เปิดฉากอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในวันอังคารเป็นวันแรก เรื่อยไปจนถึงวันศุกร์ที่ 22 ก.ค. โดยก่อนทำศึกครั้งสุดท้าย ฝ่ายค้านโหมโรงน่าดู พรรคเพื่อไทยทำโปสเตอร์พร้อมปล่อยทีเซอร์คุณภาพตัดต่อระดับ Netflix โปรโมต ซึ่งถือว่าได้รับความสนใจจากสังคมระดับหนึ่ง
ฟาก ก้าวไกล ก็ไม่น้อยหน้า โหมโรงปล่อยภาพนิ่งรวมดาวฝีปากกล้าของพรรค ห่มขาว-ดำ ยกมือพนมสวดศพ ภายใต้ธีม “ตอกประตูปิดตาย ทะลายระบอบประยุทธ์” พร้อมกับแย้มหนังตัวอย่าง อาทิ GT-200 นาฬิกาเพื่อน ทุจริตอนุสาวรีย์ นักรบไซเบอร์ (ที่เหนือกว่า IO) เบื้องหลังค่าไฟแพง เผด็จการข้ามพรมแดน
โดยพรรคเพื่อไทยวางคิวศึกซักฟอก 4 วัน 4 คืน จะเริ่มเปิดฉากด้วยการเปิดญัตติของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นจะเริ่มด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ต่อด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จากนั้นเป็นขบวนรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนเลี้ยวไปหาที่ รมต.ของพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ และปิดท้ายด้วยไฮไลต์กล่องดวงใจรัฐบาล 3 ป. โดยคนที่จะขึ้นเขียงเป็นคนสุดท้ายเต็มๆ 30 ชั่วโมงคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม
ขณะที่ฝั่งรัฐบาล นำทีมโดย เฮียไช้-นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) สั่งระดมทีมเพื่อนแท้ทั้ง “ภูมิใจไทย” และ “ประชาธิปัตย์” ร่วมรบเคียงข้าง 11 รมต.
ส่วน “พลังประชารัฐ” รอบนี้โดนจัดหนัก ฝ่ายค้านจ่อฟันถึง 6 คน จึงต้องตั้งทีมขึ้นเป็นองครักษ์ โดยชุดแรก ทีมปราบมาร มีทั้งขุนพล หัวหมู่ทะลวงฟันผสมกัน 11 คน ได้แก่ 1.นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2.นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3.น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตร ส.ส.สระบุรี 4.พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี 5.นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. 6.นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช 7.นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ 8.นายภาคิน สมมิตรธนกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 9.นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช 10.นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. และ 11.นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส.กทม.
ขณะที่ชุดที่สองเป็น ทีมเจ้ายุทธ์ ซึ่งจะเป็นคนนอก 2-3 คน ทำหน้าที่เสมือนม้าเร็ว คอยตอบโต้และชี้แจงข้อมูลนอกห้องประชุมสภา ส่วนจะเป็นใครนั้น “เฮียไช้” ขออุบไว้ก่อน
แต่สิ่งที่ต้องจับตาคือเกมใต้ดินของ ผู้กองยอดรัก-ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ที่ตอนนี้ประกาศเป็น “ฝ่ายค้าน” เต็มตัว 100 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่เข้าป่ารอยต่อฯ ไปกราบลา นายป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็รู้กันดีว่าเป็นคนเลี้ยงลิงมาหลายปี ยิ่งผลงานล่าสุดปรากฏชัดเจนจากเคส “กบฏธรรมนัส” ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือน ก.ย.64 หวิดทำนายกฯ ตกเก้าอี้ จนเป็นที่มาของการปลดฟ้าผ่าเด้งพ้น “รมช.เกษตรฯ”
ในความเคลื่อนไหวของ ผู้กอง กับ พรรคเล็กๆ ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพราะวันนี้ครอบครัวธรรมนัสที่เขาเคลมว่ามีถึง 30 เสียง อย่างไรก็ตาม หากกลับไปดูจำนวน ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสภาขณะนี้มีจำนวน 477 คน เป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล 269 เสียง ส.ส.ฝ่ายค้าน 208 เสียง และเมื่อ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยถอนตัวไป 16 เสียง รัฐบาลก็จะเหลือ ส.ส. 249 เสียง ส่วนฝ่ายค้านจะมีเพิ่มมาเป็น 224 เสียง
ทั้งนี้ รัฐมนตรีจะต้องได้รับคะแนนโหวตเกินกึ่งหนึ่งของ ส.ส.เท่าที่มีอยู่ในสภา หรือ 239 เสียง ทว่าตัวเลขดังกล่าวคือตัวเลขกลมๆ เท่านั้น เพราะยังมี “ส.ส.งูเห่า” ทั้งจากพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ที่พร้อมแสดงตนในสงครามครั้งสุดท้าย และมั่นใจรัฐบาลเอาอยู่
สุดท้ายต้องจับตาว่า รมต.คนใดจะกินบ๊วยได้คะแนนเป็นที่โหล่ ซึ่งจะเป็นข้ออ้างนำสู่การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งสุดท้าย เพื่อรองรับแผนการเลือกตั้งของแต่ละพรรคการเมือง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ก้าวต่อไป ‘รทสช.’ ปี 2568 ติดสปีดผลงาน-โกยคะแนน
ต้องฝ่าฟันมรสุมกันระลอกใหญ่ส่งท้ายปี 2567 สำหรับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จากพรรคน้องใหม่จนถึงปัจจุบันสู่ปีที่ 3 แล้ว ภายใต้การนำของ “พี่ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค ซึ่งพรรคได้โควตาร่วมทัพรัฐบาลเพื่อไทย และได้กระทรวงที่หมายปองมาครอบครองสมใจ
การเมืองไทยปี 68 เข้มข้น-ขับเคี่ยว-ร้อนแรง ซักฟอกมี.ค.-ปรับครม.กลางปี
การเมืองไทยไม่ว่าปีไหนๆ ก็มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นได้ตลอด บางเรื่องเกิดขึ้นตามปฏิทินการเมือง แต่บางประเด็นเป็นความร้อนแรงที่แทรกขึ้นมาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
'ปชน.'ถอย'ม.112'แลกอุดมการณ์ เพิ่มคะแนนนิยม'เท้ง'เฉือน'อิ๊งค์'
ผลสำรวจความเห็นของประชาชน 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หัวข้อ ความนิยมทางการเมือง ในไตรมาส 4 ปลายปี 2567 ให้ผลที่น่าสนใจ เมื่อ 'เท้ง’- นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) เป็นนักการเมืองที่ประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุดอันดับ 1
ปี67‘อดีตสว.’ขยับสะเทือนถึงรัฐบาล ถอดถอน‘เศรษฐา’ที่มาของหลายเรื่อง
การเมืองรอบปี 2567 เหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดต้องยกให้กับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้ “แพทองธาร ชินวัตร” กลายเป็นนายกฯ หญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย และทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นตามมา วันนี้จึงขอบันทึกเรื่องราวนี้ไว้ ยกให้เป็นเหตุการณ์แห่งปี
‘ทักษิณ’ไม่กล้าเขี่ย‘ภท.-รทสช.’
เป็นความสัมพันธ์ที่แม้แต่คนภายนอกยังมองออกว่ากระท่อนกระแท่น สำหรับความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
สวมบท'อินฟลูอาเซียน' จุดเสี่ยงใช้ประเทศเดิมพัน?
ยืนยันชัดเจนจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หลังโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Anwar Ibrahim พร้อมรูปภาพคู่กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี