"ชินวัตร” เชิด “แพทองธาร” บทเรียน "ทักษิณ" ที่ไม่เคยจำ

นับเป็นคนในตระกูล “ชินวัตร” รุ่นที่ 4 ที่ถูกผลักดันมาเล่นการเมืองแบบเต็มตัว สำหรับ “อุ๊งอิ๊ง”

แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี

หากนับประวัติศาสตร์การเมืองไทยในช่วง 3 ทศวรรษหลัง แบ่งเป็นทศวรรษ 2540 “ทักษิณ” นำทัพ “ไทยรักไทย” ถัดมาทศวรรษ 2550 “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” (สามีเจ๊แดง น้องสาวอดีตนายกฯ) นำทัพ “พลังประชาชน” และ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น้องสาวคนสุดท้อง นำทัพ “เพื่อไทย” กระทั่งทศวรรษ 2560 “อุ๊งอิ๊ง” ได้รับบทบาทออกมานำทัพ “เพื่อไทย” 

ไม่รู้ว่าจะเรียกเครือข่าย “ไทยรักไทย” ที่ปัจจุบันคือ “พรรคเพื่อไทย” เป็นสถาบันพรรคการเมืองเพื่อประชาชน หรือเป็น “บริษัทชินวัตร” เพื่อตระกูลชินวัตรกันแน่ ภายใต้ระบอบทักษิณ 

ภาพที่ออกมาเห็นได้ชัดว่า แม้แต่ “ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรค หรือบรรดา “ผู้อาวุโส” ในพรรค ยังต้องก้มหัวให้ แสดงความเคารพให้กับสาวรุ่นอายุแค่ 35 ปี ราวกับเป็นนายหญิงจนกลายเป็นที่วิพากษ์จากสังคม สะท้อนได้จากภาพ นี่คือ “ลูกสาว” เจ้าของบริษัท ที่มีอำนาจเหนือเจ้าของพรรคเสียอีก  

การปั้นภาพ “อุ๊งอิ๊ง” กับทีมงานเป็น “คนรุ่นใหม่” แต่ต้องอยู่ใต้อาณัติคำสั่งของ “ตระกูลชินวัตร” คงจะสร้างความอึดอัดใจให้ “คนรุ่นใหม่ตัวจริง” หรือรุ่นเก๋าอยู่ไม่น้อย บางคนอาจเลือกย้ายพรรคออกจากยานแม่ไป เพราะถูกปฏิบัติเช่นสิ่งที่อยู่ในคอก  

คำถามที่น่าสนใจคือ “อุ๊งอิ๊ง” เข้ามาเป็น “ผู้นำพรรคตัวจริง” หรือแค่เกม “สับขาหลอก” ของ “ทักษิณ” เพื่อสร้างกระแส “แลนด์สไลด์” ให้ “ลิ่วล้อ” ที่เคยหนีออกจากพรรคช่วงเลือกตั้งปี 2562 กระจายไปยังพรรคต่างๆ กลับมารวมอยู่ที่ศูนย์กลางอำนาจอย่าง “เพื่อไทย” อีกครั้ง และหวังจะสร้างระบบเผด็จการรัฐสภา 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภายหลังรัฐประหารปี 2557 เป็นต้นมา “ท่อน้ำเลี้ยง” จาก “ดูไบ” เหือดแห้งเหลือเกิน ทำเอา ส.ส.หลายคนย้ายหนีไปสังกัดพรรคอื่นที่ดู “มั่นคง” มากกว่า ถัดมา 8 ปี “คนแดนไกล” พยายาม “เปิดท่อ” เปย์หนักอีกครั้ง อาจสายเกินแก้ไปแล้วใช่หรือไม่ เพราะพรรคอื่นๆ ก็โกยแต้มและผลงานทิ้งห่างไปหลายช่วง 

ต้องไม่ลืมว่ากระแสทักษิณหลายพื้นที่หายไปหมดแล้ว แทนที่ด้วย “พรรคก้าวไกล” และพรรคอื่นๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นมีเงินอย่างเดียวอาจไม่ช่วยอะไรมากนัก หากนโยบายไม่ถูกใจประชาชนอย่างแท้จริง

ยังไม่นับสารพัดคดีทุจริตต่างๆ ที่คนในตระกูลชินวัตรต้องเผชิญ ไล่เรียงมาตั้งแต่รุ่นพ่ออย่าง “ทักษิณ” รุ่นอาอย่าง “ยิ่งลักษณ์” ที่ไม่มีแผ่นดินอยู่ และแถมเอาตัวรอด ทิ้งลูกน้องหลายคนต่างติดคุกติดตะรางเพราะรับใช้ “นายใหญ่” มาแล้วทั้งสิ้น แถมยังไม่เคยสนใจไยดี หรือไม่ดูดำดูดีแต่อย่างใด  

การออกมาเขย่าตลาดการเมืองของ "อุ๊งอิ๊ง" เรียกว่าเป็นการตลาดแบบเดิมเหยียบคันเร่งโกยแต้ม เก็บคะแนน รีแบรนด์เพื่อไทยให้กลับมาอยู่ในกระแส แต่จะถึงขั้นชูเป็นแคนดิเดตผู้นำหรือไม่ อยู่ที่ทักษิณจะคิดสั้น หรือคิดยาว หรือคิดถึงเฉพาะตัวเอง

ถามบรรดาคนการเมืองคิดอย่างไรกับกระแส อุ๊งอิ๊ง ได้รับคำตอบเป็นหลายทาง หากตอบตามมารยาททางสังคมก็จะบอกว่า "ยินดีต้อนรับคนรุ่นใหม่" หรือบางคนอาจเกรงใจอดีตนายใหญ่ ตอบไปว่าไม่ขอวิจารณ์ 

ต่างจากขั้วตรงข้ามฝั่งพลังประชารัฐนั้นออกอาการอุ๊งอิ๊งเป็นพิษกันถ้วนหน้า ต่างดาหน้ากันออกมาขยี้ปนเหน็บแนม แบบนี้ภาพชัดว่าเพื่อไทยคือ ธุรกิจชินคอร์ป ทำการเมืองย้อนไปดูยุคเผด็จการรัฐสภา 

แต่ที่หนักหน่วงก็คือ นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กลุ่ม 40 ส.ว. ระบุด้วยว่า ต้องยอมรับว่านายทักษิณมีทั้งคนรัก และคนเกลียดแบบเข้ากระดูกดำ แม้จะผ่านไป 7-8 ปี ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะลุกขึ้นมาขัดแย้งกัน เพราะมีทั้งเอานายทักษิณ และไม่เอานายทักษิณ 

"คุณ (ทักษิณ) จะรีบมาทำไม ส่งอุ๊งอิ๊งเข้ามาตายในสนามการเมืองทำไม แรงอาฆาตกับแรงแห่งความรักในลูก และครอบครัว อย่างไหนแรงกว่ากัน ใจเร็วด่วนได้ไปหรือเปล่า ใครจะมองอย่างไรก็ช่าง เกมนี้ผมว่าเป็นการทำลายพรรค ทำลายลูก ทำลายครอบครัวแบบเลือดเย็น ข้อสอบทางการเมืองไม่ง่ายเหมือนอุ๊งอิ๊งสอบเข้ามหาลัย” ส.ว.วันชัยออกมาดักทาง

นี่เป็นตัวอย่างเบื้องต้น เพราะยังมีอีกหลายด่านคอยสกัด "อุ๊งอิ๊ง" จึงต้องดูว่าไพ่ใบนี้

ที่ "ทักษิณ" ปล่อยออกมาจะพลิกเกมแล้วช่วยพ่อกลับบ้านแบบเท่ๆ ได้หรือไม่ โดยไม่ต้องถูกดำเนินคดี หรือสุดท้าย เสียค่าโง่อีกเช่นเคย!.