ย้อนรอย “จีที 200” อดีตไล่ล่า “อำนาจขาลง”

กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจไม่น้อย จากกรณี นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล เปิดอภิปรายระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ย้อนหลังไปถึงความไม่ชอบมาพากลในการใช้งบประมาณของกองทัพบกที่ไม่อยู่ในเอกสารงบ ปี 2565 เกี่ยวกับการจ้าง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ตรวจพิสูจน์เครื่อง จีที 200 จำนวน 757 เครื่อง วงเงิน 7,570,000 บาท ทั้งที่รู้กันโดยทั่วไปว่าเครื่องมือดังกล่าวใช้การไม่ได้นับแต่มีคดีฟ้องร้องในต่างประเทศ

ตามมาด้วยคำชี้แจงของ พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ที่ระบุว่า การดำเนินการเป็นไปตามคำแนะนำของอัยการสูงสุด เพราะสาระสำคัญของคดีคือต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเครื่องใช้ไม่ได้ ก่อนที่จะได้รับเงินค่าเสียหายกว่า 683 ล้านบาทตามคำสั่งศาล เป็นประเด็นที่ถูกโยนไปให้สำนักงานอัยการสูงสุดชี้แจง

ทำให้ นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ต้องออกมาไล่เรียงไทม์ไลน์ของคดีในการอ้างคำแนะนำจากอัยการสูงสุดนั้นมีข้อเท็จจริงอย่างไร  

13 ม.ค.60 อัยการสูงสุดได้รับหนังสือจากกองทัพบกขอให้สำนักงานอัยการสูงสุดจัดอัยการยื่นฟ้องบริษัท เอวิเอ แซทคอม ผู้ถูกฟ้องที่ 1 กับพวก สัญญาวงเงิน 683,900,000 บาท ซึ่งอัยการสูงสุดได้มอบให้สำนักงานอัยการคดีปกครองเป็นผู้พิจารณาว่าต่าง และได้มอบหมายให้สำนักงานอัยการคดีปกครอง 5 เป็นผู้รับผิดชอบสำนวน 

24 ม.ค.60 อัยการผู้ตรวจสำนวนได้มีหนังสือแจ้งให้กองทัพบกดำเนินการส่งเครื่องไปตรวจพิสูจน์ทั้งหมด 757 เครื่อง เพื่อที่จะทราบว่าเป็นของที่ไม่มีคุณสมบัติตามสัญญาจริงหรือไม่ ซึ่งในประเด็นนี้ถือว่าเป็นข้อแพ้ชนะคดี ในส่วนรายละเอียดทางกองทัพจะไปตรวจอย่างไร ราคาเท่าไหร่ ทางอัยการไม่ได้ก้าวล่วง 

 27 เม.ย.60 อัยการสำนักงานคดีปกครอง 5 ได้ยื่นฟ้องบริษัท เอวิเอ แซทคอม, นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ผู้บริหาร บริษัท เอวิเอฯ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะผู้ค้ำประกัน (วงเงิน 56 ล้านบาทเศษ), ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะแบงก์การันตี (วงเงิน 6 ล้านบาทเศษ) เป็นผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 4 โดยอัยการได้ยื่นฟ้องทุนทรัพย์ทั้งหมด 687,691,975 บาท

28 ธ.ค.60 ศาลปกครองกลางไม่รับฟ้องคดี โดยให้เหตุผลเนื่องจากขาดอายุความ

 1 มิ.ย.61 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งในคดีที่อัยการยื่นอุทธรณ์ว่าคดีไม่ขาดอายุความ พร้อมสั่งให้ศาลปกครองกลางรับคดีไว้พิจารณา

 1 ก.ย.64 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่า เครื่อง GT200 จำนวน 757 เครื่อง เป็นสินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่มีคุณลักษณะเฉพาะตามเอกสารแสดงคุณสมบัติของเครื่อง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา จึงพิพากษาว่าให้บริษัท เอวิเอแซทคอมฯ ชำระเงินให้กับกองทัพบก 683,441,561 บาท ให้ธนาคารกสิกรในฐานะผู้ออกแบงก์การันตีรับผิดชอบในวงเงิน 56,856,438 บาท ให้ธนาคารกรุงเทพฯ ในส่วนแบงก์การันตีรับผิดชอบวงเงิน 6,195,452 บาท และยกฟ้องนายสุทธิวัฒน์ ผู้บริหารเอวิเอ เนื่องจากยังฟังไม่ได้ความว่า ได้กระทำงานเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของนิติบุคคล

8 ก.ย.64 สำนักงานอัยการสูงสุดได้แจ้งผลคดีให้กองทัพบกทราบ 

23 ก.ย.64 ผู้ถูกฟ้องทุกคนยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด

8 มี.ค.65 อัยการคดีปกครองยื่นอุทธรณ์ โดยขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่ศาลยกฟ้องร่วมรับผิดกับผู้ถูกฟ้องที่ 1  7 ก.พ.65 ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ 

7 มี.ค.65 ศาลปกครองสูงสุดอนุญาตให้ถอนอุทธรณ์คดี คดีจึงเป็นอันถึงที่สุด ที่ให้บริษัท เอวิเอ แซทคอมฯ ชำระเงินให้กับกองทัพบก 683,441,561 บาท ตามคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ในส่วนที่อยู่ในศาลปกครองสูงสุดจึงมีเพียง 2 ประเด็นคือ ในส่วนของธนาคารกสิกรและธนาคารกรุงเทพ เเละประเด็นที่อัยการขอให้นายสุทธิวัฒน์ร่วมรับผิดกับบริษัท 

สรุปคือ การตรวจเครื่องจีที 200 ไม่มีความจำเป็น เนื่องจากคดีมันสิ้นกระเเสความ และเราแจ้งผลให้กองทัพบกตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.64 แล้ว 

ในประเทศไทยหน่วยงานแรกที่จัดซื้อเครื่องจีที 200 มาใช้คือ กองทัพอากาศ (ทอ.) เมื่อปี 2548 โดยจัดซื้อราคาเครื่องละ 9.66 แสนบาท ต่อมาในปี 2550-2552 หน่วยงานรัฐต่างๆ ได้จัดซื้อมาใช้งาน เนื่องจาก ทอ.นำมาใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพบว่าสามารถตรวจพบอาวุธ กระสุน และวัตถุระเบิดหลายครั้ง จนเป็นที่เชื่อมั่นของผู้ใช้งาน ทำให้ระหว่างปี 2548-2553 หน่วยงานของรัฐไทย 15 หน่วยงาน ซื้อจีที 200 มาใช้รวม 1,398 เครื่อง เป็นเงินกว่า 1,134 ล้านบาท ในราคาตั้งแต่เครื่องละ 4.26 แสนบาท -1.38 ล้านบาท

สำหรับกองทัพบกขออนุมัติจัดซื้อมากที่สุด จำนวน 12 สัญญา อย่างน้อย 757 เครื่อง วงเงิน 682.60 ล้านบาท กองทัพเรือ จำนวน 8 สัญญา อย่างน้อย 38 เครื่อง วงเงิน 39.30 ล้านบาท กองทัพอากาศ จำนวน 7 สัญญา อย่างน้อย 26 เครื่อง วงเงิน 20.89 ล้านบาท กรมราชองครักษ์ 3 สัญญา อย่างน้อย 8 เครื่อง วงเงิน 9 ล้านบาท สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม 3 สัญญา อย่างน้อย 6 เครื่อง วงเงิน 6.80 ล้านบาท สถานีตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท อย่างน้อย 1 เครื่อง วงเงิน 550,000 บาท สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองกำกับการสนับสนุนทางอากาศตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 1 สัญญา วงเงิน 1,230,000 บาท องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สระแก้ว จำนวน 1 สัญญา อย่างน้อย 2 เครื่อง วงเงิน 2,380,000 บาท อบจ.สมุทรปราการ จำนวน 1 สัญญา อย่างน้อย 3 เครื่อง วงเงิน 1,800,000 บาท กรมศุลกากร จำนวน 1 สัญญา อย่างน้อย 6 เครื่อง วงเงิน 2,556,000 บาท

แต่ในที่สุดความจริงเริ่มเปิดเผย เมื่อช่วงปลายปี 2552 เกิดเหตุเครื่องจีที 200 ทำงานผิดพลาด ทำให้เกิดเหตุระเบิดข้างโรงแรมเมอร์ลิน จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2552 และตลาดสด จ.ยะลา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2552 ผนวกกับภาคประชาชน โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของเครือข่ายในโลกออนไลน์เกาะติดเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง จึงนำไปสู่การเรียกร้องให้พิสูจน์การทำงานของจีที 200 “ด้วยวิทยาศาสตร์” (ที่มา : PPTV 30 ส.ค.61) ขณะที่ต่างประเทศเริ่มมีการตรวจสอบ มีการฟ้องร้องบริษัทผู้ผลิตเป็นคดีความและชนะคดีไปแล้ว

ดูจากผลทางคดีที่ออกมาแล้วเรื่องราวน่าจะปิดจ๊อบ และเงียบไปตามกระแส กลายเป็นตำนาน “เครื่องมือลวงโลก-ไม้ล้างป่าช้า” บทเรียนราคาแพงในการจัดซื้อจัดจ้างในราชการ หากไม่มีประเด็นกองทัพบกตั้งงบผ่าเครื่องจีที 200 ขึ้นมาอภิปราย

นำไปสู่ข้อสงสัยคลางแคลงใจรัฐที่ไม่ยอมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ผลิต เพราะเกรงจะเห็นส่วนต่างกับราคาจริงที่จัดซื้อ รวมไปถึงคดีที่ค้างอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ หรือ ป.ป.ช. ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะถูกเตะถ่วง

เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2565 สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ มีวาระพิจารณาคดีเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องจีที 200 และอัลฟา 6 ใน 5 สำนวนสุดท้าย เพื่อชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้อง แต่แล้วที่ประชุมก็ให้เลื่อนการพิจารณาออกไปหมดทุกสำนวน โดยให้เจ้าของเรื่องกลับไปดูแนวทางการลงโทษของคดีเดิมประกอบ โดย นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องเลื่อนชี้มูลความผิดกรณีการจัดซื้อจีที 200 และอัลฟา 6 เป็นเพราะการประชุมวันนั้นมีวาระหลายเรื่อง พิจารณาไม่ทัน ส่วนเรื่องที่เสนอในที่ประชุมยังให้รายละเอียดไม่ได้

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 ก.ค.2564 ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดคดีเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องตรวจวัตถุระเบิดและสารเสพติด GT 200 และ Alpha6 รวม 20 สำนวน จากการไต่สวนทั้งหมด 25 สำนวน มีผู้ถูกกล่าวหากว่า 100 ราย โดยถูกชี้มูลความผิดทั้งทางอาญาและทางวินัย โดยส่วนใหญ่ผู้ถูกชี้มูลเป็นคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง และคณะกรรมการตรวจรับงานจ้างของหน่วยงานนั้นๆ

ภายหลังการชี้มูลดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปรายละเอียดทั้งหมดเพื่อให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. รับรองมติอีกครั้ง เนื่องจากมีผู้ถูกกล่าวหาจำนวนมาก จึงต้องการให้เกิดความชัดเจน โดยใน 20 สำนวนนี้ มีผู้ถูกชี้มูลเป็นบุคคลมีชื่อเสียง เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการเทียบเท่าตำแหน่งอธิบดี เคยเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ด้วย” สำนักข่าวอิศราอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?

ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่

ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด

นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย

จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง

จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567

ยากจะขวาง‘โต้ง’นั่งปธ.บอร์ดธปท. แนวต้านขอสกัดจนนาทีสุดท้าย!

แม้จะมีข่าวว่า กรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเลือก เสี่ยโต้ง-นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ให้เป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่

โค้งสุดท้ายศึกนายกอบจ.อุดรฯ เดิมพันสูง พท.VSปชน.แพ้ไม่ได้

นับจากวันจันทร์ที่ 18 พ.ย.ก็เหลืออีกเพียง 7 วันเท่านั้น ก็จะถึงวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ศึกนายกฯ อบจ.อุดรธานี ทำให้ตอนนี้ถือว่าเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายที่จะได้รู้กันแล้วว่า

‘แม้ว’ ย่ามใจไม่เลี้ยงหลาน ทำตัวเป็น ‘ส่วนหนึ่งของปัญหา’

แม้แต่ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังตั้งคำถามต่อ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี