"บิ๊กป้อม" วางเกมชิงอำนาจยาว สวนทาง "บิ๊กตู่" ทางเดินตีบตัน

ไม่แน่ใจว่าเป็นความคิดอยู่ในใจ หรือเพราะพลั้งปากหรือไม่ หลัง "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่า "อาจมีนายกฯ สำรอง" หลังถูกถามหากนายกฯ เจออุบัติเหตุปมครองอำนาจ 8 ปี ในเดือน ส.ค. ต้องพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ หลังรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติห้ามไว้ 

แต่ก่อนที่ไฟจะลามทุ่งและกระทบไปถึงนายกฯ และเสถียรภาพรัฐบาล ในวันเดียวกัน "พล.อ.ประวิตร" รีบออกปฏิบัติเสธทันควันว่า

"มีที่ไหน ใครล่ะ เป็นนายกฯ สำรอง พูดไปเรื่อย"

เช่นเดียวกับบรรดาแกนนำ พปชร. ไม่ว่าจะเป็นแกนนำกลุ่มสามมิตร ในพรรค พปชร. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แกนนำ พปชร.ปฏิเสธว่า 

"ไม่ทราบเรื่อง" 

 รวมทั้ง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรค  

" ยังไม่ได้ยินเรื่องนี้"  

แม้เบื้องต้นผู้เกี่ยวข้องจะออกมาปฏิเสธ แต่คอการเมืองอาจไม่เชื่อ รวมทั้ง "บิ๊กตู่" ก็อาจเกิดหวาดระแวง 

เพราะเมื่อดูบริบททางการเมืองที่ผ่านมา ระหว่างความสัมพันธ์ของพี่น้อง 3 ป. ก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว มีแต่ปมเกาเหลา และกินแหนงแคลงใจกันตลอดมา   

โดยเฉพาะความพยายามของลูกพรรค ที่อยากให้ "หัวหน้า พปชร." เป็นนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นช่วงปลายรัฐบาลนี้ หรือหลังเลือกตั้งครั้งหน้า ด้วยผลประโยชน์ทางการเมือง หลังไม่ค่อยได้รับการตอบสนองจาก "บิ๊กตู่"  

เริ่มตั้งแต่กบฏใน พปชร. หลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรค ต้องการเปลี่ยนตัวนายกฯ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเดือน ก.ย. ปีที่ผ่านมา    

ต่อเนื่องด้วยกรณีที่ "บิ๊กป้อม" ไฟเขียวให้ขับ 21 ส.ส.พปชร.ออกจากพรรค โดยมี 18 ส.ส. นำโดย ร.อ.ธรรมนัส ออกไปตั้งพรรคเศรษฐกิจไทยทำการเมืองต่อไป พร้อมกดดันนายกฯ ควบคู่กับ "บิ๊กป้อม" ที่คุมบังเหียน พปชร. และไม่ยอมให้ใครเข้ามาแทรกซึมได้   

แตกต่างจาก "บิ๊กตู่" ที่ไม่มีความชัดเจนว่าทางการเมืองว่าจะเอาอย่างไร จะไปตั้งพรรคสำรองอย่างเช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ส่อแววแท้ง หลังเจอกรณี "แรมโบ้" หรือ เสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นพิษจาก กรณีคลิปหวย 15 ล้านบาท    

จนกลายเป็นของแสลง โดยเฉพาะว่าที่หัวหน้าพรรคอย่าง "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" ที่ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร. ก็ไม่กล้าโดดเข้าไปยุ่ง 

ยิ่งล่าสุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา แกนนำพรรค พปชร.ได้ขึ้นรูป "บิ๊กป้อม" สวัสดีปีใหม่ไทยตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการหาเสียง ย่อมสะท้อนและประกาศว่า "บิ๊กป้อม" ต้องการไปต่อบนเส้นทางสายอำนาจแห่งนี้อย่างแน่นอน   

สอดคล้องกับ "พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.)" ได้แสดงพลังและโชว์บารมี "บิ๊กป้อม" หลังบรรดาแกนนำ อาทิ "บิ๊กน้อย" พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรค และ ร.อ.ธรรมนัส เลขาธิการพรรค เข้ารดน้ำดำหัวที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา  

เมื่อรวมกับกระแสดิวลับกับคนแดนไกลที่ประเทศอังกฤษ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้เห็นว่าหากมีการเปลี่ยนเกม ก็จะดัน "บิ๊กป้อม" ขึ้นเสียบแทนนายกฯ ได้ทุกสถานการณ์ โดยไม่จำเป็นต้องประกาศว่ามี 

"นายกฯ สำรองหรือไม่" 

เนื่องจากหาก "บิ๊กตู่" พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ด้วยสาเหตุใดก็ตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 272 วรรค 2 ก็เปิดช่องให้เอานายกฯ คนนอกเข้ามาได้   

ในกรณีไม่สามารถรวมเสียงได้ “เกินกว่ากึ่งหนึ่ง” ของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของรัฐสภา โดยใช้เสียง “2 ใน 3” ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้ง 2 สภา ให้ยกเว้นการเลือกนายกฯ ในบัญชีพรรคการเมือง เพื่อสถาปนานายกรัฐมนตรีคนนอกได้

ซึ่ง "บิ๊กป้อม" ในฐานะผู้จัดตั้งรัฐบาล ที่มีเสียง ส.ส.พปชร. พรรคเศรษฐกิจไทย ฯลฯ แม้กระทั่งเสียงจากฝ่ายค้าน และวุฒิสภา 250 เสียง ก็สามารถเข้ามานั่งเก้าอี้สูงสุดในฐานะคนนอกได้ และตามเงื่อนไขการเมืองคงไม่ยอมปล่อยตำแหน่งนี้หลุดให้แก่บุคคลที่อยู่ในบัญชีนายกฯ ของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน  

แต่หากไม่เกิดขึ้น "บิ๊กป้อม" ก็ยังรอได้ไปถึงการเลือกตั้งรอบหน้า ที่ พปชร.ไม่จำเป็นต้องเสนอบัญชีแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว เหมือนปี 62 ที่ "บิ๊กตู่" ยังกระแสดีขายได้ พปชร.จำต้องยอมตามความต้องการของนายกฯ    

ทว่าผ่านไป 4 ปี กระแสความนิยมไม่เหมือนเดิม และที่ผ่านมายังเว้นระยะห่าง ไม่ลงมาช่วยเหลือพรรคและ ส.ส.เท่าที่ควร ฉะนั้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า แกนนำ พปชร.อาจจำเป็นต้องมีแคนดิเดตนายกฯ ลำดับ 2 และลำดับ 3 โดยมีชื่อหัวหน้าพรรค พปชร.รวมอยู่ด้วย   

ซึ่งนอกจากจะเป็นการกดดันนายกฯ ให้ต้องปฏิบัติตามแนวทางของพรรค หรือหากไม่ตอบสนอง บรรดา ส.ส.พปชร.ก็พร้อมจะเขย่า และดัน "บิ๊กป้อม" ขึ้นเป็นนายกฯ เมื่อสถานการณ์การเมืองเอื้ออำนวย  

เว้นแต่ "บิ๊กตู่" ยังอยากไปต่อ และไม่อยากถูกบีบ ก็ต้องรีบออกไปตั้งพรรคการเมืองและยืนด้วยตัวเอง. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดสลักกม.ประชามติ รธน.ใหม่ส่อลากยาว

สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ได้ข้อสรุปหลักเกณฑ์ที่จะใช้สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรียบร้อย โดยให้ยึดเสียงข้างมาก 2 ชั้น กล่าวคือ 1.ต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด และ 2.ต้องได้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ์

ชนักติดหลัง-หอกดาบ ที่ค้างอยู่ของ"ทักษิณ"

แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ย่อมต้องถอนหายใจโล่งอก ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานะ ผู้ถูกร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง-ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ "คดีล้มล้างการปกครอง" ที่ศาล รธน.มีมติยกคำร้องไปเมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา

'ชินวัตร' ตีปีกดันรัฐบาลครบเทอม วิบากกรรมไล่ล่า 'ชั้น14' หลอกหลอน

ดูจากมติเอกฉันท์ของศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?

ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่

ปักธง1ภาค1เก้าอี้นายกอบจ. ส้มเก็บชัยหรือระเนระนาด

นับถอยหลังสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ระหว่าง นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครจากพรรคประชาชน และนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย

จับตาคลอดโผแต่งตั้ง“นายพลใหญ่” ตำรวจคนสนิทฝั่งรัฐบาลพรึบยกแผง

จับตาบ่ายวันนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายล็อตแรก “นายพลใหญ่” ระดับรอง ผบ.ตร. จเรตำรวจ-ผบช. ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10/2567 เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อ “พล.ต.อ.-พล.ต.ท.” วาระประจำปี 2567