หลังหลบหนี-หมายจับอยู่ร่วมสัปดาห์กว่า ในคดีสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกฯ อบจ.ปราจีนบุรี กับพวกรวม 10 คน กรณีการออกโฉนดที่ดินที่ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเขตป่าไม้ถาวร จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งคดีสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกเอกสิทธิโดยมิชอบ คดีขาดอายุความไปเมื่อ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา
สุดท้าย เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา สุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี พ่อนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ เข้ามอบตัวกับตำรวจตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง
โดยมีรายงานว่า สุนทรพร้อมลูกชายและคนสนิท เข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองระยอง โดย ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ ส.จ.โต้ง บุตรบุญธรรม ของนายสุนทร กล่าวไว้ที่ สภ.เมืองระยอง ระหว่างตำรวจสอบปากคำ นายสุนทรกล่าวว่าไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่เนื่องจากลูกน้องติดโควิด-19 จึงต้องกักตัว และยังป่วยด้วยโรคข้อเข่าเสื่อม จึงพักรักษาตัวอยู่ภายใน จ.ปราจีนบุรี พออาการดีขึ้นจึงเข้ามามอบตัวในวันนี้
ขณะที่ สุนทร วิลาวัลย์ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ที่ผ่านมาไม่ได้หลบหนีไปไหน อยู่ปราจีนบุรีโดยตลอด มีอาการป่วย พออาการดีขึ้นก็มามอบตัวในวันนี้ ขอยืนยันในความบริสุทธิ์ ไม่มีอะไรที่ต้องหนี ไม่หนักใจ ไม่มีอะไรผิดกฎหมาย
และต่อมาวันเดียวกัน ตำรวจได้นำตัวนายสุนทรส่งต่อให้อัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตภาค 2 เพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาล ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ในคดีร่วมกับพวกรวม 10 คน มีส่วนร่วมบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงปี 2545
ที่ปรากฏว่า หลังอัยการนำตัวมาส่งฟ้องต่อศาล ทางศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 มีคำสั่งประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา และกำหนดนัดสอบคำให้การจำเลย ในวันที่ 5 ส.ค.65 เวลา 09.30 น. ที่เป็นวันเดียวกับที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ก็นัดนางกนกวรรณ รมช.ศึกษาธิการ ที่ตอนนี้ตกเป็นจำเลยในคดีดังกล่าว มาสอบคำให้การจำเลยในวันดังกล่าวเช่นเดียวกัน
โดยศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยคือนายสุนทร ระหว่างพิจารณา โดยใช้หลักประกันเป็นเงินสด 600,000 บาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
เท่ากับว่าสุนทรได้อิสรภาพ กลับไปเตรียมตั้งหลักสู้คดีต่างๆ ที่ตัวเองถูกฟ้องเอาผิด โดยเฉพาะคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ที่อายุความยังไม่ขาด
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เลี่ยงไม่พ้นที่สังคมจะวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้น เช่น ที่ผ่านมานายสุนทรไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ทำไมตำรวจติดตามหาตัวไม่เจอ และที่ผ่านมานายสุนทรได้มีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ในการจะขอเข้ามอบตัว เพราะหากไม่คิดหลบหนี แล้วทำไมไม่มอบตัวก่อนวันที่ 13 มิ.ย. อีกทั้งเมื่อมามอบตัวกับตำรวจและอัยการแล้ว มีการนำตัวไปส่งฟ้องต่อศาล ทางตัวนายสุนทรได้ชี้แจงต่อศาลไว้อย่างไรถึงช่วงที่หายตัวไป จนได้รับการประกันตัว?
คงเป็นเรื่องที่สังคมตั้งคำถามกันไม่ใช่น้อย ว่านักการเมือง ผู้มีอำนาจ สามารถไปตั้งหลักสู้คดี จนคิดว่าเคลียร์ทางต่างๆ ได้แล้ว ก็ออกมามอบตัวแบบนี้ แล้วถ้าเป็นประชาชนคนธรรมดาจะทำได้หรือไม่
ส่วนปมอื่นๆ เกี่ยวกับคดีของนายสุนทร เรื่องอื่นๆ เช่น การที่จะต้อง หลุดจากเก้าอี้นายกฯ อบจ.ปราจีนบุรี เพราะกระทรวงมหาดไทยอาจใช้กระบวนการเพื่อทำให้นายสุนทรหลุดจากตำแหน่ง ตามประมวลจริยธรรมผู้บริหารท้องถิ่นของกระทรวงมหาดไทยที่เพิ่งประกาศเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รวมถึงการดำเนินการตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด สอบสวนเอาผิดนายสุนทร ถูกเอาผิดคดีอาญาและหนีหมายจับ โดย รมว.มหาดไทย ที่ก็คือ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา สามารถปลดนายสุนทรออกจากตำแหน่งได้ ผนวกกับที่ดินที่ครอบครองโดยมิชอบในพื้นที่เขาใหญ่ปราจีนบุรี ก็อาจจะถูกกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิและยึดคืนทั้งหมด หากคดีถึงที่สุดแล้วพบว่าเป็นการได้เอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบ
สิ่งนี้คงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไปว่ากระทรวงมหาดไทยจะเร่งดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วและทำทันทีหรือไม่ และจะปล่อยเรื่องค้างคาไว้
ซึ่งขั้นตอนของเรื่องนี้ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระบวนการถอดถอนนายสุนทรออกจากนายกฯ อบจ. ปราจีนบุรี ว่าเป็นเรื่องของจังหวัดปราจีนบุรี ที่จะต้องดำเนินการสอบสวนและตรวจสอบ แล้วรายงานต่อไปยังอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ก่อนที่จะรายงานต่อ รมว.มหาดไทย ซึ่งหากเห็นชอบก็ให้ รมว.มหาดไทยลงนามถอดถอน ซึ่งในอดีตเคยมีกรณีถอดถอนนายก อบจ.มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม เรื่องการหลุดจากเก้าอี้ทางการเมือง ชั่วโมงนี้สำหรับ “บ้านใหญ่ ปราจีนบุรี ตระกูลวิลาวัลย์ ทั้งสุนทรและกนกวรรณ รมช.ศึกษาธิการ” คนในบ้านใหญ่วิลาวัลย์คงคิดว่าเป็นเรื่องเล็กไปแล้ว เพราะคดีอาญาเรื่องบุกรุกป่า-สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ที่กำลังเผชิญอยู่หนักหนากว่ากันเยอะ เป็นเรื่องเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง-ถูกยึดทรัพย์ที่ดินฯ
อาจจะมีที่ต้องเป็นห่วงเก้าอี้บ้าง รายของกนกวรรณ-รมช.ศึกษาธิการ ดูจะน่าห่วงมากกว่า เพราะหากวันที่ 5 ส.ค. ศาลอาญาฯ สั่งให้กนกวรรณหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่จากการเป็น รมต. งานนี้ก็พักยาว เพราะกว่าคดีจะพิจารณาเสร็จสิ้นก็กินเวลาเป็นปี และหากกนกวรรณไม่รอด คงมีการปรับ ครม.ตามมา
บนการจับตาว่า หรือไม่แน่ 5 ส.ค. ศาลอาญาคดีทุจริตฯ อาจสั่งให้ทั้งกนกวรรณและสุนทร 2 พ่อลูก หยุดพักการปฏิบัติหน้าที่พร้อมกันทั้ง 2 คน ถ้าเกิดกรณีไปถึงวันที่ 5 ส.ค.แล้ว กระทรวงมหาดไทยยังไม่มีการปลดนายสุนทรออกจากนายกฯ อบจ.ปราจีนบุรี ที่หากเกิดศาลอาญาคดีทุจริตฯ มีคำสั่งออกมาก่อน คงยิ่งทำให้การปลดนายสุนทรออกจากเก้าอี้นายกฯ อบจ.ปราจีนบุรี ยิ่งมีความชอบธรรมมากขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เหลี่ยม"ทักษิณ"หาเสียงนายกอบจ. ก้ำกึ่ง สุ่มเสี่ยง ผิดกฎหมายเลือกตั้ง
การปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง ทั้งสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพาดพิงคู่ปรับทางการเมืองอย่างดุเดือด
'คุมขังนอกเรือนจำ'ความหวังใหม่ ระบบยุติธรรมหรือประตูสู่ความลำเอียง
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบยุติธรรม โดยในปี 2568 กรมราชทัณฑ์จะเริ่มใช้ ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อลดความแออัดในเรือนจำ
‘แม้ว’ห้าว!ผ่านสนาม อบจ. ท่าทีมั่นใจ‘ความปลอดภัย’
ห้าวทุกเวที! 4 จังหวัด อุดรธานี อุบลราชธานี เชียงใหม่ เชียงราย ที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ไปช่วยผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ.หาเสียง
ก้าวต่อไป ‘รทสช.’ ปี 2568 ติดสปีดผลงาน-โกยคะแนน
ต้องฝ่าฟันมรสุมกันระลอกใหญ่ส่งท้ายปี 2567 สำหรับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จากพรรคน้องใหม่จนถึงปัจจุบันสู่ปีที่ 3 แล้ว ภายใต้การนำของ “พี่ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค ซึ่งพรรคได้โควตาร่วมทัพรัฐบาลเพื่อไทย และได้กระทรวงที่หมายปองมาครอบครองสมใจ
การเมืองไทยปี 68 เข้มข้น-ขับเคี่ยว-ร้อนแรง ซักฟอกมี.ค.-ปรับครม.กลางปี
การเมืองไทยไม่ว่าปีไหนๆ ก็มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นได้ตลอด บางเรื่องเกิดขึ้นตามปฏิทินการเมือง แต่บางประเด็นเป็นความร้อนแรงที่แทรกขึ้นมาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
'ปชน.'ถอย'ม.112'แลกอุดมการณ์ เพิ่มคะแนนนิยม'เท้ง'เฉือน'อิ๊งค์'
ผลสำรวจความเห็นของประชาชน 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หัวข้อ ความนิยมทางการเมือง ในไตรมาส 4 ปลายปี 2567 ให้ผลที่น่าสนใจ เมื่อ 'เท้ง’- นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) เป็นนักการเมืองที่ประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุดอันดับ 1