การอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน แนวโน้มผลออกมาเหมือน 3 ครั้งที่ผ่านมา ที่รัฐมนตรีทุกคน คะแนนไว้วางใจผ่านไปได้ รอลุ้นเพียงใครได้กินบ๊วย
แต่หากเทียบฟอร์มของฝ่ายค้านในการทำหน้าที่ซักฟอกครั้งนี้ ยอมรับว่า มีบางพรรคสอบผ่านและพอจะเป็นความหวังของประชาชนได้
ขณะที่บางพรรคทำผลงานได้น่าผิดหวัง เพราะเริ่มต้นโหมโรงอย่างตื่นเต้น แต่สุดท้ายมี "แต่น้ำ ไม่มีเนื้อ"
โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ถึงเวลาอภิปรายจริง นำเสนอข้อมูลเดิมๆ ไม่มีข้อมูลใหม่ เน้นแต่ลีลา โวหาร เน้นวาทกรรม ตีกินดิสเครดิตทางการเมืองหวังหลอกต้มประชาชน
สุดท้ายถูกฝ่ายรัฐบาลตอกกลับจนหน้าหงายสะเทือนไปถึง "นายใหญ่" ทักษิณ ชินวัตร ต้องจุกอกถึงแดนไกล
ดังเช่น "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม โต้กลับกลางสภาฯ ว่ามีอยู่คำหนึ่งติดค้างตั้งแต่วันแรกแล้วที่บอกจะทำลายนั่งร้านรัฐบาลเด็ดหัว คำพูดนี้ควรใช้ในสภาฯ หรือทางสื่อหรือไม่
“วันนี้ผมมีนั่งร้าน ผมนั่งอยู่บนนั่งร้านเพราะผมเป็นหัว ท่านก็มีนั่งร้านของท่าน แต่ท่านไม่มีหัว หัวขาดไปแล้ว!”
เช่นเดียวกับ "เสี่ยหนู" นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.สาธารณสุข ถือโอกาสซัดกลับฝ่ายค้านหลังถูกอภิปรายเรื่องกัญชา ที่พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ไม่สมราคาที่คุยไว้
รวมทั้งยังอัดไปที่ ส.ส.บางคนที่เคยเป็น "หมอ" บัดนี้ยังด้อยค่าวัคซีน และปั่นกระแสดรามาโควิด ทั้งที่สถานการณ์ในประเทศดีขึ้นเพราะกระบวนการของกระทรวงหมอที่ผ่านมา
โดยไม่ยอมใช้ข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือตามหลักวิชาการ แต่หวังใช้การมโน และเปิดหาข้อมูลตามอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
จึงทำให้ “ยุทธการเด็ดหัวสอยนั่งร้าน” จืดสนิท แถมยังถูก “เสี่ยหนู” ย้อนความจำถึง "เจ้าของคอก" ว่า “ถ้าฉีดวัคซีน 100 ล้านโดส ได้ภายในปี 2564 ร้อยบาทเอาขี้หมากองเดียว”
กระทั่งสุดท้าย กระทรวงสาธารณสุขก็ฉีดได้ 100 ล้านโดส ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.2564 เล่นเอา ทักษิณ ยอมรับว่าพนัน และบ่ายเบี่ยงแถไถไปเรื่องอื่น "เสียราคานายใหญ่"
รวมถึงที่จะเรียกแต้ม แต่ก็ทำเสียแต้มคาไมค์ หลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้าน หวังโจมตี รัฐบาล 608 แต่ผิดเหลี่ยม ถูกตีความเป็นการบูลลี่ประชาชนกลุ่มหนึ่ง
ถูก นายกฯ บิ๊กตู่ ฉวยจังหวะโต้เจ็บๆ ว่า "ที่ท่านพูดถึง 608 ท่านต้องให้เกียรติคนกลุ่มนี้ด้วย เป็นประชากรสูงอายุ เราต้องให้ความสำคัญคนเหล่านี้โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ"
ขณะที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่คุยโวหวังจะขย้ำรัฐมนตรีเรื่องทุจริตท่อส่งน้ำอีอีซี
แต่เจอ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เตรียมการบ้านมาดีโชว์ตัวเลขของเอกชนรายเดิมเคยให้ผลตอบแทนต่ำไม่ถึง 600 ล้านบาท เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ต่างจากเอกชนที่ได้รับคัดเลือกให้ผลตอบแทนรัฐเกือบ 26,000 ล้านบาท ใน 30 ปีข้างหน้า พร้อมตั้งคำถามผู้อภิปรายว่า "รับงานใครมาหรือไม่"
ที่น่าอนาจสุด หนีไม่พ้น น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ที่ยังยืนยันว่า จะหยิบเรื่องใต้เตียงในครอบครัว ไม่สนใจว่าจะกระทบ "เด็ก" มาอภิปรายทำลายรัฐมนตรี มากกว่ามุ่งเน้นนำเสนอหลักฐานที่ชัดเจนเรื่องความไม่ชอบมาพากลในกระทรวง
กระทั่งถูก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โต้กลับอย่างดุเดือดว่า "มาตรฐานมันต่ำ...การพูดเรื่องมันต่ำ คนพูดก็จะต่ำไปด้วย ภาพมันจะติดตัวท่านไปด้วย และคนที่ให้ข้อมูลท่านพูดเรื่องนี้ไม่ได้หวังดีกับท่าน"
แตกต่างจากการทำหน้าที่ของเพื่อนบ้านฝ่ายค้าน อย่าง พรรคก้าวไกล (กก.) อาทิ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล โดยเฉพาะการเปิดข้อมูลใหม่ล้วงลึกในการอภิปรายรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล จนบางคนลุกหนีกลางดึกไปดื้อๆ และขอเวลาเตรียมตัวหาข้อมูลมาชี้แจงภายหลัง
ฉะนั้นเทียบฟอร์มของพรรคแดงและพรรคส้มแล้ว เรียกได้ว่า พรรคก้าวไกลทำหน้าที่ได้สมศักดิ์ศรี และไม่มีมวยล้มต้มคนดู ทำให้ประชาชนยังพอฝากความหวังช่วยพยุงฝ่ายค้านทั้งหมดเอาไว้ได้
ยิ่งในอนาคตหากพรรคก้าวไกลปรับท่าทีทางการเมือง ลดดีกรีความสุดโต่ง เน้นตรวจสอบรัฐบาล ก็เชื่อว่าจะมีที่ยืน และมีโอกาสทำงานการเมืองต่อไป เลื่อนชั้นเป็นความหวังใหม่ของประชาชน
สวนทางกับ "พรรคเพื่อไทย" ภายใต้ระบอบทักษิณ-ครอบครัวชินวัตร ที่บงการลูกพรรค แต่ชกไม่เข้าเป้า นับวันจะกลายเป็นแค่ความหลัง หรือ "ตะวันใกล้ตกดิน"!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สส.ปชน.' จับตา 'ทักษิณ-อันวาร์' พบกันกลางทะเลในที่แปลกๆ น่าสนใจคุยอะไรกัน
นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เกือบจะ 24 ชั่วโมงแล้ว เพจของนายกฯ อันวาร์ยังไม่ได้บอกเล่าเกี่ยวกับการพบปะกลางทะเล
'อดีตบิ๊กศรภ.' ฟันธง! หลัง ม.ค.68 'ทักษิณ' จะคึกคะนองไม่ออก
พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ ทักษิณ VS. สนธิกับสหายร่วมรบ หลังมกราคม 68 มีเนื้อหาดังนี้
เอาแล้ว 'บิ๊กเนมหลายวงการ' พูดเหมือนกัน รัฐบาลคงอยู่ไม่ครบเทอม น่าจะไม่พ้นปีหน้า
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า พูดเหมือนกัน
ผวาหายนะ! บี้ '2พ่อลูกชินวัตร' ทบทวนพฤติกรรม บ้านเมืองไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราข โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทักษิณ คุณเป็นใคร? หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร
พ่อบงการ ลูกตามสั่ง
“พ่อบงการ ลูกตามสั่ง” ผ่าน “รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร” คงไม่เกินเลยความเป็นจริง เพราะเมื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ มีคำบัญชาผ่านเวทีต่างๆ รัฐบาลชุดนี้ก็สนองนโยบายทันที โดยไม่สนใจว่ารัฐบาลจะขาดความน่าเชื่อถือ และยำเกรงต่อกฎหมายมิให้คนนอกเข้ามาครอบงำแต่อย่างใด”.
สส.ปชน. ถามมาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข้องใจ 'ทักษิณ' บอกจะช่วยจัดการ
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม พิจารณาวาระกระทู้ถามทั่วไป ของนายธีรัจชัย พันธุมาศ สส. กทม. พรรคประชาชน