ทยอยจัดทัพ บิ๊กข้าราชการ ประจำปีกันไปทีละล็อต โดยเฉพาะ 3 หน่วยหลักสำคัญที่มีผลในทางการเมืองและความมั่นคงต่อเสถียรภาพรัฐบาลทุกยุคสมัย รวมถึงการเลือกตั้ง จึงทำให้การทำ โผแต่งตั้งโยกย้าย-เลื่อนขั้น ประจำปี จะเป็นที่สนใจจากหลายฝ่าย นั่นก็คือการแต่งตั้งโยกย้ายของ 3 หน่วยงานหลักคือ
1.โผคลองหลอด หรือกระทรวงมหาดไทยที่คุมผู้ว่าราชการจังหวัด-นายอำเภอทั่วประเทศ
2.โผท็อปบูต หรือบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายของกระทรวงกลาโหมและ 4 เหล่าทัพ ทั้งกองทัพบก กองทัพอากาศ กองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพไทย
3.โผบิ๊กสีกากี-รั้วปทุมวัน หรือบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
อันพบว่าในรอบ 7 วันต่อจากนี้ ทั้ง 3 หน่วยทยอยทำโผแต่งตั้งให้คลอดออกมาโดยเร็ว จนทำให้ถูกมองว่าอาจเพราะสถานการณ์คำร้องคดี 8 ปี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่รู้จะออกหน้าตาไหน แม้ข่าวจะบอกว่า ฝ่ายบิ๊กรัฐบาล พยายามเช็กข่าวอินไซด์วงหารือนอกรอบ 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อต้องการรู้ท่าทีของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคำร้องคดีนี้ออกมาอย่างไร จะให้บิ๊กตู่ลงจากหลังเสือ ไม่ได้เป็นนายกฯ ต่อ หรือจะได้ไปต่อ
แต่ข่าวว่าการข่าวของรัฐบาลยังเจาะไม่เข้าถึงห้องทำงานของ 9 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้รัฐบาลต้องเตรียมตั้งหลักให้พร้อม เผื่อเกิดเหตุเช่น พลเอกประยุทธ์ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เลยทำให้ปีนี้เรื่องการทำบัญชีแต่งตั้งทั้งของมหาดไทย-ท็อปบูต-สีกากี ที่ก็ทำกันตามปกติตามวงรอบ แต่ก็ถูกตั้งข้อสังเกตในทางเชื่อมโยงกับคดี 8 ปี พลเอกประยุทธ์ว่ามีการเร่งรัดเป็นพิเศษ
ซึ่งที่สะเด็ดน้ำไปแล้วก็คือ โผคลองหลอด ซึ่งที่ประชุม ครม.เห็นชอบไปเมื่อวันอังคารที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา รวม 37 ตำแหน่ง ที่ภาพรวมต้องบอกเลยเห็นชัดว่าเป็น การจัดทัพเพื่อเตรียมการเลือกตั้งของ 3 ป.-เครือข่ายพลังประชารัฐ ผ่านพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา บิ๊กป๊อก รมว.มหาดไทย ที่เอาคนไว้ใจไปอยู่ในตำแหน่งสำคัญทั้งในระดับกรมและพ่อเมือง-ผวจ.ต่างๆ
ที่สำคัญ เห็นชัดว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่ สิงห์ดำ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ในยุคที่มี สุทธิพงษ์ จุลเจริญ พี่ใหญ่ของสิงห์ดำ เป็นปลัด มท. เลยทำให้เครือข่ายกลุ่มสิงห์ดำยังคงยึดกุมแผงอำนาจในกระทรวงมหาดไทยไว้ได้ทั้งในกรมขนาดใหญ่ และจังหวัดสำคัญๆ ในแต่ละภาค เช่น แมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ที่ได้เก้าอี้ใหญ่จากผู้ว่าฯ สระบุรี มาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง ที่เป็นรุ่นพี่-รุ่นน้องสิงห์ดำ กับปลัด มท. ซึ่งใกล้ชิดกันมาหลายสิบปี
นอกจากนี้ บางจังหวัดพบว่ามีการโยกย้ายปรับเปลี่ยนผู้ว่าฯ ข้ามจังหวัด โดยหลายแห่งพบว่า เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์การเมืองสำคัญของเพื่อไทย เหมือนกับสายบิ๊กป๊อกต้องการคนไว้ใจ-มือทำงานเข้าไปช่วยดูแลพื้นที่ในจังหวัดดังกล่าวเป็นพิเศษ เช่น นครราชสีมา อุดรธานี เชียงใหม่ เป็นต้น
ขณะที่ โผท็อปบูต ที่มีพลเอกประยุทธ์เป็น รมว.กลาโหมด้วยอีกตำแหน่ง พบว่าช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 25 ส.ค.นี้ จะมีการ ประชุมคณะกรรมการปรับ-ย้าย ที่เป็นบอร์ดกลั่นกรองแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทหารระดับสูงชั้นนายพลของสํานักงานปลัดกระทรวงและส่วนราชการในกองทัพไทย ที่มีพลเอกประยุทธ์ ในฐานะ รมว.กลาโหมเป็นประธาน พร้อมด้วยกรรมการโดยตำแหน่งคือ ผบ.ทั้ง 3 เหล่าทัพ คือ ผบ.ทบ.-ผบ.ทอ.-ผบ.ทร. รวมถึงผู้บัญชาการกองทัพไทย-ปลัดกระทรวงกลาโหม ตลอดจน พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม จะประชุมกันเพื่อพิจารณาเห็นชอบ โผท็อปบูต ประจำปี ที่ปีนี้ ผบ.ทร.-ผบ.ทอ.และปลัด ก.กลาโหม เกษียณอายุราชการ
รอบนี้น่าจับตามองว่า พลเอกประยุทธ์จะปรับทัพขุมกำลังในกองทัพอย่างไรให้สอดรับกับสถานการณ์ในวันข้างหน้า ไฮไลต์จึงไม่ใช่แค่การคัดเลือกคนที่มาทดแทน ผบ.เหล่าทัพที่จะเกษียณอายุราชการ แต่เป็นการกระชับอำนาจ ปรับขุมกำลังที่ ทบ.ในช่วงเปลี่ยนเข้าสู่การเลือกตั้งในปีหน้า ดังนั้น ข่าวลือเรื่องการเปลี่ยนตัว พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ จาก ผบ.ทบ.เป็นบิ๊กกองทัพคนอื่นจึงดังกระหึ่ม
โดยมีชื่อ “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ทหารเสือราชินี หัวใจสีม่วง เช่นเดียวกับ นายกฯ มาแรง
แต่ถ้าในที่สุดสามารถ “เคลียร์” กันได้ และให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ไปต่อ ก็จะนำไปสู่การปรับแผง 5 เสือ ทบ.ใหม่โดยเฉพาะตำแหน่งเสนาธิการทหารบก ที่ต้องมาคุม กอ.รมน. ประสานงานกันเป็นเนื้อเดียวกับรัฐบาลได้ รวมไปถึง ผบ.ระดับคุมกำลัง
ในขณะที่ตำแหน่ง ผบ.ทร. พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร.คนปัจจุบัน เสนอชื่อ “บิ๊กจอร์ช” พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ (ตท.22) ผู้ช่วย ผบ.ทร. ซึ่งก็ต้องดูว่า พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส.จะใช้หลักการอาวุโสผลักดัน พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ รอง ผบ.ทร. เบียดแซงได้หรือไม่ แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องผลักดันให้เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งต้องไปสู้กับ พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เหลืออายุราชการอีก 3 ปี
ขณะที่ ทัพฟ้า-กองทัพอากาศ แม้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รอง ผบ.ทอ.จะอาวุโสสูงสุด แต่มีแนวโน้มว่า พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ.คนปัจจุบัน จะเสนอชื่อ “บิ๊กต้น” พล.อ.อ.คงศักดิ์ จันทรโสภา ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการควบคุมปฏิบัติการทางอากาศ (ผบ.คปอ.) เป็น ผบ.ทอ.คนใหม่
และหากเป็นไปตามที่เหล่าทัพเสนอ เท่ากับว่า เตรียมทหารรุ่น 22 จะคุมทุกเหล่าทัพอย่างเบ็ดเสร็จ รวมถึงตำรวจด้วย เพราะเต็ง 1 ว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ “บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.” ก็พบว่า จบ ตท.22/นรต.38 แม้แต่กับ บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ผบ.ทบ.ก็ ตท.22 เช่นกัน
หากออกมาแบบนี้เท่ากับ "ตท.22 " ยึดกุมแผงอำนาจไว้หมดทั้งทหารและตำรวจ ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก
สำหรับในส่วนของ สีกากี-รั้วปทุมวัน พบว่า พลเอกประยุทธ์เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) วันจันทร์ที่ 29 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเห็นชอบการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่แทน บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข
จากนั้นข่าวว่าตอนบ่ายก็จะมีการประชุมบอร์ดคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เพื่อพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจชั้นนายพลต่อเลยในวันเดียวกัน ซึ่งรอบนี้มีระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก.ว่าง 136 ตำแหน่ง แบ่งเป็น รอง ผบ.ตร.ว่าง 4 ตำแหน่ง ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่าง 6 ตำแหน่ง ระดับ ผบช.ว่าง 13 ตำแหน่ง ระดับรอง ผบช.ว่าง 36 ตำแหน่ง และระดับ ผบก.ว่าง 77 ตำแหน่งจึ งต้องมีการแต่งตั้งคนไปแทนและปรับเปลี่ยนจัดทัพใหม่
ทั้งหมดคือการจัดทัพ-แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กข้าราชการของมหาดไทย-กองทัพ-ตำรวจ ที่คือการวางขุมกำลังอำนาจในช่วงสถานการณ์เก้าอี้นายกฯ ของพลเอกประยุทธ์กำลังอ่อนไหวและเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ก้าวต่อไป ‘รทสช.’ ปี 2568 ติดสปีดผลงาน-โกยคะแนน
ต้องฝ่าฟันมรสุมกันระลอกใหญ่ส่งท้ายปี 2567 สำหรับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จากพรรคน้องใหม่จนถึงปัจจุบันสู่ปีที่ 3 แล้ว ภายใต้การนำของ “พี่ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค ซึ่งพรรคได้โควตาร่วมทัพรัฐบาลเพื่อไทย และได้กระทรวงที่หมายปองมาครอบครองสมใจ
การเมืองไทยปี 68 เข้มข้น-ขับเคี่ยว-ร้อนแรง ซักฟอกมี.ค.-ปรับครม.กลางปี
การเมืองไทยไม่ว่าปีไหนๆ ก็มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นได้ตลอด บางเรื่องเกิดขึ้นตามปฏิทินการเมือง แต่บางประเด็นเป็นความร้อนแรงที่แทรกขึ้นมาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
'ปชน.'ถอย'ม.112'แลกอุดมการณ์ เพิ่มคะแนนนิยม'เท้ง'เฉือน'อิ๊งค์'
ผลสำรวจความเห็นของประชาชน 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หัวข้อ ความนิยมทางการเมือง ในไตรมาส 4 ปลายปี 2567 ให้ผลที่น่าสนใจ เมื่อ 'เท้ง’- นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) เป็นนักการเมืองที่ประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุดอันดับ 1
ปี67‘อดีตสว.’ขยับสะเทือนถึงรัฐบาล ถอดถอน‘เศรษฐา’ที่มาของหลายเรื่อง
การเมืองรอบปี 2567 เหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดต้องยกให้กับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้ “แพทองธาร ชินวัตร” กลายเป็นนายกฯ หญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย และทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นตามมา วันนี้จึงขอบันทึกเรื่องราวนี้ไว้ ยกให้เป็นเหตุการณ์แห่งปี
‘ทักษิณ’ไม่กล้าเขี่ย‘ภท.-รทสช.’
เป็นความสัมพันธ์ที่แม้แต่คนภายนอกยังมองออกว่ากระท่อนกระแท่น สำหรับความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
สวมบท'อินฟลูอาเซียน' จุดเสี่ยงใช้ประเทศเดิมพัน?
ยืนยันชัดเจนจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หลังโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Anwar Ibrahim พร้อมรูปภาพคู่กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี