เข้าสู่เดือนสิงหาคม การเมืองสัปดาห์หน้านี้มีความเคลื่อนไหวของสองพรรคการเมือง ที่จะมีการจัดประชุมใหญ่นัดสำคัญในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งพบว่าทั้งสองพรรคใช้ชื่อนำหน้าคำว่า รวม เหมือนกันเสียด้วย
เริ่มที่พรรคแรก นั่นก็คือ พรรครวมแผ่นดิน ที่จะประชุมใหญ่พรรควันจันทร์นี้ 1 สิงหาคม ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ เพื่อเปลี่ยนชื่อพรรคจาก พลังชาติไทย ที่ปัจจุบันมี ส.ส.อยู่หนึ่งคนในสภา คือ นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ขึ้นมาเป็น ส.ส.แทนสามีคือ พลตรี ทรงกลด ทิพย์รัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค-อดีต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พลังชาติไทยที่เสียชีวิต
โดยการประชุมพรรคนัดนี้ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือบิ๊กน้อย จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคและใช้มติที่ประชุมใหญ่ เปลี่ยนชื่อจากพลังชาติไทยมาเป็น "รวมแผ่นดิน” หลังพลเอกวิชญ์เข้าไปเทกโอเวอร์พรรคพลังชาติไทยมาเรียบร้อย
ต้องดูกันว่าบิ๊กน้อยที่ก่อนหน้านี้ถูกปรามาสทางการเมืองว่า ที่ได้ตำแหน่งทางการเมืองมาแล้วสองพรรคคือ อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐและอดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย แบบไม่ต้องออกแรงอะไร ก็เพราะอยู่ ใต้เงา-บิ๊กป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่คอยช่วยเหลือค้ำจุน เพราะลำพังพลเอกวิชญ์ถูกมองว่าไม่ได้มีบารมีการเมืองอะไร หากไม่มีบิ๊กป้อมคอยสนับสนุน แต่สุดท้าย พลเอก อย่างบิ๊กน้อย กลับถูก ร้อยเอก อย่างธรรมนัส พรหมเผ่า จับมือกับ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ยึดพรรคและบีบพลเอกวิชญ์ จนต้องระเห็จออกจากพรรคเศรษฐกิจไทยแบบเจ็บปวดเก็บของแทบไม่ทัน จากสาเหตุหลายอย่างเกี่ยวกับการเป็นหัวหน้าพรรคของพลเอกวิชญ์ ที่มีคนในพรรคเศรษฐกิจไทยบอกว่า ปัญหาของพลเอกวิชญ์คือ ไปเอา ระบบทหาร มาใช้กับ พรรคการเมือง และปฏิบัติกับ ส.ส.-นักการเมืองเหมือนเป็นทหารผู้ใต้บังคับบัญชา จนสร้างความเอือมระอาให้กับคนในพรรคเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เลยพร้อมใจกันบีบพลเอกวิชญ์ ยึดพรรคคืนมาให้ธรรมนัส
ต้องดูกันว่า พรรครวมแผ่นดิน ภายใต้การนำของพลเอกวิชญ์ ที่มาอยู่เป็นพรรคที่สามแล้วในเวลาแค่ปีเศษหลังเปิดตัวเล่นการเมือง สุดท้ายพลเอกวิชญ์จะปรับตัวให้เข้ากับการเมืองเพื่อ แก้มือ-ล้างตา ในการทำพรรคการเมืองของตัวเอง จนไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อได้ว่า บิ๊กป้อมยังไงเสียก็ทิ้งน้องรักพลเอกวิชญ์ไม่ได้ ยังไงก็ต้องคอยช่วยเหลือ ดูแลพรรครวมแผ่นดินอยู่ห่างๆ เพื่อให้น้องรักพลเอกวิชญ์ได้มีที่ยืนทางการเมือง และให้เป็นพรรคพันธมิตรกับขั้วรัฐบาลและพลังประชารัฐต่อไป
ส่วนอีกหนึ่งพรรคที่เปิดตัวมานานแล้ว แต่ยังไม่เปิดแบบแกรนด์โอเพนนิ่งการเมือง เพราะรอ คีย์แมน ตัวจริงเข้ามาทำพรรคอย่างเป็นทางการ ก็จะมีการประชุมใหญ่พรรคกลางสัปดาห์นี้ นั่นคือ รวมไทยสร้างชาติ ที่จะจัดประชุมใหญ่พรรค พุธนี้ 3 ส.ค. ที่สโมสรราชพฤกษ์ ถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีระเบียบวาระการประชุมคือ เปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค การเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ การเปลี่ยนแปลงที่ตั้งสำนักงานใหญ่พรรค
อย่างไรก็ตาม ไฮไลต์สำคัญที่แวดวงการเมืองจับจ้องกันก็คือ การที่จะมีการเปิดตัวแกนนำพรรคตัวจริงที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ นั่นก็คือ การที่อดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส. นักการเมืองจากหลายพรรคมาร่วมทำพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยจะมี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค
โดยข่าวยืนยันล่าสุดเมื่อปลายสัปดาห์ที่มาว่า “พีระพันธุ์” ได้ตัดสินใจจะไปร่วมเปิดตัวการประชุมใหญ่พรรครวมไทยสร้างชาติ วันที่ 3 ส.ค.นี้แน่นอน พร้อมกับแกนนำที่ร่วมจัดตั้งพรรคดังกล่าว เช่น เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส.กทม. อดีตโฆษก กปปส.-วิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช และอดีต รมว.สาธารณสุข-ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง อดีตเลขาธิการพรรครวมพลังประชาชาติไทย เจ้าของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
ขณะเดียวกัน กลุ่ม ส.ส.-นักการเมืองหลายคนที่มีการพูดคุยกับกลุ่มของพีระพันธุ์ หลายคนต่างมีสัญญาใจว่าจะมาร่วมงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย แต่ขอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม มีสัญญาณการเลือกตั้งที่ชัดเจน ก็พร้อมจะมาร่วมงาน-ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติแน่นอน
พบว่าในกลุ่มที่ฝ่ายพีระพันธุ์-เอกนัฏไปคุยด้วย ข่าวว่า มีทั้งรัฐมนตรีในรัฐบาลปัจจุบัน-ส.ส.ปัจจุบัน ในพรรคฝ่ายรัฐบาล รวมถึงคนรุ่นใหม่หลายกลุ่มที่ต้องการเข้ามาทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ
ส่วนคนที่มีข่าวก่อนหน้านี้ เช่น ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล อดีตหลานเขยซีพี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่งลาออกจาก ส.ส.ประชาธิปัตย์เมื่อไม่นานมานี้ พบว่ายังไม่ได้มีการติดต่อทาบทามทางการเมืองแต่อย่างใด ขณะที่สามอดีตแกนนำ กปปส. คือ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดิจิทัลฯ และสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. มีข่าวว่าได้มีการพูดคุยกันแล้วผ่านเอกนัฏ แต่ทั้งสามคนอยู่ระหว่างรอการตัดสินใจ ขณะที่คนซึ่งเคยมีข่าวก่อนหน้านี้ เช่น จุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ ที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะมาเป็นเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติและ ส.ส.ประชาธิปัตย์อีกบางส่วน พบว่ามีการพูดคุยกันจริงหลายรอบ แต่ส่วนใหญ่จะบอกตรงกันว่า ขอเวลาตัดสินใจ เพราะยังเหลือเวลาอีกพอสมควร หากสภาอยู่ครบเทอมคือมีนาคมปีหน้า ถ้าไปตัดสินใจช่วงต้นปีหรือใกล้ๆ เลือกตั้งก็ยังทัน
เบื้องต้นข่าวว่า ชัดเจนแล้วพีระพันธุ์จะเป็น "หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ” ส่วนเลขาธิการพรรคคือ "เอกนัฏ” ส่วนที่ทำการพรรคที่ซอยอารีย์ ตอนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างเตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งเต็มสูบ
พบว่าแกนนำผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติวางเป้าหมายการเมืองไว้คือ เน้นที่การได้ ส.ส.ระบบเขตเป็นหลัก ทำให้ไม่ว่าสุดท้ายระบบเลือกตั้งจะเป็นหาร 100 หรือหาร 500 ทางพรรคจึงไม่ค่อยกังวลมากนัก และขณะนี้ก็ได้มีการวางตัวทีมงานหลักๆ ไว้บ้าง เช่น วิทยา แก้วภราดัย จะเป็นแกนนำพรรคดูแลพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งตอนนี้ก็ได้วางตัวติดต่อทาบทามผู้สมัครไว้หลายคน
หลังจากนี้รอดูกันว่า พรรครวมแผ่นดินและพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อเปิดตัวคีย์แมนพรรคและจัดทัพใหญ่ กลางสัปดาห์นี้ไปแล้ว ทั้งสองพรรคจะขับเคลื่อนพรรคอย่างไรต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนดูจะเห็นตรงกันก็คือ ทั้งสองพรรคจะเป็นพรรคที่อยู่ในปีกหรือขั้วการเมืองที่เป็นพรรคพันธมิตรการเมือง ฝ่ายเดียวกับพลเอกประวิตร-พลเอกประยุทธ์ รวมถึงพลังประชารัฐ อย่างไม่ต้องสงสัย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"
แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา
'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน
ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่
ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด
นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย
จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง
จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567
ยากจะขวาง‘โต้ง’นั่งปธ.บอร์ดธปท. แนวต้านขอสกัดจนนาทีสุดท้าย!
แม้จะมีข่าวว่า กรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเลือก เสี่ยโต้ง-นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ให้เป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่