จริงอย่างที่ “สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ระบุเอาไว้ในวันแรกของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ที่ว่ามีคนคิดตรงกับฝ่ายค้านในเรื่องแนวทางการยกมือคว่ำกฎหมายงบประมาณฉบับนี้ในวาระแรก เพียงแต่จะกล้าหรือไม่เท่านั้น
“สำหรับเสียงฝ่ายค้านยืนยันไม่มีบกพร่อง ส่วนจะมีมาเพิ่มหรือเปล่า ผมไม่อยากคาดหวัง แต่รู้ว่ามีคนคิดตรงกัน แต่เขาจะกล้ามายกมือให้กับเรามั้ย”
“ไม่อยากคาดหวัง” และ “กล้าหรือไม่” มันพอจะเดาผลกันได้แต่วันแรกของการพิจารณาด้วยซ้ำว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้จะผ่านวาระไปได้ไม่ยาก
ไม่เช่นนั้นประธานวิปฝ่ายค้านคงไม่ต้องถึงขั้นท้าทาย เอาเรื่อง “ความกล้า-ไม่กล้า” มากระตุกบรรดาหอกข้างแคร่ของรัฐบาล
ขณะที่ตลอดการประชุม 2 วันที่ผ่านมา แม้บรรยากาศในห้องประชุมจะดุเดือด มีการตอบโต้กันไปมาของฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน แต่ไม่ถือเป็นตัวชี้วัดว่า กฎหมายงบประมาณฉบับนี้จะถูกคว่ำได้ เพราะการปะทะฝีปากกันเป็นเรื่องปกติของสภา
หากแต่เป็นบรรยากาศนอกห้องประชุมสภาต่างหากที่พอจะอ่านสัญญาณได้ ซึ่งตลอด 2 วันไม่มีความผิดปกติใด ต่างจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่แล้ว ที่บรรยากาศภายนอกห้องประชุมค่อนข้างฉุกละหุก มีความเคลื่อนไหวของแกนนำ และ ส.ส.ที่ผิดสังเกตอย่างเห็นได้ชัด
ครั้งนี้ ส.ส.ทำงานกันตามปกติ ไม่มีการเดินเช็กเสียง หรือล็อบบี้กันเหมือนศึกซักฟอก เช่นเดียวกับแกนนำรัฐบาล โดยเฉพาะพวกรัฐมนตรีที่ค่อนข้างผ่อนคลาย ไม่มีนัยว่ากำลังจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ทางการเมือง
ส่วนท่าทีของพรรคเศรษฐกิจไทยภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา แม้ ร.อ.ธรรมนัสจะไม่พูดเต็มปากว่า จะยกมือหนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณหรือไม่ แต่กลับมีการพูดถึงเรื่องการทำงานในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญแล้วว่า หากเรื่องใดเป็นประโยชน์กับประชาชนก็พร้อมสนับสนุน แต่หากไม่เกิดประโยชน์ จะต้องมานั่งพูดคุยกัน พร้อมกับกั๊กว่า จะนั่งเป็น กมธ.เองหรือไม่
ส่วนก่อนหน้านั้นคนสนิทของ ร.อ.ธรรมนัส อย่างนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.พะเยา รักษาการนายทะเบียนพรรคเศรษฐกิจไทย ได้ออกมาแสดงความชัดเจนว่า จะรับหลักการในวาระแรกไปก่อน
ส่วนพรรคเล็กเองเหมือนจะสงบลงแล้ว หลังนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทรักธรรม สมาชิกกลุ่ม 16 ออกมาเปิดเผยว่า ตนเอง นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธานกลุ่ม 16 และนายดำรง พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย เข้าพบ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในช่วงเที่ยงวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา หารือกันราวครึ่งชั่วโมง
โดยนายพีระวิทย์อ้างว่า “บิ๊กตู่ตอบรับข้อเรียกร้องของกลุ่มพรรคเล็กว่าจะให้โควตา กมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ
ส่วนก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน นายพีระวิทย์ยังออกมาพูดว่า ร.อ.ธรรมนัสบอกกับกลุ่ม 16 ว่า อย่าขวางการจัดสรรงบประมาณ
แม้เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 1 มิ.ย. ร.อ.ธรรมนัสจะหารือกับพรรคเล็กในนามกลุ่ม 16 โดยพยายามระบุว่า ยังไม่ได้มีการตัดสินใจว่าจะโหวตอย่างไร โดยย้ำหลายคนว่า เสียงแตกในกลุ่ม 16 ซึ่งจะตกผลึกกันในช่วงเย็นวันที่ 2 มิ.ย. แต่ก็ถูกมองว่าเป็นการแก้เกมไม่ให้มองว่าเป็นของตาย เพื่อให้รัฐบาลไม่ลืมสัญญาหรือสิ่งที่รับปากไว้
ในส่วนของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้แสดงความกังวล โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ได้มีการตรวจสอบเสียงล่าสุดแล้วมั่นใจว่าเสียงรัฐบาลมีพอ ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่บอกให้ไปเล่นการเมืองกันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจแทน เพราะกฎหมายงบประมาณสำคัญต่อประเทศ
จากท่าทีองคาพยพของรัฐบาล วาระแรกจึงน่าจะผ่านไปได้ เพียงแต่คะแนนจะออกมาเท่าไหร่ และใครโหวตอย่างไรบ้าง ถือว่ามีนัยสำคัญที่จะต้องจับตาในวาระที่ 2 และ 3 ต่อไป
ขณะเดียวกัน ดูเหมือนฝ่ายค้านเองจะมองข้ามช็อตไปถึงศึกซักฟอกแล้ว หลังแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคนเริ่มปฏิบัติการขย่มรัฐมนตรีในรัฐบาล ออกมาเปิดข้อมูลความไม่ชอบมาพากลบางเรื่องในแต่ละกระทรวง
นั่นหมายความว่า ฝ่ายค้านเองก็ไม่คิดว่าหอกข้างแคร่ของรัฐบาลจะมาร่วมสมทบโค่นรัฐบาลตั้งแต่วาระแรกเลย และอาจจะไม่ร่วมคว่ำในวาระ 2 และ 3 ด้วย
และหากถามใจพรรคเพื่อไทยจริงๆ ย่อมไม่อยากให้เกิดการคว่ำกฎหมายงบประมาณในตอนนี้ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เท่ากับว่ากฎหมายลูก 2 ฉบับที่สำคัญเกี่ยวกับการเลือกตั้งคือ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองส่อแท้งทันที และประเทศอาจเจอเดดล็อก
ทุกวันนี้พรรคเพื่อไทยโฟกัสไปที่กฎหมายลูก 2 ฉบับ ที่ตัวเองจะได้เปรียบในสนามเลือกตั้ง ฉะนั้นหากเกิดอะไรขึ้นก่อนกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ก็จะไม่เป็นผลดีกับตัวเองด้วยประการทั้งปวง
แต่ที่ต้องโหมโรงประหนึ่งจะน็อกรัฐบาลได้ มันเป็นเพียงฟอร์มที่ต้องเล่นใหญ่ในฐานะที่สวมหมวกฝ่ายค้านอยู่เท่านั้น
เพียงแต่ท่าทีของพรรคเล็กในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณครั้งนี้ที่พยายามปั่นป่วนรัฐบาล ถึงขั้นทำให้แกนนำในรัฐบาลต้องออกโรงเคลียร์-ต่อรอง มันทำให้พอมองเห็นว่า ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลน่าจะเหนื่อยกว่านี้หลายเท่าตัวแน่
แค่เกมของ ร.อ.ธรรมนัส และพรรคเล็ก ก็ปวดสมองแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เหลี่ยม"ทักษิณ"หาเสียงนายกอบจ. ก้ำกึ่ง สุ่มเสี่ยง ผิดกฎหมายเลือกตั้ง
การปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง ทั้งสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพาดพิงคู่ปรับทางการเมืองอย่างดุเดือด
'คุมขังนอกเรือนจำ'ความหวังใหม่ ระบบยุติธรรมหรือประตูสู่ความลำเอียง
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบยุติธรรม โดยในปี 2568 กรมราชทัณฑ์จะเริ่มใช้ ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อลดความแออัดในเรือนจำ
‘แม้ว’ห้าว!ผ่านสนาม อบจ. ท่าทีมั่นใจ‘ความปลอดภัย’
ห้าวทุกเวที! 4 จังหวัด อุดรธานี อุบลราชธานี เชียงใหม่ เชียงราย ที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรี ไปช่วยผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ.หาเสียง
ก้าวต่อไป ‘รทสช.’ ปี 2568 ติดสปีดผลงาน-โกยคะแนน
ต้องฝ่าฟันมรสุมกันระลอกใหญ่ส่งท้ายปี 2567 สำหรับ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จากพรรคน้องใหม่จนถึงปัจจุบันสู่ปีที่ 3 แล้ว ภายใต้การนำของ “พี่ตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค และ “ขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค ซึ่งพรรคได้โควตาร่วมทัพรัฐบาลเพื่อไทย และได้กระทรวงที่หมายปองมาครอบครองสมใจ
การเมืองไทยปี 68 เข้มข้น-ขับเคี่ยว-ร้อนแรง ซักฟอกมี.ค.-ปรับครม.กลางปี
การเมืองไทยไม่ว่าปีไหนๆ ก็มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นได้ตลอด บางเรื่องเกิดขึ้นตามปฏิทินการเมือง แต่บางประเด็นเป็นความร้อนแรงที่แทรกขึ้นมาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
'ปชน.'ถอย'ม.112'แลกอุดมการณ์ เพิ่มคะแนนนิยม'เท้ง'เฉือน'อิ๊งค์'
ผลสำรวจความเห็นของประชาชน 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หัวข้อ ความนิยมทางการเมือง ในไตรมาส 4 ปลายปี 2567 ให้ผลที่น่าสนใจ เมื่อ 'เท้ง’- นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) เป็นนักการเมืองที่ประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุดอันดับ 1