรรค์

ที่ปรากฏว่า ในทางการเมืองหลังการแถลงดังกล่าว กลับเงียบสนิท แทบไม่มีใครกล่าวขานถึง เพราะสิ่งที่แถลง ใครต่อใครเห็นตรงกันว่าไม่มีอะไรใหม่ ซ้ำซาก ขายไม่ได้ เลยยิ่งตอกย้ำให้เห็นแล้วว่า แบนด์พรรค-กระแสพรรคสร้างอนาคตไทยมีปัญหา สิ่งเหล่านี้ถือเป็นอาการทางการเมืองที่ไม่เป็นผลดีต่อพรรคสร้างอนาคตไทย 

จุดนี้ถือเป็นการบ้านข้อใหญ่ของแกนนำพรรคสร้างอนาคตไทยที่เริ่มนั่งไม่ติด เพราะหากสถานการณ์พรรคยังทรงๆ ไปแบบนี้เรื่อยๆ ถึงเวลาเลือกตั้ง พรรคสร้างอนาคตไทยลำบากแน่ ถ้าไม่มีจุดขายทางการเมืองที่แตกต่างและโดดเด่นกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ

มันเลยทำให้ กัปตันทีม ตัวจริงของพรรคที่อยู่หลังฉากมานาน คือ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์-อดีตรองนายกฯ จำเป็นต้องตัดสินใจออกมายืนหน้าฉากการเมืองให้เร็วขึ้น เพื่อสร้างกระแสพรรค-คะแนนนิยม เพราะหากเปิดตัวช้ากว่านี้ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อตัวเองและพรรคสร้างอนาคตไทยแน่นอน 

จึงเป็นที่มาของการที่ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สมคิดได้ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อเตรียมพร้อมเปิดตัวเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคสร้างอนาคตไทยให้เร็วขึ้น

และมีข่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย วางคิดเปิดตัวสมคิด ในวันที่ 8 ก.ย.นี้ ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ ซึ่งเบื้องต้นบทบาทสมคิดในพรรคก็คือ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ที่คาดว่าในงานดังกล่าว สมคิดจะเปิดตัวเข้าสู่การเมืองเต็มรูปแบบ และคงแสดงวิสัยทัศน์ และความเห็นทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างการแถลงข่าว 

ซึ่งดูแล้วจุดหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า ในบรรดาพรรคการเมืองตั้งใหม่ในช่วงที่ผ่านมา พรรคสร้างอนาคตไทยดูจะเป็น พรรคที่มีทรง มากกว่าพรรคอื่นๆ เพราะแกนนำ-ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอยู่ในแวดวงการเมือง เศรษฐกิจ นักวิชาการ มากกว่าพรรคการเมืองอื่น ผนวกกับชื่อชั้นของสมคิด-อดีตรองนายกฯ ยังถือว่าเป็นชื่อที่ขายได้ในกลุ่มธุรกิจ การค้าการลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่ต้องยอมรับว่า หลายกลุ่มค่อนข้างเชื่อมือสมคิดค่อนข้างมาก เพราะมีประสบการณ์ค่อนข้างโชกโชนทั้งในภาครัฐและเอกชน

 จุดนี้อาจมีผลทำให้ถึงตอนช่วงใกล้เลือกตั้ง สร้างอนาคตไทยอาจมีกลุ่มทุนหลายกลุ่มเข้าไปสนับสนุนพรรคพอสมควร เพื่อลุ้นให้สมคิดมีโอกาสชิงแคนดิเดตนายกฯ

ส่วนคนอื่นๆ ในพรรคก็ใช่ย่อย ไม่ว่าจะเป็น อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ก็อดีต รมว.คลัง อดีต รมว.อุตสาหกรรม, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ก็อดีต รมว.พลังงาน อดีต รมว.พาณิชย์, สุพล ฟองงาม อดีต รมช.มหาดไทย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.หลายสมัย รู้จักพื้นที่เลือกตั้งภาคอีสานมากคนหนึ่ง, นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ก็อดีต ส.ส.พัทลุง 8 สมัย อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ หรือ นริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรค ก็ดีกรีภาคเอกชนไม่ธรรมดา เคยเป็นรองประธานกรรมการ และกรรมการบริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) รวมถึงอีกหลายคนในพรรค ที่ชื่อชั้นเรียกได้ว่า หากเอาบรรดาพรรคการเมืองตั้งใหม่มาไล่เรียงกันดู ยังไงก็ต้องถือว่าพรรคสร้างอนาคตไทยค่อนข้างฟอร์มเปรี้ยงกว่า

เพียงแต่ที่ผ่านมา การสื่อสารเรื่องทิศทางพรรค-นโยบายพรรคไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ผนวกกับแกนนำพรรคสร้างอนาคตไทยวางตำแหน่งทางการเมืองไว้ช่วงที่ผ่านมาให้เป็นพรรคการเมืองที่เล่นการเมืองแบบซอฟต์ๆ ไม่อิงกระแสการเมืองในเรื่องที่เป็นประเด็นร้อนๆ และเล่นบทเป็นพรรคการเมืองที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับฝ่ายไหน เลยทำให้ คนจดจำชื่อและตัวบุคคลที่เป็นแกนนำพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ค่อยได้

แต่คาดว่าหลังจากนี้ ที่การเมือง-การเลือกตั้ง เริ่มเข้มข้นและใกล้งวดเข้ามาทุกที คงทำให้แกนนำพรรคสร้างอนาคตไทยต้องปรับบทบาททำงานเชิงรุกทางการเมืองให้มากขึ้น โดยเฉพาะการขายและการชูสมคิดให้มีชื่อติดอันดับต้นๆ ของแคนดิเดตนายกฯ ให้ได้ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ หลังจากเปิดตัวค่อนข้างช้า จนทำให้ที่ผ่านมาผลโพลหลายสำนักที่ทำเรื่องคะแนนนิยมแคนดิเดตนายกฯ เลยไม่มีชื่อของสมคิด แต่หลังจากสมคิดเปิดตัวแล้ว ต้องดูกันว่าสมคิดจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ประชาชนสนใจหรือไม่?.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทม์ไลน์เคาะเครื่องบินรบ แง้มเส้นทางเรือดำน้ำเข้าครม.

เป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนที่กองทัพอากาศจะคัดเลือกแบบเครื่องบินรบฝูงใหม่ทดแทน เพื่อนำเข้าประจำการแทนเครื่องที่กำลังปลดประจำการ

พท.ไม่สิ้นมนตร์ขลังแต่ชนะแค่1.8พัน ปิดตำนาน"บิ๊กแจ๊ส-มีวันนี้เพราะพี่ให้”

เสร็จศึกแล้วสำหรับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ นายกฯ อบจ.ปทุมธานี ที่ล่าสุดผลคะแนนออกมาแล้วเป็นทางการ ผลปรากฏว่า “นายชาญ พวงเพ็ชร์” ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย มีดีกรีเป็นอดีตนายกฯ อบจ.ปทุมธานี 3 สมัย ได้คะแนนทั้งสิ้น 203,032 คะแนน

สว.สีน้ำเงินเปิดเซฟเฮาส์ ทำโผ-วางขุมกำลังคุมสภาสูง

การเมืองสัปดาห์นี้ ไฮไลต์สำคัญก็คือ ต้องรอดูว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศรับรองรายชื่อ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดใหม่ทั้ง 200 คนในช่วงกลางสัปดาห์นี้ พุธที่ 3 ก.ค. ตามที่เคยประกาศไว้หรือไม่ หรือจะเลื่อนออกไป หลังกระแสวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการเลือก สว.ชุดใหม่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง

สภาฮั้วค่าย 'สีน้ำเงิน' ยึดสว. วงจรอุบาทว์การเมืองไทย

ผลการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ได้รายชื่อว่าที่ สว.จำนวน 200 คน และสำรอง 100 คน ครบแล้ว โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ค่าย 'สีน้ำเงิน 'คุมสภาสูง จับตาประธานสว.คนใหม่

ประเทศไทยมีรายชื่อสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) 200 คน อย่างเป็นทางการ หลังจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมาใช้เวลาดำเนินการคัดเลือกสว.ระดับประเทศที่อิมแพค หลังจากใช้เวลาดำเนินการคัดเลือกสว.ระดับประเทศที่อิมแพค ฟอรัม เมืองทองธานี ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ลากยาวไปถึงเช้ามืดวันถัดไป ทำเอาผู้สมัครสว. ผู้ติดตาม รวมถึงผู้สื่อข้าวที่ตามเกาะติดชิดห้องประชุมตาคล้ำราวกับหมีแพนด้า

ไม่จบ ก.ตร.เคาะ“บิ๊กโจ๊ก”ออกจากราชการ เผือกร้อน“ก.พ.ค.ตร.”เร่งชี้ขาดยุติขัดแย้ง

สถานการณ์ความขัดแย้งใน “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ทวีความรุนแรงลุกลามบานปลาย จากเหตุความขัดแย้งระหว่าง “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่ดูเหมือนจะจบ แต่ไม่จบ หลังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายสรุปผลสอบ